บีบีจีไอ เปลี่ยนชื่อและตราสัญลักษณ์ของบริษัทในเครือ เพื่อตอบโจทย์การพลิกโฉมภาพลักษณ์จากผู้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพชั้นนำของประเทศ สู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง ซึ่งใช้เทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงเป็นตัวชูโรง
นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (BBGI) เปิดเผยว่า บีบีจีไอ ได้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อบริษัทในเครือเพื่อเป็นการตอกย้ำถึงเป้าหมายของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการก้าวต่อไปจากรากฐานที่มั่นคงในการเป็นผู้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพชั้นนำของประเทศ มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้าน Biotechnology ซึ่งจะต่อยอดพื้นฐานความรู้ด้าน Biotechnology มาต่อยอดธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงต่อไป โดยนอกจากจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์แล้ว การปรับเปลี่ยนชื่อและตราสัญลักษณ์ของบริษัทในเครือให้มีความสอดคล้องและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งจะช่วยสร้างการจดจำที่ง่ายยิ่งขึ้น
โดยบริษัทในเครือของบีบีจีไอ ที่จะมีการปรับเปลี่ยนชื่อและตราสัญลักษณ์ประกอบไปด้วย
- บริษัท เคเอสแอล กรีน อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท บีบีจีไอ ไบโอเอทานอล จำกัด (มหาชน) และมีการเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ตามภาพที่แนบด้านบน
- บริษัท บางจากไบโอเอทานอล (ฉะเชิงเทรา) จำกัด เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท บีบีจีไอ ไบโอเอทานอล (ฉะเชิงเทรา) จำกัด และมีการเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ตามภาพที่แนบด้านบน
- บริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท บีบีจีไอ ไบโอดีเซล จำกัด และมีการเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ตามภาพที่แนบด้านบน
- บริษัท บีบีจีไอ ยูทิลิตี้ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด มีการเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์ตามภาพที่แนบด้านบน
โดยในปีนี้บีบีจีไอ ได้เริ่มต่อยอดผลิตภัณฑ์ชีวภาพประเภทเชื้อเพลิงของบริษัทฯ ไปเป็นผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูงหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น โครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ ร่วมกับ บางจาก และธนโชคออยไลท์ รวมไปถึงโครงการพัฒนาและผลิตน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพร่วมกับ SCGC และQTC
ในส่วนของการต่อยอดธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงที่ส่งเสริมสุขภาพ (High value bio-based products for health and well-being) บีบีจีไอได้ลงนามสัญญาร่วมทุนกับบริษัท ไบโอม จำกัด บริษัท Spin Off จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการต่อยอดมูลค่างานวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) สู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์
นอกจากนั้นบีบีจีไอยังได้จัดตั้งบริษัทย่อยที่ประเทศสิงคโปร์ภายใต้ชื่อ บริษัท วิน อินกรีเดียนส์ สิงคโปร์ ไพรเวท ลิมิเต็ด (WIN Ingredients Singapore Pte. Ltd.) เพื่อดำเนินธุรกิจการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพ และให้การสนับสนุนด้านเทคนิคและการค้า และล่าสุด Reb M ผลิตภัณฑ์สารให้ความหวานจากหญ้าหวาน ที่ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี Advanced Biotechnology ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เรียบร้อยแล้วในเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โดย บริษัท วิน อินกรีเดียนส์ จำกัด (WIN) จะเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Reb M ในประเทศไทยต่อไป
More Stories
กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ DigiTech ASEAN Thailand 2024 & AI Connect 2024
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จับมือ กรีนเยลโล่ ปรับโซลูชั่นระบบปรับอากาศใหม่ทั้งโรงงานเพื่อประสิทธิภาพที่ยั่งยืน
Dow เปิดตัวนวัตกรรม Personal Care โชว์ฟังชันการทำงานที่ล้ำหน้า