ปั้น 84 เชฟหน้าใหม่สู่วงการ ตอบโจทย์อุตสาหกรรมอาหารที่วิวัฒน์ต่อเนื่อง
กรุงเทพฯ– โรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต (Le Cordon Bleu Dusit Culinary School) จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรผู้สำเร็จการศึกษา ประจำภาคเรียนเดือนกรกฎาคม ปีการศึกษา 2566 ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ซึ่งประกอบด้วยผู้สำเร็จหลักสูตรการประกอบอาหารคาวและขนมอบ (Le Grand Diplôme) การประกอบอาหารคาวฝรั่งเศสชั้นสูง (Diplôme de Cuisine) การประกอบขนมอบฝรั่งเศสชั้นสูง (Diplôme de Pâtisserie) การทำขนมปัง (The Art of Bakery) และวิชาการครัวไทย (The Professional Thai Cuisine) รวมจำนวน 84 คน โดยสถาบันฯ มุ่งมั่นสร้างเชฟหน้าใหม่ที่มีคุณภาพเพื่อป้อนสู่อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทยบนแนวคิด Tradition Excellence and Innovation เพื่อตอบสนองความต้องการบุคลากรในอุตสาหกรรมและธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ ลงมือทำ และนำเทคนิคต่าง ๆ ไปต่อยอดในการปฏิบัติงานบนแนวทางของตนเอง เพื่อร่วมยกระดับมาตรฐานวงการอาหารไทยให้สมกับที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นครัวของโลก (Kitchen of The World)
นางสาวสุชาดา สถาปิตานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต กล่าวว่า “ประเทศไทยถือเป็นแหล่งผลิตอาหารทั้งด้านอุตสาหกรรมอาหาร Street Food รวมถึงการผลิตวัตถุดิบและสินค้าการเกษตรที่สำคัญ จนได้รับฉายาว่าเป็น Kitchen of the World มาอย่างยาวนาน และทำให้การทำอาหารเป็นธุรกิจในฝันของหลาย ๆ คนและยังมีโอกาสการเติบโตต่อไปได้ สำหรับเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เรายึดมั่นแนวคิด Tradition Excellence and Innovation โดยนำหลักการเรียนการสอนผ่านการถ่ายทอดจากเชฟผู้สอนในแบบฉบับ Watch-Learn-Do เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ ลงมือทำ และนำเทคนิคในการประกอบอาหารและขนมไปประยุกต์ใช้กับอาหารทุกรูปแบบ เพราะในปัจจุบัน ธุรกิจอาหารมีความหลากหลายซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์ของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นอาหารพร้อมรับประทาน อาหารแปรรูป อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อาหารทดแทนเนื้อสัตว์ อาหารปราศจากกลูเต็น อาหารโปรตีนทางเลือก (Plant-based protein) ตลอดจนรูปแบบบริการใหม่ ๆ อย่างบริการ Food Delivery ก็ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่เชฟหน้าใหม่ได้มีพื้นที่ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในเมืองไทยได้ง่ายขึ้น”
หลักสูตรของเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต จะมีระยะเวลาการเรียนการสอนประมาณ 3 เดือน หรือ 180 ชั่วโมงและ 240 ชั่วโมง เนื้อหาการเรียนจะประกอบด้วยการให้องค์ความรู้ เทคนิค และคำศัพท์ด้านการประกอบอาหารต่าง ๆ รวมถึงความปลอดภัยและสุขาภิบาลอาหาร (Food Safety & Hygiene) การสาธิตการประกอบอาหาร (Cooking Demonstration) และการลงมือปฏิบัติด้วยตนเองในห้องปฏิบัติการครัวที่ออกแบบตามมาตรฐานและเหมาะสมกับอาหารประเภทต่าง ๆ พร้อมอุปกรณ์ครบครันและปรับปรุงให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ ดำเนินการสอนโดยเชฟมากประสบการณ์ในการทำงานจากโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขนมระดับมิชลินสตาร์และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการผลิตจากทั่วโลก เพื่อให้ผู้เรียนได้รับองค์ความรู้จากผู้ปฏิบัติงานที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพมาแล้วอย่างแท้จริง
