การตลาดขายตรง/MLM /ธุรกิจเครือข่าย
ครบ 1 ปี “เก็ทมอร์ บีอิ้ง” เปิดตัวสำนักงานใหญ่ บนถนนนวมินทร์ พร้อมวางระบบชูจุดแข็งรากฐานธุรกิจครบทุกมิติ ผุดโปรโจคใหญ่ “ปลดหนี้ แฮปปี้ไลฟ์” ช่วยคนปลดหนี้ ผ่านการผันสินค้าของบริษัทสู่การต่อยอดเปิดธุรกิจอาชีพของตัวเอง เผยเป้ายอดขายปีนี้ตั้งที่ 120 ล้านบาท
ถึงจะเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการ และมาพร้อมๆ กับการระบาดของสถานการณ์โควิดที่กำลังระบาดอย่างหนักหน่วงเมื่อต้นปี 2564 สำหรับ บริษัท เก็ทมอร์ บีอิ้ง จำกัด แต่ถึงอย่างไร การขับเคลื่อนการทำงานในช่วงเริ่มต้น ซึ่งเป็นปีแห่งการวางรากฐานของธุรกิจในทุกมิติให้มีความแข็งแกร่ง ซึ่งถือเป็นความท้ายทายเป็นอย่างมากสำหรับบริษัทเครือข่ายที่เพิ่งเปิดขึ้นใหม่ ณ ขณะนั้น
แต่จนถึงวันนี้ เก็ทมอร์ เปิดดำเนินธุรกิจครบ 1 ปีแล้ว และได้พิสูจน์ถึงศักยภาพความสามารถของผู้บริหารอย่าง นายยุทธศิลป์ ทิวะทรัพย์ ประธานบริหาร บริษัท เก็ทมอร์ บีอิ้ง จำกัด แล้วว่า สามารถนำพาองค์กรและสมาชิกก้าวข้ามผ่านวิกฤตมาได้อย่างไรแข็งแรง พร้อมจัดการวางระบบรากฐานธุรกิจอยู่ 1 ปีเต็ม จนวันนี้พร้อมแล้วต่อการเผชิญความท้ายทายในช่วงนับจากนี้ ทั้งยังได้ฤกษ์ดี วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 เปิดตัวสำนักงานใหญ่ บนนถนนนวมินทร์ โดยมีทีมผู้บริหารและนักธุรกิจเก็ทมอร์ร่วมแสดงความยินดีกันอย่างชื่นมื่น
นายยุทธศิลป์ ทิวะทรัพย์ ประธานบริหาร บริษัท เก็ทมอร์ บีอิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า เป็นเวลาถึง 1 ปีที่บริษัทดำเนินธุรกิจมา จนถึงวันนี้มีความพร้อมในทุกมิติ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักธุรกิจในการก้าวไปสู่ความสำเร็จด้วยกัน โดยมีทีมผู้บริหารที่มีมากประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจเครือข่ายมาร่วมกันพัฒนาธุรกิจให้เติบโต 3 ท่าน นำโดยมนุษย์เงินล้านในธุรกิจเครือข่าย คุณอำไพ อบเชย ดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัท / หนุ่มรุ่นใหม่ ไฟแรง และเชี่ยวชาญเรื่องการตลาดออนไลน์ คุณปัญกร ตัณฑปัณณกร ดูแลตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ / และมาสเตอร์โค้ชชื่อดัง โค้ชเคน เตคุณ ตัณฑนันทการ เป็นที่ปรึกษาระบบพัฒนาสมาชิก และการฝึกอบรมนักธุรกิจ ที่จะมาช่วยกันขับเคลื่อนธุรกิจ พร้อมปูพรมชูจุดแข็งของบริษัท กับระบบ GPS หรือ Getmore Power System คือ ระบบพัฒนาศักยภาพนักธุรกิจ ที่จะสอนทักษะการสร้างรายได้ผ่านการตลาดออนไลน์ และทักษะการสร้างธุรกิจเครือข่ายแบบมืออาชีพด้วยหลักสูตร NLP โดยโค้ชมืออาชีพที่ผ่านการ Certified หลักสูตรมาจากต่างประเทศ พร้อมคอยดูแลสมาชิกอย่างใกล้ชิด
