Article
ในการผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดี การดูแลผู้ป่วยตั้งแต่ก่อนผ่าตัดจนถึงหลังผ่าตัดนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ผู้ป่วยแข็งแรงพร้อมที่จะเข้ารับการผ่าตัดรักษา ลดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด และช่วยส่งเสริมให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวภายหลังการผ่าตัดได้อย่างรวดเร็วที่สุด โปรแกรมฟื้นตัวไวหลังผ่าตัด ERAS เป็นโปรแกรมมาตรฐานสากลที่ช่วยให้การผ่าตัดฟื้นตัวได้ไว กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วขึ้น
นพ. ชนินทร์ ปั้นดี ศัลยแพทย์ด้านการผ่าตัดผ่านกล้อง ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า สำหรับผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี แพทย์จะใช้โปรแกรมฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าตัดนิ่วที่ช่วยเร่งให้การผ่าตัดฟื้นตัวเร็วขึ้น หรือเรียกว่า ERAS (Enhanced Recovery After Surgery) คือ โปรแกรมฟื้นตัวไวหลังผ่าตัด เป็นโปรแกรมที่ออกแบบเฉพาะเพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยตั้งแต่ก่อนผ่าตัด ระหว่างผ่าตัด และหลังผ่าตัด เพื่อส่งเสริมให้การฟื้นตัวหลังผ่าตัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดภาวะเครียดจากการผ่าตัด จัดการความปวดอย่างเหมาะสม ดูแลการรับประทานอาหารและเคลื่อนไหวตั้งแต่เริ่มแรกเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด ลดระยะเวลาการนอนโรงพยาบาล ซึ่งการดูแลด้วยโปรแกรม ERAS จะถูกปรับให้เข้ากับผู้ป่วยแต่ละคน โดยมีทีมสหสาขาวิชาชีพ (Multidisciplinary Team) เช่น แพทย์สาขาต่าง ๆ พยาบาล เภสัชกร ทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟู นักโภชนาการ รวมทั้ง ผู้ป่วยและญาติมีส่วนร่วมออกแบบการรักษาตั้งแต่ต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาให้หายโดยเร็วที่สุด
โดยก่อนผ่าตัดจะเริ่มตั้งแต่การซักประวัติ ตรวจร่างกายอย่างละเอียด และตรวจพิเศษเพิ่มเติมในรายที่จำเป็น การให้ข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัดอย่างครบถ้วนโดยทีมศัลยแพทย์และพยาบาล ระหว่างผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีต้องมีการวางแผนการผ่าตัดอย่างละเอียด เคสส่วนมากสามารถส่องกล้องผ่าตัดผ่านแผลเล็กเพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว เสียเลือดน้อย หลีกเลี่ยงโอกาสบาดเจ็บต่ออวัยวะข้างเคียง หลังผ่าตัดต้องจัดการความปวดอย่างดี ฝึกเทคนิคผ่อนคลายเพื่อลดความตึงเครียด ป้องกันและรักษาอาการคลื่นไส้อาเจียน สามารถรับประทานอาหารได้ตั้งแต่ระยะแรก การเคลื่อนตัวของลำไส้ที่เร็วขึ้น ทำให้ผู้ป่วยมีการฟื้นตัว รับประทานอาหาร และกลับบ้านได้เร็วขึ้น นักโภชนาการจะดูแลและตอบคำถามอย่างใกล้ชิด การเคลื่อนไหวร่างกายล่าช้าหลังผ่าตัดจะเพิ่มโอกาสการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดดำและภาวะแทรกซ้อนทางระบบการหายใจ ดังนั้นทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟูจะช่วยกระตุ้น และแนะนำให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวที่ข้างเตียงผู้ป่วยตั้งแต่วันแรกหลังผ่าตัด จนเมื่อกลับบ้านพยาบาลจะทำการนัดพบแพทย์และให้ช่องทางติดต่อในกรณีฉุกเฉิน เภสัชกรจะทบทวนและแนะนำยาที่ได้รับกลับบ้านทั้งหมดอีกครั้ง
