26 พฤศจิกายน 2024

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

ยธ-DSI รับลูกช่วยเหยื่อโดน 2 ขายตรง หลอก หลังสคบ.ไม่รับ

ข่าวขายตรง

นางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ผู้ก่อตั้งการต่อต้านแชร์ลูกโซ่ นำผู้เสียหายส่วนหนึ่ง กว่า 50 ราย มายื่นเรื่องกับกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ตรวจสอบกรณีสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. อ้างผู้จำหน่ายอิสระไม่ใช่ผู้บริโภค จึงไม่สามารถพิจารณาดำเนินการกรณีร้องเรียนได้ ทำให้ผู้จำหน่ายอิสระทั้งระบบทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อน หลังเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทธุรกิจขายตรง กับบริษัท ทรูเฟรนด์ 2020 จำกัด และกลุ่มบริษัทไอริช อินเตอร์เนชั่นแนล 2018 จำกัด แต่ไม่ได้ผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้ ทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายรวมหลายพันล้านบาท และต้องการให้ตรวจสอบ ธุรกิจ CROWD1 ที่ไม่มีการจดทะเบียนขออนุญาตใด ๆ จึงเข้าข่ายประกอบธุรกิจแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

ว่าที่ ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หลังจากไปร้องเรียนกับบางหน่วยงานแต่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าร้องเรียนกับกระทรวงยุติธรรม ตนยืนยันและสัญญาว่าจะรับเรื่องความเสียหายมาดำเนินการให้เรียบร้อย และขอย้ำว่าไม่อยากให้ประชาชนหลงเชื่อธุรกิจดังกล่าว ทั้งธุรกิจข้าว กาแฟขายตรง เพราะมักเอาผลตอบแทนจำนวนสูงมาล่อลวง โดยชุดแรก ๆ จะได้เงินตอบแทน แต่หลังจากนั้นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมีทั้งได้เงินช้าลง และไม่ได้สักบาทเดียวก็มี โดยขณะนี้ตนได้สั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าไปสอบสวนหาข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ จะเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดในการออกเอกสาร หรือใบอนุญาต เพื่อกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวซ้ำ ส่วนกรณีที่ไปร้องเรียนกับ สคบ. แล้วยังไม่ได้ข้อสรุปนั้น จะให้ดีเอสไอ ทำหนังสือเร่งรัดไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความคืบหน้าทางคดีต่อไป ส่วนกรณีการสร้างแฟลตฟอร์มออนไลน์เพื่อหลอกลวงให้ประชาชนหลงเชื่อ ของบริษัท CROWD1 ซึ่งอ้างว่ามีเครือข่ายอยู่ในต่างประเทศนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ไม่ได้มีการจดทะเบียนแต่อย่างใดในประเทศไทย โดยหลังจากนี้ตนจะสั่งการเน้นย้ำให้มีการบูรณการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มากขึ้น รวมถึงประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้พี่น้องประชาชนตระหนักถึงการลุงทุนในลักษณะดังกล่าวอย่างไรก็ตาม ดีเอสไอ ภายใต้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ได้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้เสียหายทุกราย ที่ไม่สะดวกเดินทางมายื่นเรื่องด้วยตนเองที่หน่วยงาน ให้สามารถส่งเรื่องร้องเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่เว็ปไซต์ของดีเอสไอได้แล้วเช่นกัน

ขณะที่ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เปิดเผยว่า ในส่วนธุรกิจขายตรงข้าวนั้น ดีเอสไอ ได้ตั้งเรื่องสืบสวนแล้ว โดยภายในสัปดาห์นี้น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ส่วนการสร้างแฟลตฟอร์มออนไลน์ โดยหลอกว่ามีการลงทุนนอกอาณาจักรเพื่อลวงเหยื่อนั้น ในสัปดาห์หน้าเตรียมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ก.ล.ต. เพื่อให้นำหลักฐานการกล่าวอ้างการจดทะเบียนนิติบุคคลมาให้ตนรับทราบ และเรียกผู้จดทะเบียนมาชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดว่าเกิดขึ้นจริงหรือไม่อย่างไร

ด้าน น.ส.กฤษอนงค์  กล่าวต่อว่า วันนี้ได้นำ กลุ่มผู้เสียหายมาร้องขอให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบการทำงานของ สคบ. เนื่องจากเป็นผู้ออกใบอนุญาตให้กับบริษัทขายตรงกาแฟและบริษัทจำหน่ายข้าวยี่ห้อหนึ่ง เมื่อผู้เสียหายร่วมลงทุนไปแล้วแต่ไม่ได้รับเงินปันผลตามที่กำหนด ทำให้ประชาชนเกิดความเสียหายจำนวนมาก โดยมูลค่าความเสียหายจากบริษัทขายตรงกาแฟ กว่า 100 ล้านบาท และ บริษัทจำหน่ายข้าวประมาณ 4,000 ล้านบาท “กลุ่มผู้เสียหายเคยยื่นเรื่อง สคบ. เมื่อ 8 เดือนที่แล้วแต่ไม่ได้รับการเยียวยา อ้างว่า เป็นผู้จำหน่ายอิสระหรือสมาชิกตัวแทนจำหน่าย ไม่ใช่ผู้บริโภคจึงไม่มีสิทธิ์ได้รับการเยียวยาใดๆ ทำให้สมาชิกได้รับผลกระทบทั่วประเทศ จึงมาขอให้กระทรวงยุติธรรมให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า 2 บริษัทดังกล่าว ขณะนี้ยังเปิดรับสมาชิกภายใต้ชื่อใหม่อยู่เพราะอ้างว่ามีใบอนุญาตจาก สคบ.”

น.ส.กฤษอนงค์ เผยอีกว่า ขอให้ตรวจสอบการดำเนินธุรกิจCROWD1 แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทยตอนนี้ ซึ่งเราได้รับแจ้งจากประชาชนทั่วไปว่ามีกลุ่มคนเชิญชวนให้สมัครแพกเกจลงทุนในต่างประเทศ อ้างว่า ลงทุนเริ่มต้น 4,000 บาท ให้ผลตอบแทนสูงถึงหลักล้านบาท พบว่า ไม่ได้จดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย และมีพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน จึงมาร้องเรียน กระทรวงยุติธรรม ก่อนความเสียหายจะเกิดขึ้น และสร้างเป็นบรรทัดฐานในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในยุคดิจิทัลต่อไป

Skip to content