โชว์จุดเด่นผ่าตัดส่องกล้องลดขนาดกระเพาะอาหาร “3 แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว”
Business
“รพ.จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์” ก้าวล้ำ! เปิดมิติใหม่ของการลดความอ้วนที่เห็นผลได้จริง ด้วยการผ่าตัดส่องกล้องลดขนาดกระเพาะอาหาร โดยชูจุดเด่น “แผลเล็กกว่าสะดือ” ทางเลือกใหม่ที่ช่วยให้คนไทยห่างไกลจาก “โรคอ้วน” อย่างปลอดภัย พร้อมวางเป้ายกระดับสู่ความเป็นผู้นำแห่งภาคตะวันออก ตามเป้าหมายหลักของเครือรพ.จุฬารัตน์ที่ต้องการจะเป็น Star of the East โดยการขยายศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้อง “ลดอ้วนลดโรค” ไปยังโรงพยาบาลจุฬารัตน์ชลเวช โรงพยาบาลจุฬารัตน์ระยอง และโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 ภายใต้นิยาม “ มากกว่าความมั่นใจ คือการมีสุขภาพที่ดี มีชีวิตใหม่ไร้พุง ที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์”
แพทย์หญิง ภิรญา ใจดีเจริญ ผู้จัดการแผนกครีเอทีฟ มาร์เก็ตติ้ง โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ เปิดเผยว่า ภาวะน้ำหนักเกิน หรือ โรคอ้วน ถือเป็นภัยเงียบในร่างกาย โดยปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคอ้วนมากถึงประมาณ 9% ของประชากรทั้งหมด หรือประมาณ 6 ล้านคน ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน รองจากมาเลเซีย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป ความเร่งรีบต่างๆ การบริโภคอาหารจำพวกแป้ง และน้ำตาลมากขึ้น รวมถึงออกกำลังกายน้อยลง ส่งผลให้เกิดภาวะโรคอ้วนโดยที่ไม่รู้ตัว นอกจากนี้แล้ว โรคอ้วนยังมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาเช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ไขมันพอกตับ โรคหยุดหายใจขณะนอนหลับ ข้อเข่าเสื่อม โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง โดยผู้ที่มีตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป ทุก ๆ ค่าดัชนีมวลกายที่เพิ่มขึ้นครั้งละหนึ่ง จะทําให้ผู้ป่วยมีอายุขัยเฉลี่ยลดลง 8-10 ปีเทียบกับคนน้ำหนักปกติ ซึ่งในทางการแพทย์จะแนะนำให้ลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย แต่หลายคนไม่สามารถลดน้ำหนักด้วยวิธีดังกล่าวได้ ยกตัวอย่างเช่น คนที่น้ำหนักตั้งต้น 150 กิโลกรัม หากต้องการจะลดน้ำหนักลงให้เหลือ 75 กิโลกรัมได้ในระยะเวลาหนึ่งปีนั้นจะทําได้ยากเพราะน้ำหนักเยอะ หัวเข่ามักจะมีปัญหาไม่สามารถออกกําลังกายหนัก ๆได้ หรือแค่เดินก็จะรู้สึกเหนื่อย ดังนั้น การผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก จึงเป็นหนึ่งทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักแบบรวดเร็ว และเห็นผลได้จริง
โดยศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้อง ลดอ้วนลดโรค โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ จัดตั้งขึ้นเพื่อให้คำปรึกษาและดูแลคนไข้ที่เข้าเกณฑ์การผ่าตัดรักษาโรคอ้วนอันตรายที่มีดัชนีมวลกายตั้งแต่ 32.5 ขึ้นไป ร่วมกับมีโรคประจําตัวที่เกี่ยวเนื่องกับความอ้วน หรือผู้ที่ไม่มีโรคประจําตัว แต่มีค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ 37.5 ขึ้นไป ที่พยายามลดน้ำหนักด้วยตัวเอง ทั้งควบคุมอาหารและออกกำลังกายมาแล้วแต่ไม่ได้ผล โดยในการผ่าตัด ศัลยแพทย์จะใช้กล้องและเครื่องมือขนาดเล็กสอดผ่านเข้าไปตัดกระเพาะอาหาร เพื่อลดขนาดกระเพาะอาหารให้เล็กลง ลดการดูดซึมของกระเพาะอาหาร ให้เหลือกระเพาะอาหารในส่วนที่จำเป็นและเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และมีการตัดกระเพาะอาหารส่วนที่คอยสร้างฮอร์โมนหิวออกไปด้วย ทําให้หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะรับประทานอาหารได้น้อยลง โดยที่ไม่รู้สึกหิวหรือรู้สึกหิวน้อยลง ส่วนรอยแผลจะมีขนาดเล็ก เพียง 3 รู ความยาวประมาณ 1.5-2 เซ็นติเมตรเท่านั้น