อีกทั้งระบบการตลาดออนไลน์ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของบริษัท ในการช่วยสนับสนุนซัพพอร์ทนักธุรกิจให้มีความเชี่ยวชาญเรื่องการตลาดออนไลน์ได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมกับระบบการทำงานผ่าน SaleBot หรือเซลเพจขยายธุรกิจ ที่เก็ทมอร์ ดีไซน์เครื่องมือออนไลน์ออกมาให้นักธุรกิจทุก Gen ใช้งานได้ง่าย พร้อมหลักสูตรการสอนใช้งานแบบจับมือทำ โดยเฉพาะคนที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็สามารถสร้างโอกาสบนโลกออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย
ที่สำคัญในปีนี้ เก็ทมอร์ มีแผนเปิดโปรเจ็คใหญ่แห่งปี เพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนที่มีภาระหนี้สิน กับโปรเจ็ค “ปลดหนี้ แฮปปี้ไลฟ์” นับเป็นการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มคนมีหนี้ ซึ่งเป้าหมายคนกลุ่มนี้จะสามารถเข้าถึงแหล่งอาชีพเสริม เพิ่มช่องทางการสร้างรายได้โดยการนำเสนอธุรกิจในอีกหนึ่งรูปแบบที่ไม่เน้นการขยายเครือข่าย แต่เป็นการนำสินค้าของเก็ทมอร์ไปต่อยอดสร้างเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมได้ เช่น อาชีพการทำสปาหน้า นวดแผนไทย หรือการตลาดออนไลน์ เป็นต้น
ขณะที่ด้านสินค้าของเก็ทมอร์ ปัจจุบันมีสินค้าในระบบ 12 รายการ ครอบคลุมกลุ่มอาหารเสริม เพื่อสุขภาพความงาม / กลุ่มสกินแคร์ / กลุ่มลดน้ำหนัก และในปีนี้เตรียมทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่ที่จะมาเป็นสินค้าเรือธงของบริษัทอีก 3 รายการ โดยเป็นสินค้ากลุ่มสุขภาพ 2 รายการ และกลุ่มความงามอีก 1 รายการ โดยสินค้าของเก็ทมอร์แต่ละรายการมีบุคลากรทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ คิดค้นและพัฒนาสูตร ตลอดจนเข้ามาให้ความรู้ความเข้าใจกับสมาชิกและนักธุรกิจถึงวิธีการดูแลสุขภาพ และการใช้อาหารเสริมที่ถูกต้องอีกด้วย
ทั้งนี้ นายยุทธศิลป์ ระบุถึงเป้าหมายของขายว่า “จากการประเมินสถานการณ์ และสภาพเศรษฐกิจในปีนี้ เก็ทมอร์ ตั้งเป้าหมายอย่างเป็นทางการปีแรก 120 ล้านบาท ที่แม้อาจจะไม่ได้เป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ แต่ด้วยแผนการจ่ายผลตอบแทนของเก็ทมอร์ บีอิ้ง จะส่งต่อรายได้ไปยังประชาชนคนไทยถึง 72 ล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่ นั่นคือการเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ผ่านการสร้างอาชีพให้คนไทย และด้วยอัตราการเติบของธุรกิจเครือข่าย ที่จะโตแบบทวีคูณมากขึ้นในทุกๆ ปี เก็ทมอร์ บีอิ้ง ตั้งใจที่จะหนึ่งในบริษัทฯ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมธุรกิจเครือข่าย ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน”
More Stories
“กิฟฟารีน” เปิดกระหึ่ม “Giffarine Flagship Store” ภูเก็ต เจาะใจกลางเมือง รับทัพลูกค้าไทย-นักท่องเที่ยวต่างชาติ
แอมเวย์ สร้างความสุข ส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดี ส่งท้ายปี
“กิฟฟารีน” ยืนหนึ่งแบรนด์สุขภาพและความงามสัญชาติไทย