แนะปรับพอร์ตตั้งรับวิกฤต-เปิดโผธีมลงทุนไตรมาส3/65
@เตือนปัจจัยเสี่ยง ”ค่าเงินผันผวน-การเมืองระหว่างประเทศ-เทคโนโลยี”
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส หั่นเป้าดัชนีปี 2565 เหลือแค่ระดับ 1680 จุด ชี้ตลาดหุ้นผันผวนหนัก รับผลกระทบเงินเฟ้อสูงเป็นภัยคุกคามกดดันดอกเบี้ยขาขึ้นทั่วโลก ฉุดเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย แนะปรับพอร์ตตั้งรับวิฤต เปิดโผธีมลงทุนไตรมาส3/2565 ธีม“เปิดเมือง-เฮลท์แคร์-พลังงาน-EV-แบงก์” โดดเด่น ขณะที่หุ้นต่างประเทศยก จีน-ญี่ปุ่น น่าสนใจ จากนโยบายรัฐเดินหน้าหนุนเศรษฐกิจ และค่าเงินเยนอ่อน พร้อมเตือนปัจจัยเสี่ยงมาจากค่าเงินที่ผันผวน -การเมืองระหว่างประเทศ-นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล-เทคโนโลยี
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จัดสัมมนาออนไลน์หัวข้อ”ปรับพอร์ต รับวิกฤตหุ้นครึ่งปีหลัง” โดย นายธนวัฒน์ ปัจฉิมกุล ผู้อํานวยการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนต่างประเทศ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในไตรมาส 3/2565 ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อสูงจะยังคงเป็นภัยคุมคามการลงทุนอยู่ ซึ่งจะหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อจนกว่าจะเห็นปัญหา ซัพพลายเชน ดีสรัปชั่น(Supply Chain Disruption) และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศคลี่คลาย
ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยบล.ดีบีเอส ได้มีการปรับประมาณการเศรษฐกิจหรือจีดีพี ในปี 2565 ใหม่ โดยปรับลดแนวโน้มจีดีพี ประเทศสหรัฐอเมริกาลงเหลือ 2.5% จากเดิม 3% จีดีพีประเทศในยุโรปเหลือ 1.4% จาก 3% จีดีพีจีน เหลือ 4.8% จาก 5.3% ญี่ปุ่นเหลือ 1.6% จาก 2.2% ส่วนประเทศไทยคงคาดการณ์จีดีพีเติบโตเท่าเดิมที่ 3.5% “การปรับลดจีดีพีเป็นผลมาจากเราเห็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจจะถดถอยกำลังแรงขึ้น สะท้อนจากส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐรุ่น 10 ปี และ 2 ปี เริ่มกลับมาใกล้ติดลบ ซึ่งบลูมเบิร์ก ได้ทำโมเดลคาดการณ์ชี้ว่าโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยถึง 98% ในระยะ 24 เดือนข้างหน้า แนวโน้มเศรษฐกิจและแนวโน้มการบริโภคทั่วโลก ถูกฉุดด้วยนโยบายเข้มงวดทั้งการเงิน – การคลัง รวมทั้งยังต้องจับตาจีนว่าจะผ่อนคลายนโยบายโควิดในเร็วๆนี้หรือไม่” นายธนวัฒน์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มการลงทุน ในไตรมาส3/2565 ฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส ยังคงแนะนำเพิ่มน้ำหนักในหุ้นจีนและญี่ปุ่น เนื่องจากมองว่าหุ้นทั้งสองประเทศนี้มีความโดดเด่นและน่าสนใจ โดย ฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีนตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 เพราะผู้นำจีนประกาศแนวนโยบายหนุนเศรษฐกิจอย่างชัดเจน และในไตรมาส3/2565 แนะนำให้ปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นญี่ปุ่นด้วย เนื่องจากมองว่าหุ้นญี่ปุ่นมักจะ outperform เมื่อค่าเงินเยนอ่อน “เรายังคงแนะนักลงทุนจัดพอร์ต โดยเน้นหุ้นคุณภาพ มีการกระจายรายได้ที่ดีทั้งด้านผลิตภัณฑ์และภูมิภาค ซึ่งเรายังชื่นชอบหุ้นจีน เพราะคาดผลตอบแทนคุ้มค่าความเสี่ยง รวมทั้งหุ้นญี่ปุ่น ส่วนหุ้นยุโรปเราแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุน”นายธนวัฒน์ กล่าว
ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ แนะนำกลุ่มที่มีเรทติ้งระดับ A/BBB และมีอายุตราสารไม่ยาวนักอยู่ที่ประมาณ 3-5 ปี โดยให้ลดน้ำหนักหุ้นกู้ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เพราะมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้สูงขึ้น อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงหรือความเสี่ยงในการลงทุนช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ จะมาจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน การเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐบาล การเมืองระหว่างประเทศ เทคโนโลยี สภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม การลงทุนในอุตสาหกรรมเฉพาะมีความเสี่ยงสูงกว่าตลาดโดยรวม
ด้านนางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์ตลาดหุ้นผันผวน ฝ่ายวิจัย ได้ปรับลดเป้าหมายดัชนีหุ้นปีนี้ลดลงเหลือที่ระดับ1680 จุด จากเดิมที่บริษัทตั้งเป้าหมายดัชนีปีนี้อยู่ที่ระดับ 1800 จุด
การปรับลดเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นในปีนี้ลง เนื่องจากมองว่าตลาดยังมีความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อสูง และวิตกกังวลว่าอาจจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้ราคาพลังงาน ธัญพืชและอาหารสูงขึ้น นอกจากนี้ตลาดยังมีความกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจและรายย่อย ภายใต้เศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง
อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยพยุงจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการส่งออกที่ยังเติบโตต่อเนื่อง รวมทั้งประเทศไทยยังมีความมั่นคงทางอาหารสูง
More Stories
ฉลองชื่นมื่น ครบรอบ 1 ขวบปี ‘โก โฮลเซลล์’
แม็คโคร ปักหมุดกลางกรุง เปิดสาขาถนนศรีอยุธยา มอบประสบการณ์ช้อปปิ้งค้าส่งแนวใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจใจกลางเมือง
นีเวีย ครีม ตลับน้ำเงินในตำนาน ปรับโฉมใหม่ รับเทรนด์รักษ์โลก พร้อมการดูแลผิวที่ทุกคนวางใจ