26 พฤศจิกายน 2024

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

เคทีซี จับมือวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ และSARRAN เปิดตัวชุดน้ำชา “Sense of Ramayana” พร้อมเข็มกลัด “มะลิกรุง”

เคทีซี จับมือวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ และSARRAN ร่วมกันจัดงานเปิดตัว “Sense of Ramayana” ชุดน้ำชายามบ่ายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวรรณกรรมรามายณะ โดยศรัณญ อยู่คงดี ศิลปินนักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำของประเทศแบรนด์ SARRAN เพื่อตอบโจทย์กลยุทธ์ขยายฐานสมาชิกกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ด้วยการมอบประสบการณ์ที่แตกต่าง พร้อมมอบเข็มกลัด “มะลิกรุง” ดีไซน์เฉพาะสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่าเท่านั้น

ปริม ปัญญาเสรีพร ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เคทีซีให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การตลาดที่เน้นเรื่องของ Partnership Marketing มาโดยตลอด ด้วยมุ่งหวังถึงความสำเร็จร่วมกับพันธมิตร เพื่อมอบสิทธิพิเศษที่คุ้มค่าให้กับสมาชิกบัตร การร่วมมือกันระหว่างเคทีซี วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ และคุณศรัณญ อยู่คงดี เปิดตัวชุดน้ำชายามบ่าย “Sense of Ramayana” ในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งกิจกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สมาชิกกลุ่มพรีเมียมที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยมาตรฐานระดับ Ultra Luxury และความพิเศษของชุดน้ำชายามบ่ายของโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ รวมถึงเข็มกลัด “มะลิกรุง” ที่ได้รับการดีไซน์พิเศษโดยคุณศรัณญ เพื่อมอบให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า โดยเฉพาะ โดยสมาชิกจะได้รับส่วนลด 10% สำหรับชุดน้ำชายามบ่าย “Sense of Ramayana” สำหรับ 2 ท่าน และรับเข็มกลัด “มะลิกรุง” จาก SARRAN มูลค่า 3,000 บาท จำนวน 1 ชิ้นทันที

แซนดร้า วอเตอร์แมน  กรรมการผู้จัดการ โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ  (Sandra Watermann, Managing Director of Rosewood Bangkok) กล่าวว่า จากปรัชญา “A Sense of Place” ของโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ที่เป็นการผสมผสานวัฒนธรรม ความเชื่อ ประเพณี เอกลักษณ์ต่างๆ เราอยากสร้างสรรค์ชุดน้ำชายามบ่ายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวรรณกรรมรามายณะ โดยได้รับความร่วมมือจากคุณศรัณญ อยู่คงดี นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำของเมืองไทย เจ้าของแบรนด์ SARRAN ร่วมกับเอ็กเซ็กคูทีฟเพสทรีเชฟ คุณดัสติน แบกซ์เตอร์ และเอ็กเซ็กคูทีฟ ซูเชฟ คุณแฟรงก์ แวกเกอร์ฮาเกน รังสรรค์ชุดน้ำชายามบ่าย โดยเน้นองค์ประกอบที่ได้รับแรงบันดาลใจตามตัวละครหลักในมหากาพย์รามายณะ ซึ่งชุดน้ำชายามบ่าย “Sense of Ramayana” จะพร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 – วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องอาหารละคร ยูโรเปียน บราสเซอรี่ โรงแรมโรสวูด กรุงเทพ

ศรัณญ อยู่คงดี นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำของไทย เจ้าของแบรนด์ SARRAN เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจของ “Sense of Ramayana” ที่สื่อผ่าน 6 ธาตุและ 6 ตัวละครของ “รามายณะ” ว่า Ramayanaเป็นนาฏยกรรมของอินเดีย การที่เราได้ดูภาพ หรือดูโขนทุกครั้ง เราไม่เคยรู้ว่าแต่ละตัวละคร ตัวไหนโกรธ ตัวไหนใจดี ดูหน้าไม่รู้ว่าว่าตัวละครรู้สึกยังไง เหมือนการที่เราเห็นหน้าตาขนม Afternoon Tea แล้วอยากรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร ผ่านตัวละครหลัก 6 ตัวละคร และการแสดงออก ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ทอง และ ไม้ ดังนั้นคืออยากสื่อสารออกมาเป็นอาหาร ให้เข้าใจว่ารสชาติของรามายณะเป็นอย่างไร ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดของทีมออกแบบ และทีมเอ็กเซ็กคูทีฟเชฟของโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ จึงได้รังสรรค์ชุดน้ำชายามบ่าย โดยเน้นไปที่ธาตุทั้ง 6 ธาตุ สื่อผ่านตัวละคร 6 ตัวในรามเกียรติ์ ได้แก่

1.) ธาตุไม้ ได้รับแรงบันดาลใจจากพระราม ตัวแทนผู้ชายส่วนใหญ่ใช้สีโทนเขียว สื่อถึงความแข็งแรง มั่นคง ทรงสี่เหลี่ยม  ชั้น (layer) วงปีของไม้ สัมผัสเวลาทานได้รสขม

2.) ธาตุน้ำ ได้รับแรงบันดาลใจจากสุวรรณมัจฉะ รูปทรงรี ปลา โทนสีของน้ำเริ่มจาก ดำ น้ำเงินเข้ม น้ำเงินอ่อน ฟ้า ขาว การกลอส (gloss) การสะท้อนน้ำ ครึ่งคนครึ่งปลา

3.) ธาตุลม ได้รับแรงบันดาลใจจากหนุมาน ใช้พื้นที่ของอากาศในการเดินทางมากที่สุด รวดเร็ว รูปทรงของอาหาร และการเสิร์ฟ เน้นให้ดูใส เป็นแก้ว วุ้น เย็น สดชื่น

4.) ธาตุไฟ ได้รับแรงบันดาลใจจากทศกัณฐ์ ทรงสามเหลี่ยม การเผา (burn) ร้อน เผ็ด ใช้พริก อาหารไทย

5.) ธาตุทองคำ ได้รับแรงบันดาลใจจากนางสีดา โลหะ โทนขาว ความสมมาตรของรูปทรง นุ่มนวล ป้ายทองบนขนม หรือ เพสทรี

6.) ธาตุดิน ได้แรงบันดาลใจจากนางมณโฑ ภรรยาคนหนึ่งของทศกัณฑ์ เป็นเหมือนดินที่แข็งแรง และอบอุ่น นึกถึงขนมที่แบนเป็นพื้นดิน เค้กมี layer มี texture ที่เห็นความเป็นดินค่อนข้างชัดเจน

สำหรับการดีไซน์เข็มกลัด “มะลิกรุง” เอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า ได้แรงบันดาลใจมาจากดอกมะลิของคนเมืองในยุคปัจจุบัน สี่กลีบที่ถูกวางอย่างสมมาตร เพื่อให้ดูเหมือนเป็นดอกไม้ที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น เปรียบเสมือนช่วงเวลาหนึ่งในอดีตที่การประดิษฐ์ดอกไม้สด ได้ถูกนำมามีส่วนร่วมกับนาฏศิลป์ชั้นสูง และดอกไม้ทั้งสองช่วงเวลานี้ก็ได้เล่าเรื่องของชีวิตที่ไม่ต่างจากละคร และละครที่ไม่ต่างจากชีวิตจริง

Skip to content