วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2566 ประกาศรางวัลเกียรติยศ “นักการเงินแห่งปี” โดยคณะกรรมการตัดสินรางวัลมีมติให้ สาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ครองตำแหน่งนักการเงินแห่งปี 2566 ซึ่งเป็นการครองตำแหน่งเป็นครั้งที่ 2 ด้วยคุณสมบัติของการเป็นนักการเงินแห่งปีครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การพิจารณาทั้ง 4 ด้าน เป็นนักการเงินมืออาชีพที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ สร้างความเติบโตยั่งยืนให้กับองค์กร รับผิดชอบต่อสังคมและทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวม
เป็นเวลา 41 ปีแล้วที่ วารสารการเงินธนาคาร ได้มอบรางวัลเกียรติยศ นักการเงินแห่งปี Financier of the Year เพื่อยกย่องผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร สถาบันการเงิน บริษัทประกัน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลงานโดดเด่น มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทันสมัย สามารถขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตก้าวหน้าและยั่งยืนในทุกสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม
สำหรับปี 2566 คณะกรรมการตัดสินรางวัลนักการเงินแห่งปี ได้กลั่นกรองและพิจารณาอย่างเข้มข้น จึงลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์มอบรางวัลเกียรติยศ นักการเงินแห่งปี 2566 Financier of the Year 2023 ให้กับ สาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ด้วยผลงานที่โดดเด่นผ่านคุณสมบัติการเป็นนักการเงินแห่งปี ตามหลักเกณฑ์ทั้ง 4 ด้าน คือ 1.เป็นนักการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย 2.เป็นนักการเงินมืออาชีพที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ 3.เป็นนักการเงินที่สร้างความเจริญเติบโตและยั่งยืนให้กับองค์กร และ 4.เป็นนักการเงินที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวม
1. เป็นนักการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย
สาระ ล่ำซำ เป็นผู้บริหารบริษัทประกันชีวิตคนแรกที่ได้รับรางวัล “นักการเงินแห่งปี” เมื่อปี 2556 มาในปีนี้ สาระ ได้กลับมาครองตำแหน่ง “นักการเงินแห่งปี 2566” อีกครั้ง ด้วยผลงานโดดเด่น โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาคธุรกิจประกันชีวิตได้เผชิญกับความท้าทายเป็นอย่างมาก สาระ ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมประกันชีวิตไทย จึงมีบทบาทสำคัญในการทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยเป็นผู้ริเริ่มให้มีกระบวนการเสนอขายประกันในรูปแบบ Digital Face to Face เพื่อรองรับกับมาตรการรักษาระยะห่าง (Social Distancing) ระหว่างลูกค้ากับผู้เสนอขาย ทำให้กระบวนการเสนอขายเป็นไปได้อย่างราบรื่นในช่วงโควิด-19
รวมทั้ง ยังมีบทบาทในการออกข้อปฏิบัติ “เคลมประกันโควิด-19” สำหรับผู้ทำประกันภัยที่ติดเชื้อโควิด-19 ของบริษัทประกันชีวิต เพื่อเป็นแนวทางที่ชัดเจนให้ลูกค้ามีความเข้าใจในเรื่องการจ่ายเคลม เป็นการสร้างความอุ่นใจและความน่าเชื่อถือให้กับผู้เอาประกันภัยที่ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพและติดเชื่อโควิด-19
หลังจากมีกระบวนการ Digital Face to Face และการออกประกาศข้อปฏิบัติ “เคลมประกันโควิด-19” ส่งผลให้ภาคธุรกิจประกันชีวิตไทยตั้งแต่ปี 2562 มีเบี้ยรับรวมและเบี้ยรับใหม่ของการประกันสุขภาพเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10% สะท้อนถึงความรู้ความสามารถและวิสัยทัศน์ของ สาระ ที่ช่วยยกระดับให้ภาคธุรกิจประกันชีวิตเติบโตได้แม้ว่าจะประสบภาวะวิกฤติโควิด-19
สาระ ยังเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ของภาคธุรกิจประกันชีวิต โดยประกาศบังคับใช้กฎหมายใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและกฎหมายระดับสากล ซึ่งมีการทำงานร่วมกับสำนักงาน คปภ. เพื่อยกระดับมาตรฐานของภาคธุรกิจประกันชีวิตให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ระหว่างผู้ทำประกันภัยและบริษัทประกันชีวิต
2. เป็นนักการเงินมืออาชีพที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ
สาระ เป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการบริหารการเงินและการลงทุนมากว่า 30 ปี โดยมุ่งหวังให้ประชาชนเข้าถึงการทำประกันชีวิตและส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนทุกกลุ่มมีความรู้ทางการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดี (Financial & Insurance Literacy) ในการสร้างความมั่นคงและคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย และมุ่งหวังให้ตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าเป็นสำคัญ (Outside In) แบบรายรายบุคคล (Personalization)
นอกจากนี้ ยังเป็นผู้นำที่บริหารองค์กรที่คำนึงถึงจริยธรรมและการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนสำคัญที่ทำให้เมืองไทยประกันชีวิตได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “จรรยาบรรณดีเด่น” มาทั้งหมด 3 ครั้งจากหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในปี 2548 ปี 2562 และ ปี 2565 ส่งผลให้ สาระ ได้รับการยอมรับในความเป็นผู้นำที่มีความเป็นมืออาชีพ มีความรู้ความสามารถ และความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ จนได้รับความไว้วางใจจากบริษัทสมาชิกคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมประกันชีวิตถึง 6 สมัย
