จัดทัพปั้นทีมบริหารรุ่นใหม่ – ตั้ง “พงศ์พสุ อุณาพรหม” ขึ้นแท่น CGO ช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตในยุคดิจิทัล
“กิฟฟารีน” ปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ปั้นทีมบริหารรุ่นใหม่ next generation นำโดย “พงศ์พสุ อุณาพรหม” ขึ้นแท่น CGO ช่วยบริหารธุรกิจให้เติบโตแข็งแกร่งในยุคดิจิทัล หลัง “พญ.นลินี ไพบูลย์” ต้องการทรานฟอร์มองค์กร-ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์รับยุคดิจิทัลเดือด พร้อมวางรากฐานกิฟฟารีนครองแชมป์ MLM สัญชาติไทยอันดับ 1 ต่อเนื่อง
พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ประกาศทรานฟอร์มองค์กร และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์รับยุคดิจิทัล พร้อมวางรากฐานครองแชมป์ MLM สัญชาติไทยอันดับ 1 ต่อเนื่อง หลังธุรกิจเติบโตมาตลอด 27 ปี มียอดขายรวมกว่า 100,000 ล้านบาท มีจำนวนสมาชิกรวม 8.5 ล้านรหัส และมีจำนวนนักธุรกิจกิฟฟารีน 820,000 รหัส โดยแต่งตั้งทีมบริหารรุ่นใหม่ next generation เข้ามาช่วยงาน นำทีมโดยนายพงศ์พสุ อุณาพรหม ขึ้นตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่เพื่อการเติบโตองค์กร หรือ Chief Growth Officer (CGO)
นายพงศ์พสุ อุณาพรหม รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่เพื่อการเติบโตองค์กร หรือ Chief Growth Officer (CGO) บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า การปรับโครงสร้างการบริหารขององค์กรครั้งใหญ่รับปี 2566 ถือเป็นการจัดทัพใหม่ ด้วยวิสัยทัศน์ของ พญ.นลินี ไพบูลย์ ในการนำพากิฟฟารีนก้าวเข้าสู่การทรานฟอร์มองค์กรอย่างเต็มรูปแบบ และให้โอกาสตนได้ขึ้นมาบริหารงานในตำแหน่งใหม่เป็นรองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่เพื่อการเติบโตองค์กร หรือ Chief Growth Officer (CGO) จากเดิมที่นั่งบริหารในตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่สายงานการตลาด โดยมีหน้าที่กำหนดนโยบาย วางแผนติดตามและประเมินผล เพื่อให้ฝ่ายต่างๆ ดำเนินการได้ตามเป้าหมาย และสร้างความเติบโตให้องค์กรอย่างยั่งยืนทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
ทั้งนี้ ตำแหน่ง CGO หรือ Chief Growth Officer เป็นตำแหน่งใหม่ที่ถูกตั้งขึ้นมา เพื่อกุมบังเหียนธุรกิจในยุค Transformation เพื่อเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในธุรกิจขนาดใหญ่อย่าง FMCG, Healthcare และ Retail ดูแลหน่วยงานหลักที่อยู่ภายใต้การรับผิดชอบทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งสายงานการตลาด พาณิชย์ ฝ่ายขาย ลูกค้าสัมพันธ์ ฝ่ายพัฒนาองค์กร กลุ่มธุรกิจใหม่ๆ เป้าหมายจากนี้ทีมบริหารรุ่นใหม่ next generation จะช่วยกันต่อยอดและสยายปีกธุรกิจกิฟฟารีน พร้อม Transform องค์กรให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างมั่นคงในโลกยุคดิจิทัล โดยที่ผ่านมากิฟฟารีนเป็นธุรกิจขายตรงแบรนด์ไทยแบรนด์เดียวที่มียอดขายติดอันดับที่ 47 ของการจัดอันดับ Top 100 ขายตรงโลก 2022 (จากยอดขายปี 2021) และได้รับการจัดอันดับมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการบริหารงานของพญ.นลินี ไพบูลย์ นักธุรกิจหญิงแถวหน้าของเมืองไทย ในฐานะผู้ที่ทำให้ธุรกิจกิฟฟารีนเติบโตอย่างมั่นคงมาจนถึงปัจจุบัน และขณะนี้ก็ได้ถ่ายทอดกลยุทธ์ทางธุรกิจให้กับทีมผู้บริหาร next generation เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต
“ผมจะใช้ประสบการณ์และความสามารถในการบริหารงานที่ทำมาตลอด 26 ปี จากที่เคยดูแลรับผิดชอบงานที่กิฟฟารีนในหลากหลายหน้าที่ เริ่มตั้งแต่การดูแลองค์กรสมาชิก พัฒนาการฝึกอบรม บริหารงานการสื่อสารองค์กร และดูแลงานด้านสายงานการตลาด มาช่วยบริหารงานองค์กรให้เติบโตแข็งแกร่งอย่างมั่นคง แม้ปัจจุบันในโลกยุคดิจิทัลการแข่งขันในตลาดจะรุนแรงทุกรูปแบบก็ตาม ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายเงิน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าในช่องทางขายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น แต่ผมและทีมก็มีความพร้อมในเชิงกลยุทธ์และนโยบาย ในการการผลักดันให้กิฟฟารีนเติบโตอย่างเต็มที่ และสามารถทรานฟอร์มธุรกิจได้สำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบให้เป็นธุรกิจ MLM ที่ทันยุคทันสมัย” นายพงศ์พสุ กล่าวทิ้งท้าย
More Stories
“กิฟฟารีน” เปิดกระหึ่ม “Giffarine Flagship Store” ภูเก็ต เจาะใจกลางเมือง รับทัพลูกค้าไทย-นักท่องเที่ยวต่างชาติ
แอมเวย์ สร้างความสุข ส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดี ส่งท้ายปี
“กิฟฟารีน” ยืนหนึ่งแบรนด์สุขภาพและความงามสัญชาติไทย