สสส. สานพลัง สถาบันยุวทัศน์ฯ​ รณรงค์ “วาเลนไทน์ ฟิน อิน เลิฟ รักแค่เรา…ก็พอ”

ชวนคู่รักวัยรุ่น ใส่ใจสุขภาพ เลิกสูบบุหรี่ทุกชนิด อึ้ง ห่วงเด็กไทย สูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่ม 5.3 เท่า ปี 65 เด็กไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว 17.6% ชี้ ช่องทางออนไลน์แหล่งสำคัญ ส่งเสริมการขาย-โฆษณา

เมื่อ​วันที่ 14 ก.พ. 2567  ณ.ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันแห่งความรัก ประจำปี 2567 “วาเลนไทน์ ฟิน อิน เลิฟ รักแค่เรา…ก็พอ” ว่า สสส. ร่วมกับสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) และภาคีเครือข่าย ขอเชิญชวนคนรุ่นใหม่ห่างไกลจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อเป็นการบอกรักตนเอง คนรอบข้าง คนที่คุณรัก และคนที่รักคุณ เนื่องจากสถานการณ์การสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทย ยังน่าเป็นห่วง ข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2564 พบคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป สูบบุหรี่ 17.4% และมีอัตราการได้รับควันบุหรี่มือสองในที่พักอาศัย 23.7% ขณะที่ผลสำรวจการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบในเยาวชนไทย ปี 2565 ซึ่งเป็นการสำรวจระดับโลกภายใต้โครงการ Global Youth Tobacco Survey ขององค์การอนามัยโลก พบเด็กและเยาวชนอายุ 13-15 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 5.3 เท่า จาก 3.3% ในปี 2558 เพิ่มเป็น 17.6% ในปี 2565 พบโฆษณาและการส่งเสริมการขายทางอินเตอร์เน็ตจาก 27% ในปี 2558 เพิ่มเป็น 48% ในปี 2565
​ “บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตราย มีสารนิโคตินเป็นสารเสพติดที่มีผลทำลายสมองของเด็กและเยาวชนที่ยังเติบโตไม่เต็มที่ ทำให้เสี่ยงต่อการเสพติดนิโคตินมากขึ้น และมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปอด ทำให้เกิดโรคปอดข้าวโพดคั่ว (Popcorn Lung) ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เนื่องในวันแห่งความรักนี้ สสส. จึงขอเชิญชวนคนรุ่นใหม่ ลด ละ เลิกบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองวันแห่งความรัก ที่คู่รักหนุ่มสาวต่างแสดงออกถึงความรักและความห่วงใยซึ่งกันและกัน ผ่านการให้กำลังใจในการเลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพของตัวเองและคนรอบข้างที่คุณรัก” ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว
​ด้านนายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวว่า ยท. เดินหน้าผลักดันให้เกิดการสื่อสารเชิงบวกมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์เป็นวันที่มีความสำคัญกับคู่รักวัยรุ่น คู่รักทั่วไป ที่สามารถแสดงสัญลักษณ์ของความรักต่อกันและกันได้ จึงขอเชิญชวนเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป ใช้โอกาสในวันแห่งความรักนี้ แสดงพลังการเป็นห่วงเป็นใย และส่งต่อกำลังใจให้คู่รักของตนเองสามารถเลิกสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้าได้สำเร็จ เพื่อป้องกันสุขภาพให้แข็งแรง ซึ่งเป็นพื้นฐานของการสร้างครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตคู่ ซึ่งตรงกับแนวคิดการจัดงาน “วาเลนไทน์ ฟิน อิน เลิฟ รักแค่เรา…ก็พอ” ที่มุ่งเน้นให้เกิดความรู้สึกรักแค่คู่ชีวิตของตนเอง ไม่มีความรู้สึกผูกพันกับบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจอยากเลิกสูบบุหรี่ สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายเลิกบุหรี่ 1600 หรือสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชนที่ให้บริการคำปรึกษาการเลิกบุหรี่