Skip to content
18 เมษายน 2025

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

BLC ประกาศราคาขาย IPO ที่ 10.50 บาทต่อหุ้น

วางยุทธศาสตร์ขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์ยาสามัญใหม่ รุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ มุ่งเติบโตอย่างยั่งยืน

‘บมจ. บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค หรือ BLC’ หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ประกาศราคาเสนอขาย IPO ที่ราคา 10.50 บาทต่อหุ้น พร้อมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อตั้งแต่วันที่ 14 – 16 มิถุนายนนี้ รุกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาสามัญใหม่ 14 รายการ รับเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพเติบโตทั่วโลก เล็งขยายตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ พร้อมยกระดับสมุนไพรไทยไปสู่ในตลาดโลก และสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้คนไทย เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยา และเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

บมจ. บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค หรือ BLC ลงนามในสัญญาแต่งตั้งให้ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ พร้อมแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญร่วม

ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLCเปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี บริษัทฯ มุ่งสร้างความมั่นคงทางด้านสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ (Trusted Solutions for Lifelong Well-being) ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของ BLC สร้างการยอมรับจากสถานพยาบาลทั้งภาครัฐ เอกชน ร้านขายยาชั้นนำทั้งในประเทศกว่า 8,000 แห่ง และส่งออกไปกว่า 10 ประเทศทั่วโลก โดย BLC พร้อมสร้างการเติบโตต่อเนื่อง เพื่อรองรับศักยภาพการเติบโตของเทรนด์สุขภาพในอนาคต ด้วยกลยุทธ์ 4P Innovation ประกอบด้วย

1) Product มุ่งพัฒนายาสามัญใหม่ ในกลุ่มยาที่มีอัตราการเติบโตสูง เพื่อเป็นผู้เล่นรายแรกในตลาด (First-to-market new generic drugs) และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ยังมุ่งขยายพอร์ตสินค้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขยายฐานลูกค้า OEM เพื่อใช้ประโยชน์จากโรงงานผลิตให้เต็มประสิทธิภาพ 2) Place มุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายยาสามัญใหม่ในช่องทางโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน ขยายช่องทางจำหน่ายในต่างประเทศ โดยมีประเทศเป้าหมาย คือ ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา ฮ่องกง อินโดนีเซีย จีน  ประเทศแถบตะวันออกกลาง รวมทั้งพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย Modern Trade และ
E-Commerce  3) Process มุ่งพัฒนากระบวนการผลิต นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามามีส่วนช่วยในทุก ๆ ขั้นตอนการผลิตและการควบคุมคุณภาพ เพิ่มสินค้าในพอร์ตธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไรให้บริษัทฯ 4) People ผู้บริหารมีประสบการณ์มาอย่างยาวนานในอุตสาหกรรมยา รวมทั้งให้ความสำคัญกับบุคลากร โดยการพัฒนาความรู้ ความสามารถ ทักษะ และทัศนคติ

“เราวางเป้าหมายรายได้และกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง ผ่านการผลิตยาแผนปัจจุบัน ประเภทยาสามัญใหม่เป็นหลัก โดยมุ่งเน้นไปที่ยาในบัญชียามุ่งเป้าตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และผลิตยาตามบัญชีนวัตกรรมไทยขึ้นทะเบียนกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่ใช้นวัตกรรมและองค์ความรู้ใหม่ๆ ในการวิจัยและผลิต ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจและความมั่นคงทางยาของประเทศ รวมทั้งยึดหลักการดำเนินกิจการภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และสังคม เราดูแลครอบครัวคนไทยมาตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ด้วยจุดมุ่งหมายสูงสุด คือ การสร้างสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยืนยาวให้กับประชาชนทุกภาคส่วน” ภก.สุวิทย์ กล่าว

ภก.ศุภชัย สายบัว ประธานเจ้าหน้าที่สายปฏิบัติการ บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC กล่าวว่า บริษัทฯ มีโครงการลงทุนที่วางแผนไว้ในอนาคต ประกอบด้วยการก่อสร้างโรงงานผลิตยาอาคารใหม่ เน้นการผลิตยาแผนปัจจุบัน ประเภทยาสามัญใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตประมาณ 193% รวมทั้งติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้า Solar Rooftop บนอาคารโรงงาน และโครงการวิจัย พัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ประเภทยาสามัญใหม่ 14 รายการ โดยทยอยเริ่มวิจัยและพัฒนาในปี 2566 และเริ่มทยอยจำหน่ายปี 2569 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ยาสามัญใหม่ที่จะพัฒนาจะมุ่งเน้นกลุ่มยาที่มีอัตราการเติบโตสูง สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และยากลุ่มโรคที่มีอัตราเป็นโรคต่อประชากรในสัดส่วนที่สูง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคตับ รวมถึงกลุ่มยาที่รองรับการเติบโตของสังคมผู้สูงอายุ เช่น โรคอัลไซเมอร์ ซึ่งการลงทุนโครงการดังกล่าว จะช่วยเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดด รองรับการเติบโตของเทรนด์ด้านสุขภาพ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต

ภก.สมชัย พิสพหุธาร ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2563-2565) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 1,027.2 ล้านบาท 1,027.7 ล้านบาท และ 1,238.5 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ย 9.8% โดยในช่วงปี 2564 การเติบโตมีการชะลอตัวเนื่องจากการระบาดอย่างรุนแรงของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งกระทบกับสินค้าบางรายการ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี 2564 มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคของรัฐบาล อัตราการได้รับวัคซีนป้องกันโรคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประชาชนเริ่มเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและซื้อยาตามร้านขายยา ทำให้ดีมานด์ของยาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ สำหรับกำไรสุทธิในปี 2563 2564 เท่ากับ 13.7 ล้านบาท และ 51.1 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเจริญเติบโต 273% และ กำไรสุทธิปี 2565  เท่ากับ 129.7 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเจริญเติบโตจากปีก่อนหน้า 153% โดยกำไรสุทธิของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของรายได้ และกำไรขั้นต้น รวมทั้งการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างกำไรให้บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง

นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ กล่าวว่า หลังจากนำเสนอแผนดำเนินงานและศักยภาพการเติบโตของ BLC พบว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นที่ดีจากความได้เปรียบเชิงการแข่งขันของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่งจากการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยาแผนปัจจุบัน ซึ่งมีความจำเป็นในการรักษาโรคครอบคลุมประชากรทั้งประเทศ และมีผลิตภัณฑ์สุขภาพครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ และเป็นที่ยอมรับและไว้วางใจมากว่า 30 ปี ทั้งในสถานพยาบาล ร้านขายยาชั้นนำในประเทศกว่า 8,000 แห่ง และส่งออกไปยังกว่า 10 ประเทศทั่วโลก มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ทั่วถึง อีกทั้งมีศูนย์วิจัย BLC ในการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างนวัตกรรมด้านสมุนไพร เพื่อยกระดับสมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก รวมทั้งสามารถรองรับการเติบโตของเทรนด์ด้านสุขภาพในอนาคต ดังนั้น จึงกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญที่ 10.50 บาทต่อหุ้น พร้อมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในระหว่างวันที่ 14-16 มิถุนายนนี้ และคาดว่าจะนำหลักทรัพย์ BLC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ  ได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยบริษัทฯ มีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ลงทุนโครงการในอนาคต จ่ายคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับที่ปรึกษาทางการเงิน และ/หรือผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

*********************************