SVT ปลื้ม Q1/65 รายได้แตะ 500 ลบ. บุกเบิกพื้นใหม่-ขยายตู้เพิ่ม ดันธุรกิจโตต่อเนื่อง

Business

“SVT” ยิ้มรับผลงานปี Q1 ปี 65 รายได้พุ่งแตะ 538.65 ล้านบาท  เร่งสปีดบุกเบิกพื้นที่ใหม่ รองรับการขยายพื้นที่วางตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ ตั้งเป้า 17,000 เครื่อง ตอบโจทย์ผู้บริโภคภายใต้บริบทชีวิตวิถีใหม่  ดันธุรกิจปี 65 เติบโตตามเป้า

นายพิศณุ  โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT ผู้นำในการดำเนินธุรกิจค้าปลีกผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (เวนดิ้ง แมชชีน :Vending Machine) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “SUNVENDING”  เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 538.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.54 ล้านบาท หรือ 10.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขายสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ การติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเพิ่มในหลายพื้นที่ และการเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 1 สาขา ทำให้การบริการครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคภายใต้สถานการณที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 22.02 ล้านบาท เพิ่มมขึ้น 0.60 ล้านบาท หรือ 2.84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยมีรายได้หลักจากการขายสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ อยู่ที่ 530.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.95 ล้านบาท หรือ 10.86 %  จากการเปิดสาขาลำพูน เป็นสาขาล่าสุด เพื่อขยายพื้นที่บริการในภาคเหนือ รวมทั้งการเพิ่มจำนวนการติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ อีก 273 เครื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันมีเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ รวม 14,901 เครื่อง และมีแผนเร่งเพิ่มการติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติอีกกว่า 2 พันตู้ เพื่อให้ครบ 17,000 ตู้ในปี 2565 และตั้งเป้าติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติให้ครบ 20,000 ตู้ ในปี 2566   

“ การดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ที่มุ่งเน้นกลยุทธ์เชิงรุก การเพิ่มจำนวนเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและขยายการติดตั้งให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงการพัฒนาระบบและจัดหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแบบสมาร์ทให้มากขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 เติบโตขึ้นทั้งรายได้และกำไร SVT ยังมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวในฐานะประกอบผู้ธุรกิจจำหน่ายสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติรายใหญ่ของประเทศไทย” นายพิศณุ กล่าว

            นายพิศณุ กล่าวอีกว่า ในปี 2565 บริษัทฯ คาดว่าสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการผลิตเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติรองรับสินค้าหลากหลายประเภทเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคภายใต้บริบทชีวิตวิถีใหม่, การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งเพื่อขยายโอกาสการเติบโตในธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ, การขยายฐานลูกค้าโดยเฉพาะลูกค้ารายใหม่เพื่อเข้าสู่ธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise) รวมถึงการเพิ่มจำนวนเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและขยายการติดตั้งให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้เชื่อมั่นว่าในปีนี้ บริษัทฯ จะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่กำหนดไว้