25 พฤศจิกายน 2024

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

จาก GEN Z สู่ GEMs Z เพชรเม็ดงามจากการต่อยอดความสำเร็จ

ปั้น CEO รุ่นใหม่! จากโครงการ From Gen Z to be CEO ปี 2566

จากการดำเนินโครงการ From Gen Z to be CEO ประจำปี 2566 โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (สถาบัน NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดอบรมให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และพัฒนาศักยภาพด้านการค้าระหว่างประเทศให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพื่อสร้างให้เป็นแม่ทัพทางการค้าของประเทศในอนาคต โดยดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2563 รวมระยะ 4 ปี มีผู้เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 60,300 คน

จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ในปี 2566 นี้ได้ต่อยอดความสำเร็จโดยการคัดเลือกน้องๆ ที่เคยเข้าร่วมอบรมและมีธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ของตนเอง และต้องการพัฒนาสินค้าให้มีศักยภาพมากพอที่จะสามารถส่งออกได้ต่อไป โดยให้น้องๆ ได้เข้ามารับคำปรึกษาในการพัฒนาธุรกิจจากที่ปรึกษาโครงการที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเราเรียกน้องๆ กลุ่มนี้ว่า GEMs Z : GEN Z ซึ่งเป็นการสื่อถึงการเฟ้นหาเพชรเม็ดงามจากบรรดาน้อง GEN Z ที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด แสดงให้เห็นภาพความสำเร็จของโครงการที่สามารถสร้างโอกาสสู่การเป็น CEO ให้เด็กรุ่นใหม่ได้จริง

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และที่ปรึกษาโครงการ From Gen Z to be CEO กล่าวว่า “การมาเข้าหลักสูตรอย่าง From Gen Z to be CEO เราคิดว่าเป็นการปูพื้นฐานด้านการค้าระหว่างประเทศให้น้องๆ เด็กรุ่นใหม่ทุกคน เราพัฒนาเขาได้เร็วเท่าไหร่ โอกาสของเขาก็จะมากเท่านั้น โดยไม่ต้องมีเส้นแบ่งว่า คุณจะมาได้รับการพัฒนาเป็นผู้ประกอบการเมื่อไหร่ และนี่คือข้อพิสูจน์ที่เห็นได้ชัดว่า เด็กรุ่นใหม่ ขณะที่ยังเรียนอยู่ ก็เป็น CEO ได้แล้ว เพราะฉะนั้นอันนี้คือคำตอบที่หลักสูตรนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ชัดที่สุด”

กิจกรรมในครั้งนี้ มีน้องๆ GEMs Z : GEN Z ที่ได้เข้าร่วมโครงการและรับคำปรึกษาด้านธุรกิจกับผู้เชี่ยวชาญรวมทั้งหมด 8 รายสินค้า

นางสาวชนัญธิดา ทะพลี และ นายธนธร อำไพกูล ศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เจ้าของผลิตภัณฑ์ดอกไม้กินได้ แบรนด์ At Flower กล่าวว่า “เราสองคนเริ่มต้นจากการเป็น Startup และมีอาจารย์ที่ปรึกษาให้คำแนะนำ โดยมีโอกาสในการเข้าร่วม pitching ทางธุรกิจ และสามารถระดมทุนเปิดบริษัทได้เมื่อช่วงต้นปี 2566 ซึ่งอาจารย์ที่ปรึกษาได้แนะนำให้เข้าร่วมโครงการ From Gen Z to be CEO ซึ่งตนมีความสนใจและต้องการเรียนรู้เรื่องส่งออกเพิ่มเติม จึงเป็นโอกาสที่ดีมากๆ เราได้เรียนครบทั้ง 6 หลักสูตร โดยเฉพาะเนื้อหาเรื่องการส่งออกทั้งเรื่องกฏหมาย ราคาค่าส่งเรื่องการสร้างแบรนด์ มีการบอกรายละเอียดทั้งเรื่องจุดเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงเจ้าของธุรกิจใหญ่ๆ ที่มาสร้างแรงบันดาลใจ ทำให้เราเข้าใจการเดินทางของธุรกิจได้มากขึ้น ซึ่งจากการพูดคุยกับที่ปรึกษา นอกจากได้รับคำแนะนำและความรู้แล้ว ยังได้รับแรงบันดาลใจเหมือนการเติมไฟให้เพิ่มขึ้นด้วย ในอนาคตก็วางแผนไว้ว่าจะสามารถครองตลาดในประเทศให้ได้ 60-70% และส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ที่มีความต้องการดอกไม้ในเขตเมืองร้อน”