สำหรับการเปลี่ยนแปลงหลังจากการผ่าตัดรักษา จากข้อมูลสถิติการติดตามน้ำหนักจำนวน 900 ราย ที่ได้รับการผ่าตัดที่ศูนย์ผ่าตัดผ่ากล้องรพ.จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ พบว่า ใน 1 เดือนแรกน้ำหนักจะลดลงได้ประมาณ 10% ของน้ำหนักตั้งต้น ในเดือนที่ 3 น้ำหนักจะลดลงประมาณ 20% ในเดือนที่ 6 น้ำหนักจะลดลงประมาณ 30% และภายใน 1 ปี น้ำหนักจะลดลงได้ 40% ยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดๆ คือ หากน้ำหนักเริ่มต้นก่อนผ่าตัด อยู่ที่ 100 กิโลกรัม หลังผ่าตัดเดือนแรก จะลดน้ำหนักได้ประมาณ 10 กิโลกรัมในเดือนแรก ในเดือนที่สาม น้ำหนักจะลดลงได้ประมาณ 20% คือ เหลือ 80 กิโลกรัม พอถึงเดือนที่ 6 น้ำหนักจะลดลงประมาณ 30% คือเหลือ 70 กิโลกรัม และเมื่อครบ 1 ปี หากสามารถที่จะดูแลตัวเองได้ ปรับการกินได้ มีการออกกำลังกายช่วย น้ำหนักจะสามารถลดลงไปได้ถึง 40-50% นั่นคือเหลือน้ำหนักเพียง 50-60 กิโลกรัม ซึ่งนอกจากน้ำหนักที่จะลดลงได้จริงแล้ว การผ่าตัดกระเพาะสามารถรักษาโรคร่วมต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กับโรคอ้วนได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ เป็นต้น ทําให้หลังการผ่าตัดผู้ป่วยส่วนใหญ่ สามารถหยุดยาโรคประจําตัวหรือลดยาที่รับประทานลงได้
“ทั้งนี้ ภายหลังการผ่าตัดส่องกล้องตัดกระเพาะอาหารลดน้ำหนัก ศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องรพ.จุฬารัตน์3 อินเตอร์ ยังมีการดูแลแบบต่อเนื่องครบวงจร มีการสร้างชุมชนของคนที่เป็นแฟนคลับ ที่มีความสนใจในเรื่องของการผ่าตัดกระเพาะอาหาร ทั้งที่กำลังศึกษาหาข้อมูล กำลังอยู่ในกระบวนการรักษา รวมทั้งผู้ที่เคยได้รับการผ่าตัดไปแล้ว มีคุณหมอและทีมแอดมิน มาร่วมพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด ให้คำแนะนำ ให้กำลังใจในการปฏิบัติตัว การเลือกการทานอาหาร และการออกกำลังกาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกท่านสามารถที่จะดูแลตัวเองได้ และสามารถที่จะลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน” แพทย์หญิงภิรญา กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ยังคงให้ความสำคัญในการให้บริการทางการแพทย์ ห่วงใยสุขภาพผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ให้มีรูปร่างอยู่ในสัดส่วนและน้ำหนักที่เหมาะสม สนับสนุนและส่งเสริมการสาธารณสุขให้ประชาชนในทุกวัยมีสุขภาพดี โดยเดินหน้าขยายขีดความสามารถด้านศักยภาพทางการแพทย์ ขยายศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้อง “ลดอ้วนลดโรค” ไปยังโรงพยาบาลจุฬารัตน์ชลเวช โรงพยาบาลจุฬารัตน์ระยอง และโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 ภายใต้คำนิยาม “ มากกว่าความมั่นใจ คือการมีสุขภาพที่ดี มีชีวิตใหม่ไร้พุง ที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ เพื่อก้าวสู่ความเป็นเป็นเลิศทางการแพทย์และเป็นผู้นำในภาคตะวันออกของประเทศ (Star of the East)
More Stories
แม่โขง ดันซอฟต์พาวเวอร์ค็อกเทลไทยสู่สากล ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 กับงาน Mekhong The Spirit Competition 2024
แม่โขง ดันซอฟต์พาวเวอร์ค็อกเทลไทยสู่สากล ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 กับงาน Mekhong The Spirit Competition 2024
เคอีเอ็กซ์ ยกระดับบริการเรียกรถเข้ารับพัสดุถึงบ้าน สร้างความสะดวกแบบใหม่