ส่วนเวทีในระดับสากล สาระ ได้รับเกียรติจากผู้ประกอบการธุรกิจของแต่ละประเทศในการดำรงตำแหน่ง “the Chapter Chair of YPO Gold (Thailand)” หรือประธานกรรมการ YPO Gold (Thailand) สมาคมไทยแลนด์ แชปเตอร์ ยัง เพรสซิเดนท์ส ออร์แกนไนเซชั่น อิงค์ ซึ่งเป็นกลุ่มสังคมชุมชนระดับโลกที่เกิดจากการรวมตัวระหว่างเจ้าของผู้ประกอบกิจการในแต่ละประเทศในการแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ และนวัตกรรมขององค์กรที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
3. เป็นนักการเงินที่สร้างความเจริญเติบโตให้กับองค์กร
สาระ เป็นผู้ริเริ่มในการปรับภาพลักษณ์องค์กร (Brightening the Brand) ให้มีความสดใส ทันสมัย และเป็นสากลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ภายใต้สโลแกน “Happiness Means Everything: เพราะความสุขคือทุกอย่าง” โดยมีการเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่โลโก้ด้วยรูปลักษณ์โค้งมน สื่อสารผ่านสีที่หลากหลายสะท้อนถึงความสดใส เข้าถึงง่าย สร้างความใกล้ชิดของลูกค้า
ซึ่งหลังจากที่ สาระ ได้มุ่งมั่นพัฒนาขยายธุรกิจของเมืองไทยประกันชีวิตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ อัตราการเติบโตเฉลี่ยของเบี้ยรับรวม (CAGR Growth) ตั้งแต่ปี 2547-2565 สูงถึง 13% จากเดิมที่เมืองไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันขนาดเล็ก เคยอยู่ในอันดับที่ 8 ของภาคธุรกิจในช่วงที่สาระเริ่มบริหารช่วงแรกๆ ปัจจุบันได้ก้าวเป็นบริษัทประกันขนาดใหญ่ระดับชั้นนำของประเทศ ที่มีผลงานเบี้ยรับรวมแตะระดับสูงสุดที่ 100,000 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 2 ของภาคธุรกิจประกันชีวิต
ไม่เพียงแต่ธุรกิจในประเทศ สาระ ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการริเริ่มขยายธุรกิจประกันชีวิตไทยไปสู่กลุ่มประเทศ CLMV (Cambodia, Laos, Myanmar และ Vietnam) ซึ่งปัจจุบันมีส่วนอันดับทางการตลาดเป็นอันดับต้นๆ ของภาคธุรกิจในประเทศ Cambodia และ Laos
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีสินทรัพย์รวมกว่า 600,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิสูงถึง 5,700 ล้านบาทเป็นอันดับต้นๆ ของภาคธุรกิจ มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนมากกว่า 300% ซึ่งสูงกว่าที่ระดับเกณฑ์ขั้นต่ำที่ภาคธุรกิจกำหนดไว้ที่ 140% และมีจำนวนกรมธรรม์ที่มีผลบังคับและดูแลให้กับลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตเกือบ 3,000,000 กรมธรรม์
4. เป็นนักการเงินที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวม
ภายใต้การนำของ สาระ ได้ให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและเติมเต็มชีวิตของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์ตลอดช่วงชีวิต นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักการ ESG ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ด้านสังคม (Social) และ ด้านบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance & Economic)
โดยมีการกำหนดกลยุทธ์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ผสมผสานแนวคิด ESG กับการดำเนินธุรกิจ “Embedding Sustainability into Our Own Operation” เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายมีความสุขอย่างยั่งยืนในทุกมิติ และเพื่อมุ่งเป็น “Leading Sustainable Insurer” ที่จะมีบทบาทสำคัญในการบรรลุความสำเร็จของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ
ล่าสุด สาระ เป็นผู้ที่ผลักดันแนวคิดการตอบแทนเพื่อสังคมของเมืองไทยประกันชีวิต ให้ก้าวสู่ “Creating Shared Value” (CSV) หรือ “การสร้างคุณค่าร่วมกันของสังคม” ผ่านแนวคิด “MTL Share” ที่มุ่งการสร้างคุณค่าของการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่นอกจากจะสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมแล้ว จะมีการสร้างกระบวนการใหม่ให้สามารถสร้างคุณค่าจากสินค้าหรือการบริการของธุรกิจให้กับสังคมร่วมด้วย
สาระ ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการร่วมกำหนดและจัดทำกรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance Framework) ที่ใช้ในการกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจให้มีความโปร่งใสและมีความน่าเชื่อถือ โดยจะมีแนวทางที่เป็นกลไกในการควบคุมภายใน การเปิดเผยข้อมูล และการตรวจสอบที่มีประสิทธิผล ผ่านการแบ่งแยกอำนาจหน้าที่ระหว่างฝ่ายกำกับดูแล และฝ่ายบริหารที่ชัดเจน ตลอดจนมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อย เพื่อช่วยทำหน้าที่ในการกลั่นกรองในมิติต่างๆ ของการประกอบของเมืองไทยประกันชีวิต
More Stories
วิริยะประกันภัย ร่วมสนับสนุนงาน iTIC Forum 2024 ผลักดันเทคโนโลยี AI เสริมวินัยจราจร
ธนชาตประกันภัย รับรางวัล CAC Change Agent Award 2024
ศูนย์ CIT จัดงาน “InsurTech Summit 2024”