ยกระดับกลยุทธ์ “Customer Centric” ด้วยการใช้เทคโนโลยีสุดล้ำ AI
ในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบ Real-Time ครั้งแรกในไทย
Business
Jubilee ผู้นำธุรกิจเครื่องประดับเพชรอันดับหนึ่งของเมืองไทย ภายใต้แบรนด์ “ยูบิลลี่ ไดมอนด์” ยกระดับกลยุทธ์ Customer Centric ผสานแนวคิด Digital Transformation นำเทคโนโลยีปรับใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันตามแบบฉบับองค์กรยุคใหม่ ล่าสุดประกาศใช้ AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ในการวิเคราะห์กระบวนการทำงาน ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้างความพึงพอใจในช่องทางขาย ไปจนถึงการพัฒนาระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ CRM ควบคู่กับการทรานส์ฟอร์มกระบวนการทำงานทุกส่วนงาน เพื่อสร้างและพัฒนาประสบการณ์ให้กับลูกค้าอย่างยั่งยืน
นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หัวใจของการทำการตลาดของ Jubilee คือการสร้างประสบการณ์พิเศษที่สุดให้กับลูกค้า ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทุ่มเทใส่ใจ และพิถีพิถันในทุกขั้นตอนของการสร้างสรรค์การทำงาน ตั้งแต่การนำเข้าเพชรคุณภาพจากแหล่งเจียระไนเพชรที่ดีที่สุดของโลกเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงจากประเทศญี่ปุ่น และการออกแบบดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Jubilee เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าคนสำคัญ
การส่งมอบประสบการณ์ผ่านการสร้างมาตรฐานในเรื่องของตัวผลิตภัณฑ์และบริการนั้น Jubilee มีเป้าหมายเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า โดยเอาโจทย์ของลูกค้าเป็นตัวตั้ง หรือ Customer Centric ซึ่งการกำหนดให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางนี้ คือ หัวใจสำคัญของความเข้าใจต่อความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นได้ ซึ่งสิ่งที่จะทำให้เรารู้จักและรู้ใจลูกค้า คือ Data Management จากฐานข้อมูลลูกค้าสมาชิกที่ปัจจุบัน ทำให้เราเป็นแบรนด์เพชรที่มีความเข้าใจและสร้างสรรค์กิจกรรมที่ตรงใจลูกค้า
ล่าสุดเพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์และธุรกิจ Jubilee ได้ยกระดับกลยุทธ์ Customer Centric ให้ตอบโจทย์ยุคสมัยและพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้นด้วยการผสานกับแนวคิด Digital Transformation โดยการนำเอาเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง AI หรือ Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์ มาใช้ในกระบวนการทำงาน และจัดการกับ Data ที่ได้จากพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าตัวจริง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ตรงใจ และช่วยในการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจทั้งการเพิ่มยอดขายและการขยายฐานไปสู่ลูกค้าใหม่บนช่องทางออนไลน์อีกด้วย
“Jubilee ถือเป็นแบรนด์เพชรที่มีฐานลูกค้าสมาชิกมากที่สุดกว่า 180,000 ราย และมีการจัดเก็บข้อมูล หรือ Data อย่างเป็นระบบ โดยมีการนำ Data มาใช้ในการวิเคราะห์และขยายผลเป็นกิจกรรมการตลาดและการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้เราจะพัฒนาสิ่งนี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิม ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI มาใช้ เพื่อให้การวิเคราะห์เป็นไปอย่างแม่นยำ รวดเร็ว สอดคล้องกับปริมาณของข้อมูลที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและหลากหลาย เพื่อประโยชน์ทั้งกับลูกค้าและธุรกิจของเรา อีกทั้งล่าสุดได้นำเอา Net Promoter Score (NPS) หรือเครื่องมือที่ใช้วัดประสบการณ์ของลูกค้า หรือ customer experience หลังการใช้บริการมาตราฐานที่แบรนด์ระดับโลกใช้ในการบริหารธุรกิจ ซึ่งผลที่ได้รับเป็นที่น่าพอใจมาก จึงทำให้กลุ่มสมาชิกเกิดการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบัน Jubilee มีสัดส่วนรายได้จากสมาชิกคิดเป็น 55% จากรายได้ทั้งหมด”
