26 พฤศจิกายน 2024

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

กองทรัสต์ SPRIME เติบโตแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1

ในทรัพย์สินคุณภาพในทำเลศูนย์กลางธุรกิจ “อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ และ ซันทาวเวอร์สรีเทล” ชูอัตราเช่าพื้นที่สูงกว่า 94% ขึ้นแท่นกองทรัสต์กลุ่มอาคารสำนักงานอันดับต้นของไทย

Business

กองทรัสต์ S Prime Growth Leasehold Real Estate Investment Trust (SPRIME) เดินหน้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 เข้าลงทุนในทรัพย์สินคุณภาพ 2 โครงการ “อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ และ ซันทาวเวอร์สรีเทล” มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 6,113 ล้านบาท เป็นการลงทุนในโครงการมิกซ์ยูสที่มีศักยภาพในระดับพรีเมียมอยู่ในทำเลศูนย์กลางธุรกิจ ใกล้รถไฟฟ้าและรถไฟฟ้าใต้ดิน โดดเด่นด้วยอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ในระดับสูง พร้อมประเภทธุรกิจของผู้เช่าที่หลากหลายและมีการต่อสัญญาอย่างต่อเนื่อง โดยการลงทุนในครั้งนี้จะยกระดับ SPRIME ให้เป็นกองทรัสต์ประเภทอาคารสำนักงานชั้นนำในไทย ดันมูลค่าทรัพย์สินรวมเกินกว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมมองภาพรวมกองทรัสต์กลุ่มอาคารสำนักงานคุณภาพยังมีดีมานด์แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในอาคารสำนักงานที่เป็นโครงการมิกซ์ยูส มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับการทำงานในรูปแบบ Hybrid มีพื้นที่รีเทลทันสมัย สะอาด ปลอดภัย ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสถานการณ์  COVID-19 ที่เริ่มคลี่คลาย มั่นใจรายได้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หนุนประมาณการผลตอบแทนปีแรกหลังเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้เพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 0.632 บาทต่อหน่วย

นายอรรชวิชย์ สิงห์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอส ไพรม์ โกรท (SPRIME) เปิดเผยว่า กองทรัสต์ SPRIME ได้เดินหน้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ในทรัพย์สินใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพการสร้างรายได้และการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้แก่กองทรัสต์ ประกอบด้วย 1) การเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่าประมาณ 47,625 ตารางเมตร เป็นระยะเวลา 30 ปี และ 2) สิทธิการเช่าพื้นที่ค้าปลีกอาคารซันทาวเวอร์ส พื้นที่ส่วนกลางคงเหลือจากการลงทุนครั้งแรกของกองทรัสต์ และพื้นที่ห้องเก็บของรวมประมาณ 2,760 ตารางเมตร เป็นระยะเวลา 26 ปี โดยมูลค่าการลงทุนรวมไม่เกิน 6,113 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มจำนวนและมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ SPRIME เป็นกว่าหมื่นล้านบาท ตลอดจนยกระดับ SPRIME ให้เป็นกองทรัสต์ประเภทอาคารสำนักงานชั้นนำในไทยมุ่งเน้นที่จะสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์

                ทรัพย์สินทั้ง 2 โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่มีคุณภาพพร้อมศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องของกลุ่ม บมจ.สิงห์ เอสเตท มีอัตราการเช่าพื้นที่และผลการดำเนินงานที่น่าประทับใจแม้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา โดยอาคาร “สิงห์ คอมเพล็กซ์” อยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจบนหัวมุมถนนอโศกฯ ตัดกับถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ถือเป็นโครงการแฟลกชิพของสิงห์ เอสเตท ที่เปิดดำเนินการเมื่อปี 2561 ประกอบด้วย พื้นที่อาคารสำนักงานเกรดเอ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและพื้นที่ค้าปลีกซึ่งเปรียบเสมือนไลฟ์สไตล์มอลล์ โดยได้รับการออกแบบและก่อสร้างภายใต้มาตรฐาน LEED ระดับ Gold เน้นความยั่งยืน ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นโครงการมิกซ์ยูสคอมเพล็กซ์ระดับพรีเมียมที่มีความทันสมัยและเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่น สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบ เชื่อมต่อเข้าสู่โครงการโดยตรงจากรถไฟฟ้า MRT สถานีเพชรบุรี อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ สถานีมักกะสัน มีอัตราการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากเริ่มเปิดดำเนินการ โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 มีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง  94.34% และอัตราค่าเช่าเฉลี่ยตารางเมตรละ 957 บาทต่อเดือน รวมถึงมีผู้เช่าเป็นบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศกระจายตัวในภาคธุรกิจที่หลากหลาย เช่น ธุรกิจออนไลน์ สินค้าและบริการทางด้านเทคโนโลยี และบริการทางการแพทย์และสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านี้ถือว่าอยู่ใน Booming sector ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ส่วน “อาคารซันทาวเวอร์ส ส่วนพื้นที่ค้าปลีก” ตั้งอยู่ในอาคารซันทาวเวอร์ส ซึ่งอยู่ในย่านธุรกิจที่สำคัญ ในทำเลใกล้ห้าแยกลาดพร้าว บนถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญของย่านธุรกิจ แหล่งค้าปลีก โครงการคอนโดมิเนียมพักอาศัยชั้นนำ และระบบขนส่งมวลชนต่างๆ โดยอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า MRT จตุจักรและสถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต รวมถึงจุดขึ้น–ลงทางพิเศษ  นับเป็นโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนเหนือที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 มีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 96.50% และอัตราค่าเช่าเฉลี่ยตารางเมตรละ 1,049 บาทต่อเดือน “เรามีความมั่นใจในศักยภาพทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมทั้ง 2 โครงการ เห็นได้จากอัตราการเช่าพื้นที่ล่าสุดในไตรมาสแรกของปีนี้ยังคงอยู่ในระดับสูง จะเพิ่มศักยภาพและผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วย โดยประมาณการการจ่ายประโยชน์

Skip to content