ขายตรง/MLMNEWS/เขย่าขวดขายตรง โดย.คมกริช
เป็นที่ทราบกันดีว่าการที่ใครจะคิดเปิดกิจการทำธุรกิจเครือข่ายขายตรงในประเทศไทย จะต้องไปขอจดทะเบียนการค้ากับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อจัดตั้งเป็นบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน หลังจากนั้นก็ไปยื่นเรื่อง ขอใบอนุญาตเปิดธุรกิจขายตรงหรือการตลาดแบบตรง กับทาง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) ซึ่งสังกัดภายใต้การควบคุมของสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อได้รับใบอนุญาต จากนายทะเบียนซึ่งก็คือเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเรียบร้อยแล้ว จึงจะเปิดดำเนินการธุรกิจตามที่ขอได้ พระราชบัญญัติขายตรงและการตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 คือกฎหมายขายตรงฉบับแรกสำหรับประเทศไทย และมีผลบังคับใช้จริงๆ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2545 บริษัทขายตรงบริษัทแรกที่ได้รับการจดทะเบียนตามกฎหมายใหม่นี้คือ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จํากัด หรือมิสทีน ที่พวกเรารู้จักกันดีกับคำโฆษณาที่ว่า “มิสทีนมาแล้วค่ะ” ส่วนบริษัทขายตรง ที่ใช้แผนการตลาดแบบไบนารี่เจ้าแรก ที่ได้รับการจดทะเบียนจาก สคบ. ก็คือบริษัทซีวัน นูเทรี้ยน จำกัด เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2545 หลังจากกฎหมายขายตรงมีผลบังคับใช้ ก็ทำให้ธุรกิจเครือข่ายขายตรงคึกคักตามไปด้วย มีผู้ประกอบการมาขอจดทะเบียนเปิดธุรกิจขายตรงกับ สคบ. มากขึ้น ๆ จนเวลานี้รวมแล้วกว่า 1,000 บริษัท จากบัดนั้น พ.ศ. 2545 ถึงบัดนี้ พ.ศ 2564 เป็นเวลาถึง 19 ปีแล้ว มีประสบความสำเร็จบ้าง ไม่ประสบความสำเร็จบ้าง แต่ดู ๆ แล้วที่ไม่ประสบความสำเร็จจะมีมากกว่า ลองมาวิเคราะห์ดูถึงสาเหตุที่ไม่ประสบความสำเร็จว่ามีอะไรบ้าง?
1. มีบริษัทขายตรงมากเกินไปหรือไม่ (ดูแล้วเกิน 1,000 บริษัทก็ถือว่ามากแล้ว)
2. ผู้บริหารบริษัทขายตรง มีความรู้ความสามารถ ในการบริหารธุรกิจขายตรงนี้มากน้อยเพียงใด (ดูภูมิหลังของประธานบริษัทแต่ละท่าน)
3. สินค้าที่นำมาทำตลาดขายตรงเข้าท่าหรือไม่ (ดูที่คุณภาพกับราคา)
4. แผนการตลาด เอาเปรียบสมาชิก มากไปหรือไม่ (ดูว่ามีผู้ขึ้นตำแหน่งสูงๆ มีกี่คน)
5. ผู้นำหรือแม่ทีม หลักๆ มีมากน้อยแค่ไหน (ดูว่าผู้นำปักหลักอยู่ไม่นานหรือย้ายค่ายไปที่อื่นบ่อย)
เอาพอสังเขป 5 ข้อนี้ก่อน ทีนี้เราจะมาช่วยหาวิธีการแก้ปัญหา เมื่อบริษัทขายตรงเปิดดำเนินการไปแล้วและไม่ประสบความสำเร็จ จะแก้ไขอย่างไร? เอาอย่างนี้ดีไหม หากกรณีดำเนินการมาแล้ว ครบ 5 ปี ยอดขายปัจจุบันไม่ถึงเดือนละ 5 ล้านบาท ให้ไปจัดควบรวมกิจการ กับบริษัทอื่น ซึ่งคราวนี้ก็เป็นหน้าที่ของ สคบ. อีกที่จะต้องตรวจสอบ หาข้อมูลดังกล่าว ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ และถ้าจะให้ดีชวนทางบอร์ดขายตรง มาร่วมคิดร่วมทำด้วยก็จะดีไม่น้อยเลย แต่ถ้าคิดแต่เพียงว่าธุระไม่ใช่ ต่างคนต่าง (ไม่) ทำ อนาคตขายตรงไทย ใครล่ะคือผู้กำหนด..! คมกริช.. 5 ตุลาคม 2564
More Stories
“กิฟฟารีน” เปิดกระหึ่ม “Giffarine Flagship Store” ภูเก็ต เจาะใจกลางเมือง รับทัพลูกค้าไทย-นักท่องเที่ยวต่างชาติ
แอมเวย์ สร้างความสุข ส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดี ส่งท้ายปี
วีเอชดี ส่ง เมอริช คอฟฟี่ ชิงตลาดกาแฟสุขภาพ 3.4 หมื่นลบ.