ขายตรง/MLMNEWS /ธุรกิจเครือข่าย
ต้องยอมรับว่าการแพร่ระบาดของโควิดในปีนี้ทำให้หลายธุรกิจพังหนักหน่วง เกิดผลกระทบมากมาย สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจชาติอย่างมาก แต่ครั้นสถานการณ์การระบาดกำลังลดลง และธุรกิจเริ่มพลิกฟื้น กลับมีโควิดสายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” เกิดขึ้นอีก ยิ่งสร้างความกังวลใจให้ภาคประชาชน ภาคธุรกิจอีกครั้ง และต่างมีคำถามว่า หากสถานการณ์ของโอมิครอน ระบาดหนักเหมือนเดลต้าอีก ปีหน้าจะเป็นอย่างไร จะ OH MY GOT กันอีกหรือไม่
แต่ถึงอย่างไร มนุษย์ก็เก่ง เชื้อโรคก็เก่ง มีการพัฒนาปรับตัวให้ตนดำรงอยู่ได้ สองสิ่งต้องแข่งขันขันให้ต่างต้องอยู่รอด ซึ่งต้องรอดูกันว่าระหว่างเชื้อโรคอย่างโควิดและมนุษย์ อะไรจะอยู่รอดได้เหนือชั้นกว่ากัน
กลับมาด้านของธุรกิจ คนทำธุรกิจในปีนี้ที่เห็นคือการปรับตัวเข้าสู่เครื่องมือออนไลน์เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะธุรกิจเครือข่าย แม้การทำงานหลักของคนเครือข่ายคือแบบออฟไลน์ และถึงแม้จะถูกจำกัด แต่การปรับตัวนำเครื่องมือออนไลน์มาใช้ ส่งผลให้ธุรกิจขับเคลื่อนต่อไปได้
ซึ่งดูจากภาพรวมของธุรกิจขายตรงโลก ในช่วงที่โควิดระบาดเมื่อปลายปี 2563 โดย นายกิจธวัช ฤทธีราวี นายกสมาคมการขายตรงไทย บอกว่า อุตสาหกรรมขายตรงโลกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยมูลค่าตลาดรวม 179.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 5.8% มีนักธุรกิจอิสระที่เข้ามาใหม่กว่า 125 ล้านคนทั่วโลก เติบโตขึ้น 4.3% และจำนวนของนักธุรกิจอิสระที่มีส่วนแบ่งกว่าครึ่งอยู่ที่ 55% ของขายตรงโลก ขณะที่อุตสาหกรรมขายตรงของประเทศไทย แต่ละปีมีมูลค่าตลาดรวมถึงปีละ 7 หมื่นล้านบาท มีนักธุรกิจขายตรงไทยประมาณ 11 ล้านคนหมุนเวียนอยู่ในอุตสาหกรรมนี้
อย่าง บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีเอ็ม (SCM) เดินหน้าพัฒนาระบบดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง ให้ใช้งานได้ 100% รวมถึงเปิดแอพพลิเคชั่น และพัฒนาทีมงานให้ใช้เครื่องมือออนไลน์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เน้นการทำงานบนโลกออนไลน์มากขึ้นกว่า 80% ทั้งการจัด Event ผ่านระบบออนไลน์ทุกสัปดาห์ เพื่อให้เกิดการรับรู้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการขยายฐานของนักธุรกิจใหม่ๆ ให้เข้าสู่ระบบของ SCM ต่อไป
บริษัท เก็ทมอร์ บีอิ้ง จำกัด เน้นการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการตลาดแบบออนไลน์และออฟไลน์ควบคู่กันไป แต่จะให้ความสำคัญกับออฟไลน์ 80% เพื่อการเข้าถึงสมาชิกทั่วประเทศ ขณะที่การตลาดออนไลน์ มีการพัฒนาเครื่องมือที่รองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างครบถ้วน
ด้าน บริษัท คิวยู ซักเซส จำกัด ก็สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ “คิว ซัคเซสซิสเต็ม” รองรับทั้งเรื่องออนไลน์และออฟไลน์ให้เดินไปด้วยกันได้อย่างไม่ขัดแย้งกับแผนการตลาดระบบเครือข่าย ซึ่งเป็นการซัพพอร์ตร่วมกันในการขับเคลื่อนธุรกิจและนักธุรกิจให้ทำงานได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
หรือ บริษัท บายดีซีน อินซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ BYDZYNE เดินหน้าโปรโมทแพลตฟอร์ม “ไฮบริด อีคอมเมิร์ช” เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ในการรักษายอดปรับตัวในการทำงานผ่านออนไลน์กันมากขึ้น รวมถึงการจัดอีเว้นท์ออนไลน์ทั่วโลก ภายใต้ชื่อ “ซุปเปอร์แซทเธอเดย์” เดือนละ 1 ครั้ง เพื่ออัพเดทแนวทางการดำเนินงานของบริษัท การประกาศเกียรติคุณ การแชร์ การแชร์ประสบการณ์ของผู้นำระดับสูง ซึ่งแต่ละครั้งมีสมาชิกจากทั่วโลกเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 5,000 คน
