บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) แนะนำการลงทุนในตลาดหุ้นไทยหลังเลือกตั้ง ยังมีแนวโน้มแข็งแรงในระยะกลางและระยาว ถึงแม้อาจจะผันผวนได้ในระยะสั้นอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองสถานการณ์ทางการเมืองหลังการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง และมีแนวโน้มว่า พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลซึ่งจะกลายเป็นรัฐบาลผสมที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ โดยเราคาดว่าทั้งสองพรรคจะให้ความสำคัญกับนโยบายที่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นทางสังคมและการเมืองมากกว่า ส่วนในด้านเศรษฐกิจ อาจจะได้เห็นนโยบายที่ได้ผลอย่างรวดเร็ว เช่นการแจกเงินสดจำนวนมาก ตามนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ตามนโยบายหาเสียงของทั้งสองพรรค ในขณะที่เราคาดว่าไม่น่าจะได้เห็นนโยบายเศรษฐกิจที่รุนแรง เช่น การยกเลิกการผูกขาด เป็นต้น
นายจักร เรืองสินภิญญา กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “คาดการณ์ว่าดัชนี SET ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้ายังคงแข็งแกร่งโดยมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง รวมถึงความความคาดหวังในมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลชุดใหม่ แม้ว่าเราคาดว่าตลาดจะผันผวนในระยะสั้น แต่เราเชื่อว่าแนวโน้มของประเทศไทยในระยะกลางยังคงแข็งแกร่ง ในขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ถือเป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นเมื่อมีจังหวะที่ตลาดย่อตัว โดยแนะนำหุ้นกลุ่มที่เน้นการบริโภค อาทิ CPALL รวมถึงกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น COM7 และ HMPRO และการท่องเที่ยวที่จะได้รับผลดีจากการท่องเที่ยวที่จะฟื้นตัวมากขึ้น อาทิ MINT และ ERW”
More Stories
SME D Bank จัดประชุมใหญ่มอบนโยบายโค้งสุดท้ายพื้นที่ภาคใต้ รวมพลัง Quick Win พิชิตเป้าหมายพาเอสเอ็มอีถึงแหล่งทุนหนุนเติบโตยั่งยืน
BAM จัดโครงการ “BAM for Thai Heroes” ปีที่ 2 ตอบแทนฮีโร่ของคนไทย ลดราคาทรัพย์สูงสุดกว่า 70%
TPS ส่งซิกผลงาน Q4/67 สดใสต่อเนื่อง ตุน Backlog 1,931.50 ลบ. – ลุยประมูลงานใหญ่ มั่นใจรายได้ปี 67 เติบโตเข้าเป้าตามแผน