สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ เร่งตรวจสอบ กรณีพบเป็นข่าวผ่านสื่อโซเชียล ว่า พบพฤติกรรมเจ้าหน้าที่รัฐของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ ใช้สิทธิรักษาพยาบาลของตัวเองเบิกยา และนำมาแจกจ่ายด้วยการซื้อขายให้บุคคลที่ 3 เผย หากกระทำจริง นับว่าเข้าข่ายการทุจริตในกระบวนการเบิกจ่ายยาตามสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ จึงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด รอบคอบ
นางสาวอภินัทธ์ พัฒนากรสิตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตามที่ ป.ป.ช. ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากศูนย์ CDC ว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลจากเพจ “ต้องแฉ” ว่าพบพฤติกรรมเจ้าหน้าที่รัฐในตำแหน่งหัวหน้าห้องปฎิบัติการของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ ใช้สิทธิรักษาพยาบาลของตัวเองเบิกยา และนำมาแจกจ่ายด้วยการซื้อขายให้บุคคลที่ 3 นั้น เป็นเหตุให้สำนักงานา ป.ป.ช. ได้เร่งดำเนินการตรวจสอบหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า มีการระบุสถานที่เกิดเหตุที่สงสัยทุจริต เป็นพื้นที่เขตอำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ รพ.เบญจลักษ์เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โดยเบื้องต้นขอให้ทางโรงพยาบาลตรวจสอบฉลากยา เปรียบเทียบกับฉลากยาและชื่อยาตามภาพในเพจที่เป็นข่าว ปรากฏว่าน่าเชื่อว่าเป็นฉลากยาของ รพ.เบญจลักษ์ฯ และตรวจสอบยาตามภาพถ่ายแล้ว เป็นยาที่ รพ.เบญจลักษ์ฯ ได้มีการจ่ายให้กับผู้ป่วยในช่วงปี 2565 ซึ่งปัจจุบันยาบางชนิดไม่ได้จ่ายยาที่ซื้อจากบริษัทจำหน่ายยาที่ปรากฏในซองตามภาพ
ส่วนของประเด็นที่พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐของ รพ.เบญจลักษ์ฯ ใช้สิทธิการรักษาของตนเบิกยาแล้วนำไปแจกจ่ายโดยการซื้อขายจริงหรือไม่ ได้มีการสอบถามไปยังผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบญจลักษ์ฯ ซึ่งได้ชี้แจงว่า โดยปกติการที่ผู้ป่วยคนนึงจะได้รับยาใดก็ตามนั้น จะต้องผ่านขั้นตอนกระบวนการตรวจรักษา ผู้ป่วยต้องพบแพทย์ เพื่อแจ้งอาการและแพทย์จะตรวจวินิจฉัยโรค จึงจะสั่งยาตามอาการของโรค ผู้ป่วยจึงไปรับยา และในการสั่งจ่ายยาแต่ละครั้งจะต้องให้ตามความเหมาะสม ไม่มีการจ่ายยาให้เกิดความจำเป็น เบื้องต้น สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ให้คำแนะนำแก่ รพ. เพื่อป้องกันความเสี่ยงทุจริตในกระบวนการเบิกจ่ายยาตามสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ โดยให้ทาง รพ. กำหนดหลักเกณฑ์การจัดซื้อยา หรือการเบิกจ่ายยาของเจ้าหน้าที่ ให้เพิ่มความเข้มงวดของระบบตรวจสอบภายใน ทั้งในระดับสถานพยาบาลและระดับ หน่วยงานต้นสังกัดของสถานพยาบาล รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเข้มงวด เพื่อป้องกันการทุจริต ขั้นตอนต่อจากนี้ ทาง รพ.จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะให้ข้อเท็จจริงกับสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดศรีสะเกษโดยด่วนต่อไป
More Stories
“วราวุธ” เผย ศรส.พิษณุโลก ช่วยเด็กหญิง 12 ปี ถูกแม่แท้ๆ พาไปขายบริการ หาเงินขัดหนี้รายวัน
คณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม ลงพื้นที่ศึกษาดูงานโครงการเคหะชุมชนคลองจั่น
“ประเสริฐ” สั่งการ สคส. ตรวจสอบข่าว ห้างดังถูกแฮกข้อมูลส่วนบุคคล 5 ล้านราย