สร้างมาตรฐานใหม่ของงานเฝ้าระวังความปลอดภัยในที่แสงน้อยขั้นสุด
กรุงเทพฯ– แคนนอน (Canon) เปิดตัว MS-500 กล้องวิดีโอแบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ รองรับการบันทึกภาพความไวแสงสูงระดับอัลตร้าที่ใช้เซ็นเซอร์ Single Photon Avalanche Diode (SPAD) ขนาด 1.0 นิ้วที่มอบความละเอียดภาพสูงสุดในโลกที่ 3.2 ล้านพิกเซล[2] โดยกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการช่วงเดือนกันยายนนี้
พื้นที่ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัยสูง เช่น ท่าเรือ โครงสร้างสาธารณูปโภค และพรหมแดน จำเป็นต้องมีระบบการเฝ้าระวังที่มีความแม่นยำสูงซึ่งต้องจับภาพเป้าหมายได้อย่างชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน MS-500 เป็นกล้องวิดีโอรุ่นใหม่ที่ใช้เซ็นเซอร์ SPAD รุ่นแรกของโลกเพื่อการบันทึกวิดีโอเป็นภาพสีกับวัตถุที่มีความสว่างเพียง 0.001 ลักซ์[3] ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับเลนส์บรอดคาสต์ที่มีทางยาวโฟกัสอัลตร้าเทเลโฟโต้คุณภาพสูงก็จะสามารถจับภาพวัตถุที่อยู่ไกลออกไปได้หลายกิโลเมตรแม้ถ่ายในที่มืดในเวลากลางคืน โดย MS-500 จะมาเติมเต็มและเสริมแกร่งให้กลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องความไวแสงสูงระดับอัลตร้าตระกูล Canon ME20/ML Series[4] เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของการเฝ้าระวังขั้นสูงยุคใหม่ได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น
ผสานพลังเซ็นเซอร์ SPAD และเลนส์บรอดคาสต์เพื่องานเฝ้าระวังจากระยะไกลในยามค่ำคืน
เซ็นเซอร์ SPAD ใช้เทคโนโลยี “Photon Counting” ซึ่งคำนวณอนุภาคแสง (โฟตอน) ที่แต่ละพิกเซลวัดได้ ดังนั้น แม้พิกเซลจะจับอนุภาพแสงได้เพียงอนุภาคเดียว ก็สามารถขยายค่าแสงได้ราว 1 ล้านเท่าและแปรเป็นประจุไฟฟ้าขนาดใหญ่ ทำให้สามารถตรวจจับแสงได้แม้ในปริมาณน้อย นอกจากนี้ ทุกๆ โฟตอนเหล่านี้ยังสามารถนับรวมในแบบดิจิทัลได้ ดังนั้น จึงสามารถขจัดสัญญาณรบกวน (Noise) ได้ในระหว่างการอ่านสัญญาณ ซึ่งนี่คือข้อได้เปรียบหลักของเซ็นเซอร์ประเภท SPAD ที่ช่วยให้ถ่ายวิดีโอภาพสีได้ชัดเจนแม้ในสภาวะที่มีแสงต่ำกว่า 0.001 ลักซ์ นอกจากนี้ การใช้เมาท์เลนส์แบบ Bayonet (ตามมาตรฐาน BTA S-1005B) ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับเลนส์บรอดคาสต์ ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์เลนส์บรอดคาสต์ของแคนนอนซึ่งมีความสามารถในการซูมไกลพิเศษได้หลากหลายรุ่น ช่วยให้ตรวจจับวัตถุที่อยู่ไกลหลายกิโลเมตรได้อย่างชัดเจนแม้ในความมืดยามค่ำคืน
การปรับปรุงการบันทึกภาพ พร้อมฟังก์ชั่นลดนอยส์และความพร่ามัว ยกระดับการเฝ้าระวังขั้นสูง
ในการจับภาพตอนกลางคืนและการเฝ้าระวังระยะไกล ผลกระทบของสัญญาณรบกวนและการสั่นสะเทือนของชั้นบรรยากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะแสงน้อย อาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องความคมชัดของวิดีโอ และเพื่อแก้ไขปัญหานี้ MS-500 จึงติดตั้งระบบ “CrispImg2” มาเป็นคุณสมบัติมาตรฐาน เพื่อช่วยปรับค่าความคมชัด กราฟแกมมา และลดสัญญาณรบกวน (Noise) ให้เหมาะสมที่สุดสำหรับการบันทึกภาพ โดยสาามารถกำหนดเองได้เพื่อให้สามารถตั้งค่าคุณภาพของภาพได้ตามรูปแบบการใช้งาน ทำให้สามารถถ่ายวิดีโอได้อย่างชัดเจนทุกเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน อีกทั้ง MS-500 ยังมีฟังก์ชัน “Haze Compensation” เพื่อช่วยลดความพร่ามัวจากควันหรือหมอก โดยระบบจะปรับค่าให้โดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้คอนทราสต์ที่เหมาะสมและปรับปรุงภาพเพื่อมอบคุณภาพของงานวิดีโอที่ดีขึ้น
โดย MS-500 จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 เป็นต้นไป
[1] เฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ SPAD สำหรับการบันทึกวิดีโอภาพสี ข้อมูลเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 จากข้อมูลการวิจัยของแคนนอน
[2] เฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องเซ็นเซอร์ SPAD สำหรับการบันทึกวิดีโอ ข้อมูลเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 จากข้อมูลการวิจัยของแคนนอน โดยมีจำนวนพิกเซลในการบันทึกภาพจริง (effective pixels) ราว 2.1 ล้านพิกเซล
[3] ภาพสี (Night mode), ไม่มีแสง (no light accumulation), เทียบเท่า f/1.4, ความเร็วชัตเตอร์ 1/30 วินาที, 50IRE, ค่าเกน (gain) สูงสุด
[4] ME20F-SH (วางจำหน่ายเดือนธันวาคม 2558), ME20F-SHN (วางจำหน่ายเดือนกุมภาพันธ์ 2561), ML-100 M58 (วางจำหน่ายเดือนธันวาคม 2563), ML-105 EF (วางจำหน่ายเดือนเมษายน 2564)
More Stories
แม่โขง ดันซอฟต์พาวเวอร์ค็อกเทลไทยสู่สากล ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 กับงาน Mekhong The Spirit Competition 2024
แม่โขง ดันซอฟต์พาวเวอร์ค็อกเทลไทยสู่สากล ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 กับงาน Mekhong The Spirit Competition 2024
เคอีเอ็กซ์ ยกระดับบริการเรียกรถเข้ารับพัสดุถึงบ้าน สร้างความสะดวกแบบใหม่