“จะเพิ่มยอดขายให้บรรลุเป้าหมายในยุคโควิด”

เขย่าขวดขายตรง โดย คมกริช.. มีนาคม  2565

เป็นเวลา 2 ปีเต็มแล้ว  ที่ไวรัส covid-19 เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้การมาจุติครั้งนี้ได้สร้างปัญหาให้กับมนุษย์ทุกชาติทุกภาษา  รวมทั้งกระทบไปทั่วทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคม   ในวงการขายตรงก็เหมือนกันต้องกลายเป็นอัมพฤกษ์และแทบจะเป็นอัมพาตกันไปหมด   กระบวนการทำธุรกิจ ต้องหยุดชงักไม่ว่าจะเป็นการจัดประชุมสัมมนา   หรือการท่องเที่ยวตามโปรโมชั่นต่างๆ  จนบริษัทขายตรงต้องปรับกลยุทธ์การทำตลาดกันใหม่   จะยึดถือแบบเดิมๆเดินไปสปอนเซอร์หาสมาชิกหรือลูกทีมก็ไม่สะดวกเหมือนเก่า  จำต้องหา วิธีการทำตลาดแบบใหม่  คือการทำตลาดแบบออนไลน์   ที่ไม่จำเป็นต้องไปพบปะผู้คนให้เป็นที่รำคาญแก่โควิดอีกต่อไป   ก็ถือเป็นการแก้ปัญหาไปได้ในระดับหนึ่ง   แต่จะทำอย่างไรที่จะช่วยให้ การดำเนินธุรกิจเครือข่ายขายตรงในภาพรวม   สามารถฟื้นฟูความเติบโตกลับคืนมาให้ได้เหมือนเก่า     เห็นทีจะต้องหันกลับมาทบทวนกระบวนการบริหารจัดการของผู้เกี่ยวข้องกับ บริษัทขายตรงกันใหม่   เผื่อว่าเมื่อเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขบางอย่างแล้ว  ผลลัพธ์อาจจะออกมาดีกว่าเดิมก็ได้   เบื้องต้นส่วนของบริษัทตั้งโจทย์ว่า    “ต้องการเพิ่มยอดขายให้ได้ 10% ภายในปี 2565 นี้”   เมื่อมีเป้าหมายแล้วต่อไปก็หาวิธีทำ ซึ่งหากจะจัดโปรโมชั่น ส่งเสริมการขายขึ้นมาแน่ล่ะ ก็ต้องหางบประมาณมาสนับสนุนโครงการนี้   บริษัทจะยอมควักทุนเพิ่มหรือเปล่า   “คำตอบคือไม่”   เพียงแต่ปรับเปลี่ยนเงื่อนไข โดยโยกงบเงินกองทุนท่องเที่ยวที่ไม่มีโอกาสได้เที่ยวในปีนี้ มาบวกเพิ่มเป็นเปอร์เซ็นต์ เพิ่มเพื่อคิดโบนัสให้กับสมาชิกผู้จำหน่ายอิสระ   และอีกตัวที่จะโยกมารวมได้คืองบโฆษณาที่ปกติจะตั้งไว้ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ของบริษัท และเมื่อรวมทั้ง 2 ตัวที่ว่านี้   ก็น่าจะพอเพียงในการจูงใจให้สมาชิก มีกำลังใจเพิ่มขึ้น ต่อการสร้างยอดขาย ให้กับบริษัท   เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการต่อไป…