26 พฤศจิกายน 2024

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

ทีทีบี ยกกองทัพกูรูและผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน เปิดมุมมองทิศทางตลาดปี 2567

เจาะจุดเด่น 4 ธีมลงทุนความมั่นคงทางการเงิน ผ่านสัมมนา “ttb investment outlook 2024”

 ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ยกกองทัพผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจากทีทีบีและพันธมิตร เปิดมุมมองและทิศทางการลงทุนตลาดปี 2567 ผ่านสัมมนา “ttb investment outlook 2024” พร้อมเจาะจุดเด่น 4 ธีมการลงทุนแห่งความมั่นคงทางการเงินให้กับนักลงทุนที่สนใจ เพื่อนำมาปรับพอร์ตการลงทุนช่วยสร้างโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน นำไปสู่ชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งในวันนี้และอนาคต

 เปิดมุมมองและทิศทางการลงทุนตลาดปี 2024

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารการลงทุน ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่าภาพรวมการลงทุนในปี 2566 ที่ผ่านมามีความผันผวนค่อนข้างสูง แต่สำหรับปี 2567 นี้ คาดการณ์ว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้มองเห็นโอกาสที่ดีในการทำให้พอร์ตการลงทุนกลับมายืนได้อย่างสดใสมากขึ้น ถึงแม้ว่ายังมีความไม่แน่นอนซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ความขัดแย้งของกลุ่มฮามาส-อิสราเอล และความไม่แน่นอนในเรื่องของนโยบายทางการเงินต่าง ๆ ซึ่งการสัมมนา ttb investment outlook 2024”  ในครั้งนี้ ทีทีบี ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาแนะนำในเรื่องของการลงทุน เจาะจุดเด่น 4 ธีมการลงทุนแห่งความมั่นคงทางการเงิน รวมไปถึงการเปิดเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ ซึ่งนักลงทุนสามารถนำไปใช้ไปประกอบการตัดสินใจในพอร์ตการลงทุนของตนเองได้

ธีมแรก : จับจุดตลาดมองขาดการลงทุนปี 2024

นายอภิวัฒน์ น้าประทานสุข ผู้บริหารกลยุทธ์การลงทุน ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ปี 2567 นี้ ทั้งตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องจากตลาดยังมีปัจจัยบวกที่สำคัญ ได้แก่ วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นที่สิ้นสุดลง ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่ถดถอย และผลกำไรบริษัทในตลาดหุ้นยังมีแนวโน้มเติบโตต่อ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างปีตลาดการเงินโลกอาจมีความผันผวนเกิดขึ้นได้บ้าง เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนว่าธนาคารกลางในประเทศหลักอย่างเฟด (Fed) จะเริ่มลดดอกเบี้ยเมื่อใดและเท่าไร การจัดพอร์ตลงทุนตามธีม Market Normalization จึงยังเป็นหัวใจสำคัญที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว นอกจากนี้ มองว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงกลุ่มผู้ผลิตชิป ยังน่าลงทุนและควรมีอยู่ในพอร์ตการลงทุน เพราะเทคโนโลยี Generative AI จะยังเติบโตได้ดีในปีนี้ตามธีม Next Stage of Gen AI ส่งผลให้ทั้งกำไรและราคาหุ้นของกลุ่มบริษัทดังกล่าวมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปได้

นายวสวัตติ์ บวรเสรีผไท ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) กล่าวว่า โอกาสสร้างกระแสเงินสดในความไม่แน่นอนของตลาด ด้วย ES-GAINCOME ความเสี่ยงระดับ 5 เป็นความเสี่ยงสูงปานกลางค่อนข้างสูง จุดเด่นของกองทุนเน้นการลงทุนในตราสารหลากหลายประเภททั่วโลก มุ่งสร้างกระแสเงินสดและผลตอบแทนรวมที่ดี มีความยืดหยุ่นสูงในการปรับพอร์ตลงทุนโดยใช้ภาพเศรษฐกิจการจัดพอร์ตลงทุนสินทรัพย์และคัดสรรหลักทรัพย์รายตัว บริหารจัดการโดยทีมงานผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ยาวนาน รวมถึง Amundi Asset Management นอกจากนี้ ยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนกับหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ด้วยกองทุน ES-USTECH ถือเป็นหนึ่งกองทุนที่ตอบโจทย์และสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาว

ธีมที่สอง : มองไกลกับเทรนด์ AI แห่งอนาคต

นายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด ผู้ผลิตสื่อ Beartai เผยว่าปัจจุบันมีหลายค่ายที่หันมาพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการเติบโตของ AI ไม่ว่าจะเป็น Google, IBM, Microsoft  Adobe, NVIDIA, Samsung ฯลฯ โดยมีการพัฒนาสารพัดเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพเสมือนจริงด้วย AI การสร้างภาพให้ได้คอนเทนต์แปลกใหม่ แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่อยากฝากคือ หลายคนกลัวว่า AI จะเข้ามาแทนมนุษย์ แต่ในความจริงแล้ว AI เข้ามาเป็นผู้ช่วยลดระยะเวลาในการทำงานให้เรา จากเดิมใช้เวลา 3-5 วัน AI ช่วยลดระยะเวลาให้เสร็จภายในเพียงแค่หลักนาที ซึ่งไม่ต้องกลัว AI แต่ให้กลัวคนที่ใช้ AI และ “จงกลัวการไม่ลงทุนใน AI”

