เพื่อสร้างชุมชนให้เข้มแข็งและขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ อีอีซี ทุกมิติ
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้ลงนาม “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ อีอีซี เพื่อการสร้างชาติอย่างยั่งยืน” โดยมี ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ สกพอ. และ ศ.ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานมูลนิธิสถาบันการสร้างชาติ ลงนามร่วมกัน ณ ห้อง Conference 1-2 สกพอ. โดยมีนางธัญรัตน์ อินทร รองเลขาธิการ สกพอ. และ ดร.อมรศักดิ์ กิจธนานันท์ ผู้อำนวยการหลักสูตรนักบริหารระดับสูงเพื่อการสร้างชาติ สถาบันการสร้างชาติ ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามในครั้งนี้ รวมทั้งยังได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคม และสื่อมวลชน ร่วมงานฯ อาทิ ดร.ธาริศร์ อิสสระยั่งยืน รองเลขาธิการ สกพอ., ดร.ธัชพล กาญจนกูล. รองเลขาธิการ สกพอ., นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ ดร.ธีรภัทร ประยูรสิทธิ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น
บันทึกข้อตกลงฯ มีประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ 4 มิติ คือ
มิติที่หนึ่ง การสนับสนุนการพัฒนากำลังคน ของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และเยาวชน ในสาขาที่เป็นความต้องการในการพัฒนาพื้นที่อีอีซี ผ่านหลักสูตรและโครงการอบรมทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
มิติที่สอง การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐกิจ ภาคธุรกิจ ภาคสังคม และ ภาควิชาการ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ อีอีซีรวมถึงการเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุนในพื้นที่ อีอีซี
มิติที่สาม การส่งเสริมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่ อีอีซี ให้เข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้ด้วยนวัตกรรม
มิติที่สี่ การส่งเสริมกิจกรรมทางวิชาการ และการวิจัย เพื่อสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ อีอีซี
ดร.จุฬา สุขมานพ กล่าวถึงการลงนาม MOU ร่วมกับสถาบันการสร้างชาติในครั้งนี้ว่า ที่ผ่านมา สกพอ. ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ อีอีซี อย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ทั้งด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมเป้าหมาย การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การยกระดับ ผลิตภัณฑ์ชุมชนให้สามารถแข่งขันในตลาดการค้าสมัยใหม่ รวมทั้งการพัฒนาเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ และ การพัฒนาบุคลากรทุกระดับ ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิสถาบันการสร้างชาติ และถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการผนึกกำลังร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ อีอีซี อย่างเป็นระบบ
ศ.ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานมูลนิธิสถาบันการสร้างชาติ กล่าวว่า มูลนิธิสถาบันการสร้างชาติมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพผู้นำในทุกภาคส่วนของสังคม โดยเฉพาะการพัฒนาภาวะการนำ ภาวะ การบริหาร และภาวะคุณธรรม ของบุคลากรทุกภาคส่วน มูลนิธิสถาบันการสร้างชาติเล็งเห็นว่า พื้นที่ อีอีซี เป็น พื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยในทุกด้าน ที่ผ่านมา จึงได้จัดหลักสูตรสำหรับ ผู้บริหารในพื้นที่ อีอีซี มาแล้ว 5 รุ่น มีศิษย์เก่ามากกว่า 600 คน มีการดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนแล้วกว่า 60 ชุมชน ทั้งนี้ สกพอ. และมูลนิธิสถาบันการสร้างชาติ จะพิจารณาต่อยอดโครงการพัฒนาชุมชนต่าง ๆ โดยจัดทำ แผนปฏิบัติการประจำปีร่วมกัน โดยมีการแบ่งบทบาทในการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนระหว่าง สกพอ. กับ มูลนิธิสถาบันการสร้างชาติ ตามความเชี่ยวชาญของแต่ละหน่วยงานที่สามารถสนับสนุนส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาคนในพื้นที่ อีอีซี ให้มีความเข้มแข็งต่อไป ในโอกาสนี้ มูลนิธิสถาบันการสร้างชาติรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสในการทำงานร่วมกับ สกพอ. ในการ พัฒนาคนและชุมชนอย่างบูรณาการ เพื่อขับเคลื่อนให้พื้นที่ อีอีซี เป็นพื้นที่ต้นแบบที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และการสร้างชุมชนให้เข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยไปสู่ความอารยะเจริญก้าวหน้าต่อไป
More Stories
เมอร์เซเดส-เบนซ์ คว้า 19 รางวัล จากเวที AdPeople Awards & Symposium 2024
บางจากฯ สะท้อนความเป็นเลิศด้วย 2 รางวัลพระราชทาน และ 5 รางวัลดีเด่น
GRAMMY ได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 สะท้อนถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง