26 พฤศจิกายน 2024

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

เชฟดังตบเท้าเสิร์ฟความอร่อย! พาส่องเมนูร้านดังศิษย์เก่า “เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต”

ในงานมหกรรมอาหารครั้งยิ่งใหญ่ “Gourmet Foodie Fest 2023 Alumni Market ซีซั่น 2″

เสิร์ฟเมนูคาวหวาน-เครื่องดื่ม สุดฟิน ตอกย้ำความสำเร็จของศิษย์เก่าสถาบันระดับโลก  กรุงเทพฯ 02 พฤศจิกายน 2566 – โรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ร่วมกับนิตยสาร Gourmet & Cuisine จัดงาน “Gourmet Foodie Fest 2023” Alumni Market Season 2 ตั้งแต่วันที่ 26-29 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชวนเจ้าของร้านอาหารชื่อดังทั่วประเทศซึ่งเป็นศิษย์เก่าของสถาบันมาเปิดบูธนำเสนออาหารคาวหวานหลากชนิดกว่า 40 ร้าน พร้อมจัดเวิร์กช็อปสอนทำอาหารฟรีแก่ผู้สนใจ การสนับสนุนครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายและความผูกพันระหว่างสถาบันและศิษย์เก่า ตลอดจนสนับสนุนการแลกเปลี่ยนมุมมองในกลุ่มคนทำอาหาร เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงและเร่งพัฒนาธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่มของเมืองไทย  นางสาวสุชาดา สถาปิตานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต กล่าวว่า “เรามีความภาคภูมิใจในศิษย์เก่าและผู้เรียนทุกท่าน ซึ่งตลอดเวลา 16 ปีที่เราได้เปิดทำการเรียนการสอน เราได้ผลิตบุคลากรคุณภาพสู่อุตสาหกรรมอาหารมาแล้วกว่า 10,000 คน กิจกรรม Alumni Market ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในแผนงานสนับสนุนผู้สำเร็จการศึกษาของโรงเรียน ซึ่งนอกจากจะส่งเสริมการประกอบอาชีพของศิษย์เก่าแล้ว เรายังผลักดันให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดและมุมมองในธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่มในเมืองไทย ตลอดจนเสริมสร้างเครือข่ายและความผูกพันระหว่างสถาบันและศิษย์เก่า เพื่อช่วยต่อยอดเทคนิคการประกอบอาหารและขนมให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างน่าประทับใจและประสบความสำเร็จ”  ตลอด 4 วันของมหกรรมอาหาร “Gourmet Foodie Fest 2023” Alumni Market Season 2 ได้รับความสนใจจากนักชิม ผู้ปฏิบัติงานด้านอาหาร ตลอดจนประชาชนทั่วไปเข้ามาร่วมชิมร่วมช็อปในงานกันอย่างคับคั่ง นอกจากนี้ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ยังจัดเวิร์กช็อปฟรีมากมาย ทั้งการผสมค็อกเทลสุดครีเอตโดย Howei x Le Cordon Bleu Dusit, โชว์ทำเครื่องดื่ม “เมนูมัตฉะสุดพิเศษ” โดย Samatea Cafe, การสาธิตแต่งหน้าเค้กอย่างไรให้ปังสุด ๆ โดยศิษย์เก่า และเวิร์กช็อป “เค้กป๊อปแสนน่ารัก” โดย Global Food Products x ร้าน K-zy Sweethery ซึ่งสร้างความสนุกสนานและประทับใจแก่ผู้ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างมาก

