25 พฤศจิกายน 2024

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

NRF ส่งบริษัทย่อยในสหรัฐฯ เข้าลงทุนใน Turtle Island Foods (“TIF”)

Business

เปิดโอกาสสู่การเป็นผู้ผลิต Plant-based Food Top 5 ของโลก พร้อมมีแผนเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นชั้นนำในสหรัฐฯ

‘บมจ. เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์’ หรือ NRF ผู้ผลิตและส่งออกอาหารและเครื่องปรุงรสชั้นนำ อนุมัติให้บริษัทย่อยในเครือ โนฟ ฟู้ดส์ ในสหรัฐอเมริกา เข้าให้ความช่วยเหลือทางการเงินและลงทุนในบริษัท Turtle Island Foods, SPC (“TIF”) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชรายใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในสหรัฐอเมริกา ด้วยวงเงินกู้ยืมไม่เกิน 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รับโอกาสเข้าลงทุน TIF ในอนาคต เปิดโอกาส NRF สู่การเป็นผู้ผลิตอาหารโปรตีนจากพืช Top 5 ของโลก พร้อมมีแผน นำบริษัทย่อยเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นชั้นนำในสหรัฐฯ

นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผู้ผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาหารโปรตีนจากพืช อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมรับประทานและเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผงและน้ำ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้บริษัทย่อยในเครือ โนฟ ฟู้ดส์ ที่จะจัดตั้งขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่ง NRF ถือหุ้น 100% เข้าทำบันทึกข้อตกลงในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินและลงทุนในบริษัท Turtle Island Foods, SPC (“TIF”) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชรายใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมองเห็นศักยภาพในการเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based) มีโรงงานการผลิต ช่องทางการจัดจำหน่ายและเป็นแบรนด์สินค้าที่มียอดขายติดอันดับต้นๆ ในตลาดอุตสาหกรรมอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based) ของประเทศสหรัฐอเมริกา และมีโอกาสในการเข้าลงทุน TIF ในอนาคต โดยเงินกู้ยืมดังกล่าว TIF จะนำไปใช้ในการชำระเงินกู้ยืมเดิมจากสถาบันการเงิน และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท TIF

สำหรับรายละเอียดการทำธุรกรรมครั้งนี้ บริษัทฯ จะสนับสนุนเงินกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) แบบมีกำหนดระยะเวลาและมีหลักประกัน โดยมีวงเงินกู้ยืมไม่เกิน 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,187.2 ล้านบาท) ไม่รวมค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่าต้นทุนของแหล่งเงินทุนของบริษัทฯ ตลอดระยะเวลาของสัญญากู้ยืม โดยเป็นดอกเบี้ยที่คงที่ในปีที่ 1 และเป็นดอกเบี้ยแบบลอยตัวตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป ทั้งนี้เงื่อนไขและระยะเวลากู้ยืมดังกล่าวจะมีอายุไม่เกิน 36 เดือนนับจากวันที่มีการให้เงินกู้ยืม (drawdown) ทั้งนี้ คาดว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ของปี 2565 อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือทางการเงินในครั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนเตรียมการออกหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน โดยจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดและได้รับการอนุมัติจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม การเข้าทำรายการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่บริษัท TIF ทำให้บริษัทฯ มีสิทธิ์ ในการแปลงสภาพจากเงินกู้ยืมเป็นเงินลงทุนในบริษัท TIF (หรือมีหลักการที่เทียบเท่ากับการแปลงสภาพ) ทั้งนี้รายละเอียดและขั้นตอนการแปลงสภาพยังอยู่ในขั้นตอนปรึกษากับที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทฯและผู้ขาย เพื่อให้สอดคล้องหลักกฎหมายในประเทศสหรัฐอเมริกา

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยศักยภาพของบริษัท TIF ในการเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายอาหารจากโปรตีนพืช (Plant-based) ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง (Own Brand) อาทิ แบรนด์ Tofurky และ Moocho ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัท TIF ประกอบไปด้วย แฮม ไส้กรอก ไก่ และชีส เป็นต้น ซึ่งมียอดขายติดอันดับต้นๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีฐานการผลิตที่แข็งแกร่งอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย และนับเป็นผู้เล่นขนาดใหญ่ในตลาดค้าปลีกและซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ อาทิ Walmart และ Kroger เป็นต้น ตอกย้ำการบริหารงานแบบมืออาชีพ ภายใต้ทีมผู้บริหารของบริษัท TIF ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based) มากกว่า 10 ปี ทำให้มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจสูง

การลงทุนในครั้งนี้ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถความเป็นผู้นำด้าน Plant-based Food ให้กับ NRF เปิดโอกาสให้ NRF ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตอาหารโปรตีนจากพืช Top 5 ของโลก เสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับทั้ง 2 บริษัท ซึ่ง ความร่วมมือในครั้งนี้ สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางภูมิศาสตร์ของ NRF ที่มุ่งเน้นการขยายตลาดและฐานการผลิตไปยังภูมิภาคอื่นๆของโลก เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ารวมถึงเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาการขนส่ง โดยการเข้าลงทุนในบริษัท TIF ในครั้งนี้ถือเป็น Strategic move ที่สำคัญของบริษัทฯ ซึ่งส่งเสริมกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่จะนำบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำในสหรัฐอเมริกา ในอนาคต

Skip to content