Skip to content
15 เมษายน 2025

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

ความสำเร็จในขายตรงใครกำหนด?

เขย่าขวดขายตรง โดย คมกริบ 12  พฤศจิกายน  2564

ธุรกิจเครือข่ายขายตรงในประเทศไทย  มีกฎหมายควบคุมตาม พรบ. ขายตรงและตลาดแบบตรง  พ.ศ 2545   ซึ่งในปีหน้า พ.ศ. 2565 ก็จะครบ 20 ปีเต็ม  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  มีผู้ประกอบการสนใจในธุรกิจนี้ ขอจดทะเบียนทำธุรกิจขายตรงแล้วกว่า 1,000 บริษัท  โดยบริษัทที่ประสบความสำเร็จมียอดขายทั้งปีเกิน 1 พันล้านบาทอยู่ราว 10 กว่าบริษัท   ส่วนคนทำขายตรงหรือผู้จำหน่ายอิสระ  ที่มีรายได้ สูงๆ เกินเดือนละ 100,000 บาท มีราว 20 เปอร์เซ็นต์ในแต่ละบริษัท  ซึ่งจากภาพรวมดังกล่าวจะเห็นได้ว่า  อัตราการเติบโตยังน้อยมาก  หากจะประมวลผลถึงสาเหตุ  ที่ทำให้ธุรกิจขายตรงยังไม่โตเท่าที่ควรเพราะอะไร ตอบสั้นๆ ง่ายๆ ว่า  เพราะขาดการส่งเสริมสนับสนุนและประชาสัมพันธ์อย่างจริงจัง   ถึงเวลานี้หากจะหาข้อมูลว่า  ผลประกอบการของบริษัทขายตรงในประเทศไทย 10 อันดับแรก มีบริษัทใดบ้าง ยอดขายเป็นอย่างไร  แล้วจะไปหาคำตอบจากที่ใดถาม Google แล้ว ก็ยังไม่มีคำตอบอาจจะถามหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องเหล่านี้   ซึ่งพอจะรู้ได้ว่า มีที่ไหนบ้าง   แต่ที่แน่ๆ ตามกฎหมายขายตรง หรือกฎกระทรวง  ก็กำหนดให้ทุกบริษัทจะต้องแจ้งผลประกอบการ ทุกๆ  6 เดือน  ไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค  (สคบ.)  ในฐานะเป็นหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องนี้  หรือจะไปถามสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการขายตรงไทย   ก็คงจะได้คำตอบเพียงว่า  “ฉันก็ไม่รู้”  จะไปถามกับสื่อขายตรงที่เมื่อก่อนมีอยู่ 4-5 หัว  เดี๋ยวนี้ก็หายหัวกันไปเกือบหมดแล้ว  เพราะขาดการสนับสนุน ทางด้านงบประมาณ จากบริษัทขายตรงต่างๆ  แต่ก็ยังมีมุมมอง ที่น่าสนใจอยู่เรื่องหนึ่ง ว่าจะยกระดับธุรกิจขายตรงให้เติบโตขึ้นได้อีก  

นั่นคือความเห็นของคุณสุทธิศักดิ์  ภัทรมานะวงศ์   ซึ่งดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ  สคบ. เมื่อปี พ.ศ. 2556 ได้กล่าวไว้ว่าความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง  “องค์การมหาชน”   สำหรับควบคุมธุรกิจขายตรงแทน สคบ.  เฉกเช่นธุรกิจประกันชีวิตประกันภัย ที่มีสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย  (คปภ.)  ขึ้นมาดูแลเป็นการเฉพาะ  เพราะปัจจุบัน  สคบ.เอง  ก็มีงานที่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค  กับธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย   ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบก็ว่าได้   เจ้าหน้าที่ก็มีน้อยทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง   หากมีหน่วยงานที่มารับผิดชอบโดยตรงแล้ว   ธุรกิจขายตรงจะได้รับการพัฒนาไปได้เร็วกว่าปัจจุบัน  เมื่อเป็นเช่นนี้ถึงเวลาแล้วยัง  ที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องหันหน้ามาจับเข่าคุยกันว่า  เราจะทำอย่างไรที่จะช่วยให้ มูลค่ารวมของธุรกิจขายตรงในประเทศไทย ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายปีละ 100,000 ล้านบาท  จะต้องรออีกนานแค่ไหน  ใครมีคำตอบช่วยบอกที..  คมกริช..12  พฤศจิกายน  2564