26 พฤศจิกายน 2024

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

ไอ-เทล พร้อมต่อยอดศักยภาพ 1 ใน 10 ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงรายใหญ่ของโลก

ชูจุดเด่นนวัตกรรมสินค้าระดับพรีเมี่ยมกว่า 4,600 รายการ และฐานลูกค้าแบรนด์ใหญ่ระดับโลก
พร้อมแพลตฟอร์มผลิตสินค้าครบวงจร ดันยอดขายเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 15% ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

กรุงเทพมหานคร – 18 กรกฎาคม 2565 – บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC ย้ำความเป็นผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง โดยเป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับ 2 ในเอเชีย และอยู่ใน 10 อันดับแรกของโลก* ที่มองความต้องการของสัตว์เลี้ยงเป็นหัวใจสำคัญ ผ่านการดำเนินธุรกิจครอบคลุมทั้งบริการรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) เกี่ยวกับอาหารสัตว์เลี้ยงอย่างครบวงจร โดย ณ วันที่ 31 มี.ค. 2565 บริษัทฯ มีรายการผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายรวมกว่า 4,600 ชนิดให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และการผลิตแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงภายใต้ตราสินค้าของตนเอง พร้อมเดินหน้าเต็มที่หลังปรับโครงสร้างสู่การเป็นแฟล็กชิพของไทยยูเนี่ยนด้านผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก โดยมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการซึ่งเป็นผลลัพธ์จากความมุ่งมั่นของทีมวิจัยและพัฒนาตลอดจนระบบนิเวศเชิงนวัตกรรมที่มีความแข็งแกร่ง ด้วยศักยภาพกำลังการผลิตรวม 172,786 ตัน/ปี ทำให้บริษัทเติบโตรุดหน้าด้วยยอดขายที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีกว่า 15% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สู่ยอดขายรวม 14,529 ล้านบาทในปี 2564

นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธุรกิจไอ-เทล เกิดจากแนวคิดที่ไทยยูเนี่ยน ซึ่งเป็นบริษัทค้าอาหารทะเลรายใหญ่อันดับต้นๆ ของโลกและเป็นผู้แปรรูปปลาทูน่ารายใหญ่ เล็งเห็นโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชิ้นส่วนของปลาที่ไม่สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ของไทยยูเนี่ยนได้ โดยนำไปแปรรูปเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพและคุณค่าทางโภชนาการสูงรวมทั้งรสชาติอร่อย จนได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้าเจ้าของแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำและเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั่วโลก

วันนี้ ไอ-เทล พร้อมตอบรับการเติบโตของเมกะเทรนด์ Humanization ของครอบครัวที่ดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกคนสำคัญด้วยอาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ผ่านวิสัยทัศน์ในการสร้างโลกแห่งความสุขให้สัตว์เลี้ยงได้เจริญเติบโตด้วยสุขภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ภายใต้พันธกิจของการส่งมอบคุณค่าทางโภชนาการเพื่อสัตว์เลี้ยงด้วยนวัตกรรมที่ก้าวล้ำกว่าผลิตภัณฑ์อาหารทั่วไป เพื่อต่อยอดจุดยืนในฐานะผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง คำนึงถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงเป็นหัวใจสำคัญ ด้วยหลักวิทยาสตร์และนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ เพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยง ครอบครัว และโลกของเรา โดย ไอ-เทล มีโมเดลธุรกิจที่ โดดเด่นและครอบคลุมทั้งบริการรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) เกี่ยวกับอาหารสัตว์เลี้ยงอย่างครบวงจรให้กับ แบรนด์ชั้นนำระดับโลก และการผลิตแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงภายใต้ตราสินค้าของ ไอ-เทล เอง มีทั้งอาหารแมว อาหารสุนัข และขนมทานเล่น ซึ่งปัจจุบัน สินค้าที่ผลิตโดย ไอ-เทล ได้รับการจัดจำหน่ายในกว่า 45 ประเทศ ทั่วโลก”

“ไอ-เทล มุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับทั้งสัตว์เลี้ยง ครอบครัว และโลกใบนี้ของพวกเราทุกคนเช่นกัน ผ่านการขับเคลื่อนโครงการ ที่ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม สังคม และการบริหารบนหลักธรรมาภิบาล นอกจากนี้เรายังยึดมั่นในกลยุทธ์ SeaChange® ซึ่งเป็นกลยุทธ์ของเครือไทยยูเนี่ยนที่มีเป้าหมายในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับท้องทะเล โดยใช้แหล่งวัตถุดิบที่เชื่อถือและติดตามแหล่งที่มาย้อนหลังได้ เรายังร่วมผลักดันการลดผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ ผ่านโครงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงมากกว่า 10,000 ตัน/ปี รวมถึงลดการใช้พลาสติก เพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร และคำนึงถึงหลักการใช้แรงงานอย่างมีจริยธรรมตามหลักปฏิบัติขององค์กรสหประชาชาติ” นายพิชิตชัย กล่าวปิดท้าย

ทั้งนี้ บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็น ครั้งแรกและแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ไปเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับแผนการเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO จำนวนไม่เกิน 660 ล้านหุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 600 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยไทยยูเนี่ยนจำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น เพื่อลงทุนในการปรับปรุงโรงงานทั้งสองแห่งให้ทันสมัยด้วยระบบและเครื่องจักรอัตโนมัติเพื่อขยายกำลังการผลิตและประสิทธิภาพการผลิต ขยายระบบโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการผลิต ลงทุนในระบบคลังสินค้าและติดฉลากอัตโนมัติ รวมถึงต่อยอดศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ขยายธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับบริษัทฯ

Skip to content