และคาดว่าน่าจะมีบริษัทเครือเกือบทุกค่ายต่างหันมาใช้เครื่องมือออนไลน์ขับเคลื่อนธุรกิจสร้างยอดไม่ให้สะดุด ทั้งยอดขายของแต่ละบริษัทเติบโตแบบสวนกระแส เพราะคนหันมาบริโภคอาหารเสริม ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายตนเอง เพราะด้วยเชื้อโควิดที่แพร่ระบาด เป็นสิ่งที่ผลักดันให้คนหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น
ผลอีกอย่างหนึ่งของโควิด คือการส่งผลให้วงการสมุนไพรไทยคึกคักมากขึ้น ทั้งฟ้าทะลายโจร กระชายขาว ขิง หรือสมุนไพรอีกหลายชนิด ที่หลายค่ายนำมาสกัดเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น
บริษัท ไอยรา แพลนเน็ต จำกัด ส่งเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ “อิมมู เฮิร์บ” น้ำขิงกระชายเข้มข้น หอม สดชื่น ในจิบแรก ออกมาตอบโจทย์คนรักสุขภาพ และการดูแลสุขภาพในวิถีการใช้ชีวิตยุค New Normal
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ดี ไชน์” จาก บริษัท ดี เน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด ที่ทรงคุณค่าจากสารสกัดจากกระชายขาว ถั่งเช้าสีทอง ฟักข้าว ปั้คกี้หรืออึ้งคี้ มาเสริมภูมิคุ้มกันช่วยต้านไวรัส กระตุ้นการสร้างเซลล์ และผลิตภัณฑ์ 5 ราก ช่วยเสริมภูมิต้านทาน ทำให้ร่างกายแข็งแรง
บริษัท มาสเตอร์ โกลบอล (ไทยแลนด์) จำกัด ส่ง “กระชายขาว พลัสดี” กระชายขาวสกัดชนิดแคปซูล เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้บริโภคได้เสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
ส่วน บริษัท พลัสโกลด์ เวิลด์ไวด์ จำกัด พร้อมล้อนซ์น้ำสมุนไพร พลัสโกลด์ “YMX4” สูตรใหม่เข้มข้นกว่าเดิม 4 เท่า เสริมภูมิต้านทาน กระตุ้นประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาวออกสู่ผู้บริโภค
หรือ บริษัท ซีซีไอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทที่ไม่เคยหยุดนิ่งเรื่องงานวิจัยสมุนไพรไทย ภายใต้การบริหารของ ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร ประธานกรรมการบริหารบริษัท ซึ่งเป็นหนึ่งในนักวิจัยของไทยที่ศึกษาวิจัยงานด้านสมุนไพรชนิดต่างๆ มากว่า 40 ปี มุ่งมั่นยกระดับสมุนไพรไทยให้เป็น “สมุนไพรแนวนวัตกรรมใหม่” ที่สามารถส่งต่อผลิตภัณฑ์สมุนไพรทางเลือกให้กับคนไทยเพื่อใช้รักษา บรรเทา หรือบำบัด อาการของโรคให้ทุเลาเบาบางลง จึงมีหลายผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ด้านการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
และยังมีอีกหลายบริษัทนำสารสกัดของสมุนไพรไทยต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เสริมภูมิคุ้มกัน และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกหลายชนิด และเตรียมล้อนซ์ออกสู่ผู้บริโภคในปีหน้า
ซึ่งต้องจับตาดูว่า หากการระบาดของเชื้อโควิด สายพันธุ์ “โอมิครอน” ธุรกิจขายตรงจะเป็นอย่างไร จะเติบโตแบบสวนกระแสด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่เป็นเรือธงเช่นปีนี้หรือไม่ แต่ข้อดีหนึ่งของธุรกิจขายตรงคือ จะไม่มีวันตาย เพราะขายตรงคือการทำธุรกิจเสมือนเป็นนายตนเอง และในยุคโควิดมีคนหันมาสู่อาชีพนี้เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก
More Stories
“กิฟฟารีน” เปิดกระหึ่ม “Giffarine Flagship Store” ภูเก็ต เจาะใจกลางเมือง รับทัพลูกค้าไทย-นักท่องเที่ยวต่างชาติ
แอมเวย์ สร้างความสุข ส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดี ส่งท้ายปี
“กิฟฟารีน” ยืนหนึ่งแบรนด์สุขภาพและความงามสัญชาติไทย