สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ประมวลภาพภารกิจด้านการสร้างเสถียรภาพราคาพลังงานในช่วงปี 2566 ทั้งน้ำมันกลุ่มดีเซล เบนซิน และก๊าซ LPG โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบด้านค่าครองชีพแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องภายใต้สถานการณ์พลังงานโลกที่ยังมีความผันผวนสูง
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการ สกนช. เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่กำลังจะสิ้นสุดนี้ สกนช. ได้ปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ในการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง โดยการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของ สกนช. ภายใต้การรับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) และนโยบายคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเชื้อเพลิง ในช่วงที่ผ่านมาสามารถ ใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ ดูแลบริหารจัดการราคาขายปลีกของกลุ่มน้ำมันดีเซล เบนซิน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ได้คล่องตัวมากขึ้นหลังจากมีเงินกู้เข้ามาเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ
ทั้งนี้ สามารถสรุปประเด็นในการดำเนินการเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา น้ำมันเชื้อเพลิงทั้งในกลุ่มน้ำมันดีเซล ก๊าซ LPG และกลุ่มน้ำมันเบนซิน ดังนี้
-การรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับ 30 บาท/ลิตร: การบริหารจัดการราคาขายปลีกของกลุ่มดีเซลในปี 2566 กบน. มีมติปรับลดราคาขายปลีกดีเซลไปแล้วรวม 7 ครั้ง จากราคา 35 บาท/ลิตร
มายืนระยะที่ 32 บาท/ลิตร ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และปัจจุบันราคาลดลงมาอยู่ที่ 30 บาท/ลิตร จากผลของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 ที่ให้ตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน
-31 ธันวาคม 2566 โดยใช้กลไกลดภาษีสรรพสามิตลง 2.50 บาท/ลิตร และกลไกกองทุนน้ำมันฯ ในการรักษาระดับราคาขายปลีก
-การรักษาระดับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ไม่ให้เกิน 423 บาท/ถังขนาด 15 กิโลกรัม (กก.): ด้านราคาก๊าซ LPG ตั้งแต่ต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ได้ทยอยปรับราคาจาก 408 บาท/ถัง 15 กก. เป็น 423 บาท/ถัง 15 กก. โดยมีผลวันที่ 1 มีนาคม 2566 เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งรัฐบาลได้ตรึงราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ 423 บาท/ถัง 15 กก. เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนและส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
-การลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ในกลุ่มน้ำมันเบนซินเพื่อให้ราคาขายปลีกลดลง:
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 31 ตุลาคม 2566 เห็นชอบแนวทางการลดค่าครองชีพประชาชนตามที่กระทรวงพลังงานเสนอลดราคาแก๊สโซฮอล 91 ลง 2.50 บาท/ลิตร เป็นเวลา 3 เดือน โดยใช้กลไกลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน 1 บาท/ลิตร พร้อมใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนเพื่อทำให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ลดลงรวม 2.50 บาท/ลิตร โดยที่ประชุม กบน. ได้ดำเนินการปรับลดราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันเบนซิน ให้มีผลตั้งแต่ 7 พฤศจิกายน 2566 – 31 มกราคม 2567 โดยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ลดลง 2.50 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ลดลง 1 บาท/ลิตร ส่วน E20 และ85 ลดลง 80 สตางค์/ลิตร
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2566 ติดลบ 78,680 ล้านบาท โดยบัญชีน้ำมันติดลบ 32,569 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 46,111 ล้านบาท และเงินกู้ยืมในบัญชีเงินฝากกรมบัญชีกลาง 10,000 ล้านบาท
More Stories
SSP ติดปีก! รุกขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ
ราช กรุ๊ป – เอไอเอฟ กรุ๊ป – โรนิตรอน จับมือศึกษาและพัฒนาโครงการผลิตกรีนไฮโดรเจน – กรีนแอมโมเนีย จากพลังงานสะอาดใน สปป.ลาว
“พลังงาน”ชูต้นแบบสระบุรีแซนด์บ็อกซ์ เมืองคาร์บอนต่ำ