นายฐิติกานต์ เอี่ยมฐิติกุล หนึ่งในผู้สำเร็จหลักสูตรประกาศนียบัตรการประกอบอาหารคาวและขนมอบ กล่าวว่า “ผมตัดสินใจมาเรียนที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เพราะอยากมีร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่นเป็นของตัวเองที่ทำทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน เมื่อได้ค้นคว้ามาแล้วพบว่าที่นี่เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาอย่างยาวนาน ก็ยิ่งเป็นการการันตีความสำเร็จของนักเรียนด้วย ยิ่งทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และเมื่อเข้าเรียนก็รู้สึกประทับใจมากที่ได้เรียนทั้งภาคทฤษฎีและมีการปฏิบัติจริง รวมถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การทํางานร่วมกันเป็นทีม ซึ่งมันทําให้ได้รับมิตรภาพดี ๆ มากมาย จึงอยากแนะนําเพื่อน ๆ ทุกคนที่มีความฝันและสนใจด้านการทําอาหารให้มาเรียนที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต รับรองว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดหวังแน่นอน”
นอกจากหนุ่มสาวผู้มีความฝันในการทำงาน อีกหนึ่งตัวอย่างของผู้เรียนที่มาศึกษาที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เพียงเพื่อเติมเต็มความสุขในครอบครัว แต่ภายหลังกลับทำเป็นอาชีพได้อย่าง นางสาวปาริชาติ ชวชาต หนึ่งในผู้สำเร็จหลักสูตรการประกอบขนมอบ ได้บอกเล่าถึงประสบการณ์ในการเรียนว่า “เราเป็นแม่บ้านมีลูกสาวที่น่ารักสองคน เหตุผลที่มาเรียนก็เพราะอยากอบขนมให้ลูก ๆ ทาน ซึ่งตอนแรกก็คิดว่ามาเรียนแบบสวย ๆ ไม่ต้องจริงจังมาก แต่พอเข้ามาแล้วมันไม่ใช่เลย ที่นี่คือโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนจริง ๆ มีคุณภาพ มาตรฐาน สัมผัสได้เลยว่าทั้งหลักสูตรทั้งเชฟมีความละเอียดทุกจุด ดังนั้น พอเริ่มเรียนไปสักระยะหนึ่งก็เริ่มชวนเพื่อน ๆ เปิดร้านขายขนมออนไลน์ร่วมกัน และในอนาคตก็มีแพลนจะเปิดหน้าร้านจริง ๆ เพราะมันเป็นความฝันของคนทำขนมทุกคน จึงอยากบอกว่าถ้าใครสนใจเรียนอบขนม ขอให้มาเรียนที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต แล้วจะไม่ผิดหวัง เพราะจะได้ทักษะและประสบการณ์ จนสามารถทำความฝันให้เป็นจริงได้ค่ะ”
นอกเหนือจากหลักสูตรการประกอบอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ เนื้อหาการเรียนการสอนของ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ยังมีการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนให้สามารถตอบโจทย์การทำงานในตลาดอาหารและเครื่องดื่มในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการสร้างแนวความคิดและองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการประกอบธุรกิจ การบริหารงานครัวและร้านอาหาร การจัดการขยะอาหารอย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนได้มีมุมมองที่สำคัญในการทำงานหรือการประกอบธุรกิจของตนเอง นอกจากนี้ ยังสอดแทรกแนวทางอาหารแห่งอนาคตเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีและรักษ์โลกไปด้วยกัน รวมถึงการออกแบบคอร์สระยะสั้นรูปแบบใหม่ ๆ อาทิ ความรู้เกี่ยวกับไวน์และการจับคู่กับอาหาร คอร์สอาหารเพื่อสุขภาพ ฯลฯ เพื่อให้สอดรับกับตารางเวลาที่เร่งรีบของผู้เรียนในปัจจุบันอย่างเหมาะสม
More Stories
โรบินส์วูด กอล์ฟ คลับ สนามกอล์ฟระดับเวิลด์คลาสในโครงการเรนวูด ปาร์ค
ททท. ร่วมลงนาม MOU กับ วีซ่า ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ยกระดับการท่องเที่ยวด้วยนวัตกรรมทางการเงิน
ฉลองชื่นมื่น ครบรอบ 1 ขวบปี ‘โก โฮลเซลล์’