นอกจากนี้ Jubilee ยังนำ AI มาใช้ในการพัฒนากลยุทธ์ที่จุดขายหรือหน้าร้าน Jubilee กว่า 130 สาขาทั่วประเทศ ด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและพนักงานด้วยเทคโนโลยี Edge Computing และ Computer Vision แบบ Real-time รวมถึงการนำ AI ที่เข้าใจภาษาธรรมชาติ หรือ NLUเข้ามาเพื่อสังเคราะห์สิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ ออกมา โดยไม่ชี้นำลูกค้า พร้อม กับการใช้ Automatic Workflow ในการบริหารประสบการณ์ลูกค้า ที่พร้อม Reaction แบบ Real – Time ได้อย่างทันทีในกรณีที่ลูกค้าเกิดประสบการณ์ที่ไม่ประทับใจในการใช้บริการผ่านช่องทางขายของ Jubilee ถือเป็นการทำ Real – Time Customer Experience Management ที่เป็นการวัดความพึงพอใจลูกค้าที่รวดเร็วและทันสมัยที่สุด
“การมีฐานลูกค้าอยู่ในมือถึง 180,000 ราย ถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งสำคัญของ Jubilee ที่ถูกใช้นำมาต่อยอดเพื่อนำเสนอมาตรฐานใหม่ ๆ ให้กับตลาดเครื่องประดับเพชร ที่นอกจากการเลือกเพชรคุณภาพและเกรดเพชรที่ดีที่สุดแล้ว เรายังนำ Data มาใช้ในการพัฒนาการออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มทั้งกลุ่มลูกค้านักสะสมเพชรระดับบน ลูกค้าวัยทำงาน และลูกค้ากลุ่มนักศึกษาและการแบ่ง segment ผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน จากราคาและรูปแบบการใช้งาน ทำให้แต่ละปีจะมีการออกแบบเครื่องประดับเพชรสู่ตลาดมากกว่า 1,000 ดีไซน์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มและเหมาะสมกับการใช้งาน”
สำหรับ Jubilee ถือเป็นแบรนด์ของการบุกเบิกและสร้างสิ่งใหม่ให้กับวงการค้าปลีกเพชรมาอย่างต่อเนื่อง หลังการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2552 Jubilee มุ่งมั่นในการ transform องค์กรและวงการค้าปลีกเพชรมาอย่างต่อเนื่อง เช่นในครั้งนี้ที่นับเป็นมิติใหม่ของตลาด ในการใช้ Data มาเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อเข้าถึงความต้องการอย่างแท้จริงของลูกค้า ซึ่งจะถูกนำเสนอออกมาทั้งในเรื่องของตัวผลิตภัณฑ์ ที่สามารถตอบโจทย์แบบลงลึกแต่ละบุคคล การบริการที่ดี ตลอดจน เรื่องของการสร้างประสบการณ์ใหม่ผ่านช่องทางขายทั้งออนไลน์ และ หน้าร้าน
“เรามุ่งมั่น และให้ความสำคัญกับเรื่องของการใช้ Data เข้ามาเป็นหัวใจสำคัญของการทำตลาดที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เราลงทุนในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประโยชน์อย่างสูงสุดจากข้อมูลที่มี โดยเข้ามาเปลี่ยนแปลงในทุกกระบวนการของบริษัทเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้า ตั้งแต่ การวางแผนการขาย การวางแผนทรัพยากรบุคคล การวางแผนผลิตภัณฑ์ การวางแผนสื่อ การจัดการประสบการณ์ลูกค้า การประเมินร้านค้า การจัดการรายการสินค้า ไปจนถึงการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ซึ่งถือเป็นอีกความมุ่งมั่นของ Jubilee ในการก้าวสู่ปีที่ 94 ของการทำธุรกิจในประเทศไทย” นางสาวอัญรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
More Stories
โรบินส์วูด กอล์ฟ คลับ สนามกอล์ฟระดับเวิลด์คลาสในโครงการเรนวูด ปาร์ค
ททท. ร่วมลงนาม MOU กับ วีซ่า ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ยกระดับการท่องเที่ยวด้วยนวัตกรรมทางการเงิน
ฉลองชื่นมื่น ครบรอบ 1 ขวบปี ‘โก โฮลเซลล์’