 ธีมที่สาม : จับสัญญาณหุ้นเด่นรับเศรษฐกิจฟื้น

นายภูริพัฒน์ ละเอียดธนะกิจ นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโส ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า จากข้อมูลของ World Bank และ IMF พบว่าในปี 2567 เศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนประเทศอินเดียยังคงน่าจับตามอง เนื่องจากมีแนวโน้มเศรษฐกิจที่ค่อนข้างสูงในระดับ 6-7% เมื่อเทียบกับเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง ซึ่งภาคประชาชนมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว โดยในปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นอินเดียค่อนข้างได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นจีน ซึ่งตลาดหุ้นอินเดียให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างดี แต่ยังคงต้องจับตาภาวะเงินเฟ้อราคาอาหาร และการเลือกตั้งในช่วงไตรมาส 2 หากเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เศรษฐกิจอินเดียน่าจะไปต่อได้

 นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โอกาสและความน่าสนใจของกองทุนอินเดีย TMB India Active Equity เน้นสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาว มีจุดแข็งด้านการคัดเลือกหุ้นแบบ Bottom Up โดยดูปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก รวมถึงหาโอกาสจากหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กเพิ่มเติม และบริหารโดยทีมงาน Local-Based ลงทุนในหุ้นที่มี Market Cap ได้ทุกขนาดและสามารถ OW ในหุ้น Small to Mid-Cap ได้ 15-25% มีการกระจายการลงทุนที่ดี Sector Limit +/- 7.5% เมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัด

ธีมที่สี่ : ติดภูมิคุ้มกันพอร์ตด้วยกองทุนตราสารหนี้

นายกัมปนาท โอมฤก นักกลยุทธ์การลงทุน ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ปี 2567 นี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยมีแนวโน้มขาลง ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีและเป็นโอกาสทองในการลงทุนตราสารหนี้ เพราะดอกเบี้ยผ่านช่วงพีคไปแล้ว การเข้าไปซื้อกองทุนตราสารหนี้เมื่อดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง ดอกเบี้ยที่ได้รับจะยังอยู่ในระดับสูง และราคาของตราสารหนี้ที่ถือครองไว้จะมีราคาที่เพิ่มขึ้น  เป็นโอกาสที่กองทุนตราสารหนี้โลกจะให้ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่สูงและราคาที่อัปไซด์ ขณะที่ตราสารหนี้ของไทยยังมีความน่าสนใจเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น TMB-T-ES-IPLUS สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากและต้องการสภาพคล่อง อายุกองทุนตราสารหนี้ 3 ปี และ ES-GF สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย และมีโอกาสได้รับส่วนต่างของราคา อายุกองทุน 6 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องของนักลงทุนด้วย

นายปณิธาน ศรีอินทร์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทางเลือกการลงทุนสำหรับตราสารหนี้ทั่วโลก ES Global GIS Bond Fund (ES-GF) เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นกองทุนที่ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ เพื่อให้นักลงทุนสามารถสร้างสมดุลพอร์ตและใช้ลงทุนคู่กับกองทุนหุ้น เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนและลดความเสี่ยงพอร์ตลงทุนในช่วงสภาวะตลาดผันผวน ทั้งนี้ แนวทางการลงทุนของกองทุนหลัก PIMCO GIS Global Bond” แบ่งเป็น Quality Investment ลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก โดยเน้นตราสารภาครัฐ เน้นกลุ่มภาครัฐและหุ้นกู้เอกชนคุณภาพดีเป็นหลัก Capital Preservation มุ่งหวังสร้างผลตอบแทนที่ดีภายใต้ความผันผวนของการลงทุนไม่สูงมาก (ควบคุมด้วยสัดส่วนตราสาร High Yield <10%, และสกุลเงิน Non-USD Currency <20%) ลักษณะกองทุนหลักเป็น Benchmark Aware บริหารจัดการโดยยึดตามดัชนีชี้วัด (Bloomberg Global Aggregate) โดยกำหนดอายุเฉลี่ยของตราสารในพอร์ตในช่วง +/-3 ปี เมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัดข้างตัว มี Strong Track Record ผลการดำเนินงานโดดเด่น ได้รับ Morningstar 4 ดาว บริหารจัดการโดย PIMCO ผู้เชี่ยวชาญทางด้านตราสารหนี้กว่า 50 ปี

Skip to content