การดูแลตัวเองให้ถูกวิธีหลังผ่าตัดเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว สามารถดำเนินชีวิตอย่างปกติได้ เพราะตับสามารถสร้างน้ำดีเพียงพอที่จะย่อยอาหาร ผู้ป่วยควรเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมตามปกติโดยเร็วที่สุด เพื่อปรับการไหลเวียนโลหิตและป้องกันลิ่มเลือดอุดตัน สังเกตภาวะแทรกซ้อนที่บริเวณแผล หากมีอาการปวด บวม หรืออักเสบ หรือมีอาการผิดปกติเช่น ปวดท้องรุนแรง คลื่นไส้หรืออาเจียน ตัวเหลือง ตาเหลือง ไม่ถ่ายอุจจาระหลังผายลมนานเกิน 3 วันหลังการผ่าตัด มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส ควรปรึกษาแพทย์ทันที การปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก เพราะเมื่อร่างกายไม่มีถุงน้ำดีแล้ว น้ำดีที่มาจากตับจะค่อย ๆ ไหลเข้าสู่ลำไส้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีผลคล้ายยาระบาย ปริมาณไขมันที่กินต่อมื้อจึงมีผลมาก ถ้าปริมาณไขมันน้อยกว่าจะย่อยได้ง่ายกว่า ในขณะที่ปริมาณมากอาจยังไม่ย่อยและทำให้เกิดแก๊ส ท้องอืด และท้องร่วง โดยเฉพาะช่วงเดือนแรก ๆ หลังการผ่าตัด จึงควรพยายามรับประทานอาหารที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ เคล็ดลับการกินหลังผ่าตัดถุงน้ำดี ช่วงสัปดาห์แรกควรทานอาหารย่อยง่าย หลังจากนั้นเริ่มกินอาหารได้ตามปกติ ควรทานอาหารที่มีคุณภาพมื้อเล็กและบ่อยขึ้น แบ่งทานวันละ 4 – 6 มื้อ เพิ่มจำนวนมื้อ แต่ลดปริมาณในแต่ละมื้อลง ช่วยให้ย่อยอาหารได้สมบูรณ์ เพราะมีน้ำดีปริมาณจำกัด หลีกเลี่ยงอาหารมื้อดึก เพราะอาจทำให้จุกแน่นได้ อาหารควรมีโปรตีนคุณภาพดี เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ควบคู่ไปกับผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสี หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟและชา อาหารที่มีรสเผ็ดมาก ๆ ลดอาหารไขมันสูงช่วยเลี่ยงอาการท้องอืดท้องเสีย เลือกกินไขมันที่ดี เช่น ไขมันจากปลา ปรุงอาหารด้วยน้ำมันพืชที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัว หลีกเลี่ยงไขมันปริมาณมาก เพิ่มการรับประทานอาหารเส้นใยสูงที่ผลิตก๊าซอย่างช้า ๆ ในช่วงหลายสัปดาห์ จะช่วยให้การเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นปกติ หลังการผ่าตัดควรบันทึกสิ่งที่กินและผลกระทบ จะทำให้รู้ว่าสามารถทานอะไรได้หรือทานไม่ได้ หลายคนสามารถกลับไปรับประทานอาหารตามปกติได้ภายใน 1 เดือนหลังการผ่าตัด
สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ อาจต้องใช้โปรแกรมหรืออุปกรณ์ในการฟื้นฟูทั้งก่อนและหลังผ่าตัด ควรรับคำปรึกษาจากแพทย์หรือนักเวชศาสตร์ฟื้นฟู เพื่อส่งเสริมให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูความแข็งแรงอย่างเหมาะสม รวมถึง การทานสารอาหารที่ช่วยให้แผลหายไว พักผ่อนให้เพียงพอโดยเฉพาะ 1 – 2 สัปดาห์แรก นอนวันละ 8 – 10 ชั่วโมง การนอนคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดและจำเป็นต่อร่างกาย หลีกเลี่ยงการนอนดึกและการดื่มน้ำมาก ๆ ก่อนนอน ทั้งนี้ หลังผ่าตัดผ่านกล้องนิ่วในถุงน้ำดี สามารถเดินได้เลยหลังผ่าตัดเมื่อตื่นดี สามารถขับรถยนต์ ทำงานเอกสารง่าย ๆ บนโต๊ะได้ภายใน 5-7 วัน ไปวิ่งจ๊อกกิ้ง ชอปปิ้ง รวมถึงมีเพศสัมพันธ์ได้ภายใน 2 สัปดาห์และสามารถออกกำลังกายเต็มที่ได้ภายใน 3-4 สัปดาห์
ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้ออกแบบโปรแกรมฟื้นตัวไวหลังผ่าตัด ERAS Program ร่วมกับผู้ป่วยและญาติ โดยมุ่งให้ผู้ป่วยแข็งแรงพร้อมผ่าตัด มั่นใจระหว่างผ่าตัด และฟื้นตัวไวหลังผ่าตัด เพื่อผลลัพธ์ที่เต็มประสิทธิภาพ ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ที่ต้องการและคืนความสุขให้ผู้ป่วยเร็วขึ้น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพ โทร.1719 หรือ แอดไลน์ @bangkokhospital
More Stories
วีเอชดี ส่ง เมอริช คอฟฟี่ ชิงตลาดกาแฟสุขภาพ 3.4 หมื่นลบ.
BDMS Wellness Clinic คว้ารางวัล CEO of the Year 2024 จาก Bangkok Post
SOLUX Clinic เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำความสวยที่มีระดับ (พรีเมียม)