26 พฤศจิกายน 2024

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

ความสำเร็จในขายตรงใครกำหนด?

เขย่าขวดขายตรง โดย คมกริบ 12  พฤศจิกายน  2564

ธุรกิจเครือข่ายขายตรงในประเทศไทย  มีกฎหมายควบคุมตาม พรบ. ขายตรงและตลาดแบบตรง  พ.ศ 2545   ซึ่งในปีหน้า พ.ศ. 2565 ก็จะครบ 20 ปีเต็ม  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  มีผู้ประกอบการสนใจในธุรกิจนี้ ขอจดทะเบียนทำธุรกิจขายตรงแล้วกว่า 1,000 บริษัท  โดยบริษัทที่ประสบความสำเร็จมียอดขายทั้งปีเกิน 1 พันล้านบาทอยู่ราว 10 กว่าบริษัท   ส่วนคนทำขายตรงหรือผู้จำหน่ายอิสระ  ที่มีรายได้ สูงๆ เกินเดือนละ 100,000 บาท มีราว 20 เปอร์เซ็นต์ในแต่ละบริษัท  ซึ่งจากภาพรวมดังกล่าวจะเห็นได้ว่า  อัตราการเติบโตยังน้อยมาก  หากจะประมวลผลถึงสาเหตุ  ที่ทำให้ธุรกิจขายตรงยังไม่โตเท่าที่ควรเพราะอะไร ตอบสั้นๆ ง่ายๆ ว่า  เพราะขาดการส่งเสริมสนับสนุนและประชาสัมพันธ์อย่างจริงจัง   ถึงเวลานี้หากจะหาข้อมูลว่า  ผลประกอบการของบริษัทขายตรงในประเทศไทย 10 อันดับแรก มีบริษัทใดบ้าง ยอดขายเป็นอย่างไร  แล้วจะไปหาคำตอบจากที่ใดถาม Google แล้ว ก็ยังไม่มีคำตอบอาจจะถามหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องเหล่านี้   ซึ่งพอจะรู้ได้ว่า มีที่ไหนบ้าง   แต่ที่แน่ๆ ตามกฎหมายขายตรง หรือกฎกระทรวง  ก็กำหนดให้ทุกบริษัทจะต้องแจ้งผลประกอบการ ทุกๆ  6 เดือน  ไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค  (สคบ.)  ในฐานะเป็นหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องนี้  หรือจะไปถามสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการขายตรงไทย   ก็คงจะได้คำตอบเพียงว่า  “ฉันก็ไม่รู้”  จะไปถามกับสื่อขายตรงที่เมื่อก่อนมีอยู่ 4-5 หัว  เดี๋ยวนี้ก็หายหัวกันไปเกือบหมดแล้ว  เพราะขาดการสนับสนุน ทางด้านงบประมาณ จากบริษัทขายตรงต่างๆ  แต่ก็ยังมีมุมมอง ที่น่าสนใจอยู่เรื่องหนึ่ง ว่าจะยกระดับธุรกิจขายตรงให้เติบโตขึ้นได้อีก  

นั่นคือความเห็นของคุณสุทธิศักดิ์  ภัทรมานะวงศ์   ซึ่งดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ  สคบ. เมื่อปี พ.ศ. 2556 ได้กล่าวไว้ว่าความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง  “องค์การมหาชน”   สำหรับควบคุมธุรกิจขายตรงแทน สคบ.  เฉกเช่นธุรกิจประกันชีวิตประกันภัย ที่มีสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย  (คปภ.)  ขึ้นมาดูแลเป็นการเฉพาะ  เพราะปัจจุบัน  สคบ.เอง  ก็มีงานที่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค  กับธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย   ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบก็ว่าได้   เจ้าหน้าที่ก็มีน้อยทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง   หากมีหน่วยงานที่มารับผิดชอบโดยตรงแล้ว   ธุรกิจขายตรงจะได้รับการพัฒนาไปได้เร็วกว่าปัจจุบัน  เมื่อเป็นเช่นนี้ถึงเวลาแล้วยัง  ที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องหันหน้ามาจับเข่าคุยกันว่า  เราจะทำอย่างไรที่จะช่วยให้ มูลค่ารวมของธุรกิจขายตรงในประเทศไทย ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายปีละ 100,000 ล้านบาท  จะต้องรออีกนานแค่ไหน  ใครมีคำตอบช่วยบอกที..  คมกริช..12  พฤศจิกายน  2564

Skip to content