โดยได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “วันนี้ได้ชื่อว่าเป็น CEO Gen Z ก็รู้สึกดีใจที่ได้มายืนอยู่จุดนี้ ถ้าวันนั้นเราไม่เริ่มลงมือทำก็คงไม่ได้มาสัมผัสถึงความรู้สึกนี้ ได้เห็นมุมมอง ความคิดต่างๆ ที่มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นแตกต่างจากมุมที่เราเคยเป็นพนักงานประจำมาก่อน ซึ่งความฝันจะไม่เกิดขึ้นจริงเลยถ้าเราไม่ลงมือทำ นี่คือหลักฐานและผลจากการลงมือทำค่ะ ขอขอบคุณการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยและจากที่ปรึกษาโครงการที่สนับสนุนเราจนมาถึงวันนี้ และขอบคุณโครงการ From Gen Z to be CEO ที่มาช่วยเติมไฟและให้ความรู้ต่อยอดเพื่อเริ่มต้นก้าวใหม่กับการนำพาธุรกิจของเราไปยังต่างประเทศ”

นางสาวนันท์นภัส คงแพทย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ เจ้าของผลิตภัณฑ์สบู่มะพร้าว        แบรนด์บัวขาว เล่าที่มาของผลิตภัณฑ์ว่า “มะพร้าวเป็นของพื้นถิ่นของเกาะพะงัน ตนเป็นชาวพะงัน จึงอยากผลักดันให้ “มะพร้าวของเกาะพะงัน” เป็นที่รู้จักมากขึ้น และครอบครัวก็  นำมะพร้าวของเกาะพะงันมาผลิตเป็นสบู่ใช้เองอยู่แล้ว จึงมองเห็นช่องทางการทำธุรกิจ ตนเองจึงได้เข้ามาช่วยทำเรื่องการตลาดมากขึ้น และมีโอกาสได้มาเข้าร่วมโครงการ From Gen Z to be CEO ได้เรียนครบทั้ง 6 หลักสูตรทำให้ได้ความรู้เรื่องธุรกิจเยอะมากๆ ว่าไม่ใช่แค่ทำสินค้าออกมาขายแล้วจบ แต่ต้องเรียนรู้ความต้องการของผู้บริโภคด้วย และเรื่องการส่งออกเนื้อหาก็ละเอียดมาก ช่วยให้เรานำความรู้มาพัฒนาสินค้าของเราได้มากขึ้น และยังได้รับฟังคำแนะนำดีๆ จากที่ปรึกษาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งออก ในการพัฒนาสินค้าและการทำการตลาดเพื่อทำให้สินค้าเราเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น”

นางสาวนันท์นภัสยังเสริมอีกว่า “รู้สึกดีใจมาก ไม่คิดเลยว่าจะได้ก้าวเข้ามาทำอะไรที่เราไม่เคยทำมาก่อน ออกจากเซฟโซนของตัวเอง เราอยากทำธุรกิจอยู่แล้วแต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร โครงการนี้เปิดรับและสร้างโอกาสให้เราได้เข้ามาเรียนรู้และได้รับคำปรึกษาอย่างดีมาก อยากเชิญชวนเพื่อนๆ น้องๆ ถ้าเรามีไอเดีย ให้เราลองทำดูก่อน ไม่ต้องกลัวว่าจะทำไม่ได้ ลองไปจนกว่าเจอสิ่งที่ใช่ และเก็บเกี่ยวเรียนรู้สะสมไปเรื่อยๆ เชื่อว่าวันหนึ่งเราจะประสบความสำเร็จได้ค่ะ อย่างเช่นโครงการ From Gen Z to be CEO ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาเรียนรู้ขั้นตอนการทำธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงลงมือทำ ก็เป็นโอกาสที่ดีทั้งคนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร และคนที่ต้องการต่อยอดธุรกิจของตัวเองให้เติบโตขึ้นได้”