เชฟเป้ จิรัฎฐ์ จินดามงคล และ เชฟเบนซ์ ศุภวัฒน์ อนันต์นับ สองหนุ่มศิษย์เก่าเจ้าของร้าน Beurre & Boulanger กล่าวในงานว่า “ก่อนหน้านี้เราเคยทำคาเฟ่มาก่อนครับ แต่ตอนนั้นยังไม่มีทักษะอะไรมาก ช่วงที่ปิดร้านเพื่อรีโนเวต เราเลยตัดสินใจมาลงเรียนที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เพื่อนำความรู้ไปต่อยอด ตอนแรกก็คิดว่าจะเรียนอะไรมาก แต่เมื่อสัมผัสคุณภาพการเรียนการสอนก็ทำให้ลงเรียนไปทั้งหมดเกือบ 300 เมนู รวมถึงได้ความรู้เรื่องการจัดครัวที่มีประสิทธิภาพซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับการบริหารร้าน เพราะร้าน Beurre & Boulanger เป็นแบบครัวเปิด เราอยากให้ลูกค้าเห็นการอบขนมสดใหม่ โดยเฉพาะเมนูแครมบรูเลครัวซองต์ ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน การมาเรียนที่นี่จึงทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นในการทำตามความฝันที่เป็นสไตล์ของเราเองครับ” ร้านเบเกอรีชื่อดังในซอยสุขสวัสดิ์ 30 อย่าง Three Bears Pastry ก็ได้มาร่วมออกบูธในงานนี้ โดย เชฟออย วัชราพรรณ วณิชย์คูพลังกูร เจ้าของร้าน กล่าวว่า “เลอ กอร์ดองเบลอ ดุสิต มีมาตรฐานการสอนโดยเชฟระดับสากล ซึ่งไม่ได้สอนแค่เทคนิคการทำขนมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำงานอย่างมีระบบ ซึ่งเมื่อออยเรียนจบแล้วก็ได้ไปฝึกงานในครัวที่รัสเซียและญี่ปุ่น ถึงแม้เราจะไม่เข้าใจภาษาของเค้ามาก แต่เพราะเราได้เรียนรู้ระบบที่เป็นมาตรฐานสากลมาแล้ว จึงสามารถนำความรู้จากเลอกอร์ดอง เบลอ ไปใช้ในการสื่อสารได้เยอะจริง ๆ ออยดีใจมากที่ได้มาร่วมงานวันนี้ เหมือน Home coming และนำเสนอเมนูที่แนะนำในงานนี้คือ ปังหิมะหมูอบ โดยเราอบหมูกว่า 2 ชั่วโมงจนเปื่อย ขนมปังนุ่มเบา มีหน้าหิมะกรอบ ๆ หอม ๆ เข้ากันมาก และอีกหนึ่งเมนูคือ TB Honey Toast Cup ทานกับไอศกรีมเอิร์ลเกรย์คือดีมาก ๆ ขนมปังหนุบหนับของทางร้านทำเองค่ะ”  เชฟเจน เจนจิรา เลิศวรปรีชา แห่งร้าน Samatea Café กล่าวว่า “แรกเริ่มเราทำขนมเพราะใจรักอยู่แล้ว แต่พอได้มาเรียนที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ก็ได้เข้าใจในการทำขนมเชิงทฤษฎีอย่างถ่องแท้ เรียนรู้วิธีสร้างสรรค์ขนมใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดได้เยอะมาก และยังสามารถปรับเปลี่ยนองค์ประกอบหรือหน้าตาของขนมให้ดูน่าสนใจมากขึ้น โดยขนมซิกเนเจอร์ของร้านเราคือ Premium Matcha Banoffee ตัวนี้ก็เคยนำไปออกรายการคุณต๋อยมาแล้ว อีกเมนูก็คือ Matcha Cheesecake นอกจากนั้นก็จะมีเมนูพิเศษที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปในแต่ละเดือน ซึ่งไอเดียการคิดเมนูก็ได้จากการเรียนที่นี่ค่ะ การได้มาร่วมงานครั้งนี้จึงดีใจมาก เพราะเป็นพื้นที่ให้ศิษย์เก่าได้มาแสดงสินค้าและแสดงศักยภาพของแต่ละร้าน  ทำให้แต่ละร้านได้รู้จักกันมากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้กลุ่มธุรกิจร้านอาหารมีมิตรภาพที่แข็งแกร่งมากขึ้นค่ะ” นอกจากการเปิดร้านอาหาร บริการเดลิเวอรีหรืออาหารสำเร็จรูปแช่แข็งก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเฟื่องฟูในปัจจุบัน เชฟกีส ธรรมเศรษฐ์ บุญศิริ แห่งร้าน ฮ่อยจ๊อปูทะลัก By เชฟกีส คืออีกหนึ่งศิษย์เก่าเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ โดยกล่าวว่า “จุดเริ่มต้นคือเราเคยไปซื้อฮ่อยจ๊อมาเปิดดูแล้วไม่มีปู จึงเริ่มจับ Pain point ตรงนี้มาทำขาย โดยเริ่มต้นแบบเล็ก ๆ คือโพสต์ลงเฟสบุ๊ก แล้วมีคนแชร์โพสต์หลักหมื่น จึงได้เอามาทำขาย ซึ่งเราก็ได้นำความรู้จากเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต มาใช้มากจริง ๆ ทั้งเรื่องการเตรียมครัว การทำความสะอาด การดูแลจัดการครัว รวมถึงการดูแลตัววัตถุดิบ สิ่งที่ประทับใจคือเชฟผู้สอนชาวฝรั่งเศสมีความเป็นครูสูงมาก ถ่ายทอดเทคนิคทุกอย่างแบบไม่กั๊ก คิดไม่ผิดเลยที่เลือกเรียนที่นี่ อีกข้อหนึ่งคือเครื่องไม้เครื่องมือของโรงเรียนที่ครบครันทันสมัย ทำให้เราได้ลงมือปฏิบัติจริง และมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อยึดเป็นอาชีพจนทุกวันนี้ การได้มาเปิดบูธในห้างใหญ่ใจกลางเมืองแบบนี้ก็ตื่นเต้นมากครับ และดีใจที่ได้กลับมาเจอเพื่อน ๆ ศิษย์เก่าด้วยกัน”  เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต มีการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการและความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อยู่เสมอ โดยมีการนำความรู้เกี่ยวกับการบริหารงานเพิ่มเติมในหลักสูตรและเวิร์กช็อปที่เป็นหลักสูตรระยะสั้น เช่น Introduction to Restaurant Start-up เป็นต้น รวมถึงการจัดคลาสปฏิบัติการในรูปแบบจำลอง เป็นการประยุกต์ใช้ความรู้จากภาคทฤษฎีสู่การปฏิบัติจริงในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ กิจกรรมฝึกปฏิบัติบริการและปรุงอาหารสำหรับการบริการในห้องอาหารจำลอง เพื่อให้ผู้เรียนมีความพร้อมต่อการทำงานในโลกธุรกิจปัจจุบันในทุกมิติ

 ดูรายละเอียดเกี่ยวกับโรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ได้ที่

https://www.cordonbleu.edu/thailand/home/th หรือสอบถามข้อมูลที่ E-mail: thailand@cordonbleu.edu ; LINE: @lecordonbleudusit หรือติดต่อที่ โทร. 02-237-8877

Skip to content