นางสาวภัทรสุดา สมเจษ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม เอกผลิตภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ เจ้าของผลิตภัณฑ์เจลลี่ผัก แบรนด์ Qualita เล่าไอเดียในการเริ่มทำผลิตภัณฑ์ว่า “ธุรกิจนี้เริ่มทำร่วมกับพี่สาวและพี่ชายโดยมีจุดเริ่มต้นจากปัญหาการไม่กินผักและมีความกังวลเรื่องสุขภาพ และพบว่าคนไทยกว่า 80% ไม่กินผักเช่นกัน จึงคิดแก้ปัญหานี้และเกิดเป็นผลิตภัณฑ์เจลลี่ผักที่ทานง่าย รสชาติอร่อย และมีประโยชน์มากกว่าการแปรรูปผักในรูปแบบอื่น ถึงตนเองไม่ได้เรียนสายธุรกิจโดยตรง แต่เมื่อเข้าร่วมโครงการ From Gen Z to be CEO ก็พบว่าเนื้อหาหลักสูตรดีมากๆ แม้สำหรับคนที่ไม่ได้เรียนมาทางธุรกิจตรงก็ยังสามารถเข้าใจได้ และยังได้รับคำปรึกษาแบบเจาะลึกโดยเฉพาะเรื่องการส่งออกที่เราไม่เคยรู้มาก่อน และคำปรึกษาในส่วนที่เราเองยังคิดไม่ถึง ซึ่งจะนำมาพัฒนาธุรกิจต่อไป”

“วันนี้มาถึงจุดที่ได้ชื่อว่าเป็น CEO Gen Z ก็ดีใจและตื่นเต้นมากไม่คิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เป้าหมายต่อไปในอนาคตอันใกล้ คือ อยากขยายกลุ่มเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้น และอนาคตต่อไปก็สามารถส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศได้ ซึ่งเราเชื่อว่าสินค้าของเราจะเป็นประโยชน์กับคนทั่วโลกได้ สำหรับน้องรุ่นใหม่ที่อยากสร้างธุรกิจของตัวเอง อยากให้มั่นใจในสิ่งที่เราศึกษามาดีแล้ว ลงมือทำและไปต่อ หากเจอปัญหาก็ค่อยแก้กันไป และแนะนำน้องๆ ให้ลองเข้าร่วมโครงการ From Gen Z to be CEO ไม่ว่าน้องจะมีหรือไม่มีพื้นฐานก็เข้าร่วมได้ ทีมงานซัพพอร์ทเราเต็มที่มากๆ ซึ่งเราดีใจมากๆ ที่ทุกคนเต็มที่กับเราเสมือนว่าทุกคนเป็นหนึ่งในทีมงานเรา ต้องขอขอบคุณโครงการดีๆ แบบนี้ค่ะ”

และนี่คือเสียงจาก CEO รุ่นใหม่ GEMs Z GEN Z โดยน้อง ๆ เหล่านี้จะนำผลิตภัณฑ์ของตนมาแสดงภายในงานพิธีสรุปผลโครงการที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันอังคารที่ 19 กันยายน 2566 ณ ห้อง Grand Hall ชั้น 3 อาคาร ทรู ดิจิทัล พาร์ค (West) สุขุมวิท 101 โดยพิธีดังกล่าวจะถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไทยรัฐออนไลน์”

Skip to content