เพื่อการอยู่อาศัย ตอบโจทย์ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งมอบ ‘ที่อยู่อาศัย-สังคมน่าอยู่’ ในวันนี้และอนาคต
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เดินหน้าพัฒนาธุรกิจด้วยแนวคิด ESG ผุด 3 โครงการหลักสำหรับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยรับต้นปี มุ่งยกระดับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ เปิดแผนติดตั้งโซลาร์ รูฟ ในโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม พร้อมสร้างกระบวนการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพในทุกโครงการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตครอบครัวแรงงานในแคมป์ก่อสร้าง โดยมุ่งเป้าด้านความเป็นอยู่ที่ดีและการเข้าถึงการศึกษา เพื่อร่วมขับเคลื่อนสังคมน่าอยู่และยั่งยืนในระยะยาว
นายสมบูรณ์ วศินชัชวาล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นส่งต่อพื้นที่การอยู่อาศัยตามแนวทางด้านความยั่งยืน
โดยคำนึงถึงมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG: Environment, Social, Governance) เพื่อสร้างการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพให้สังคมในปัจจุบันที่สามารถส่งต่อรุ่นต่อไปได้อย่างยั่งยืน และด้วยแนวคิด Sustainable Living for the Next Generation นี้ บริษัทฯ ได้สร้างการมีส่วนร่วมผ่านโครงการต่าง ๆ กับผู้มีส่วนได้เสียอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งการยกระดับการอยู่อาศัยของลูกบ้าน การดูแลชุมชนและสังคม รวมถึงการร่วมจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างรับผิดชอบ
“โครงการแรกที่จะริเริ่มในปี 2567 จะเป็นการติดตั้งโซลาร์ รูฟ ในโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียมของทุกโครงการใหม่ รวมถึงในบ้านตัวอย่าง, สำนักงานขาย, คลับเฮ้าส์ และพี้นที่ส่วนกลางกว่า 70 โครงการ เพื่อนำพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์มาใช้ภายในครัวเรือน มีเป้าหมายกำลังการผลิตไฟไม่น้อยกว่า 1.5 เมกะวัตต์ หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้จำนวน 100,000 ต้นต่อปี ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากถึง 26,400 บาทต่อปี โดยโซลาร์ รูฟที่ติดตั้งนั้นครอบคลุมการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบเป็นเจ้าแรก” นายสมบูรณ์ กล่าวเสริม
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้เดินหน้าจัดทำโครงการด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกับพนักงานและลูกบ้าน กับโครงการเดอะรอยัล เรสซิเด้นท์ เกษตรนวมินทร์, เพรสทีจ ฟิวเจอร์รังสิต และแกรนดิโอ บางนา กม. 5 เป็นต้น ที่ให้ความรู้ความเข้าใจถึงวิธีการจัดการขยะ เพื่อให้ลูกบ้านสามารถคัดแยกขยะได้อย่างถูกวิธี โดยตั้งเป้าหมายดำเนินการครอบคลุมทุกโครงการที่โอนแล้วไม่น้อยกว่า 50% รวมถึงมีการจัดการขยะในโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งเน้นการจัดการขยะก่อสร้าง ตั้งแต่การคัดแยก ฝังกลบ การนำไป รีไซเคิล และดูแลการจัดการน้ำเสียที่เกิดจากการก่อสร้าง เพื่อช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด
นอกจากนี้ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้คนในสังคม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ กลุ่มแรงงานและเด็กในแคมป์ก่อสร้างเป็นอีกหนึ่งกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ ด้วยมุมมองการดำเนินธุรกิจที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
จึงจัดทำโครงการ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ แบ่งฝัน ปันยิ้ม เริ่มต้นเป็นแห่งแรกที่โครงการเพรสทีจ สาทร ซึ่งร่วมมือกับมูลนิธิเครือข่ายพัฒนาบ้านเด็ก (BSI: Building Social Impact Initiative) ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในแคมป์ก่อสร้างให้มีความปลอดภัย และสุขอนามัย สนับสนุนการเข้าถึงสวัสดิการต่าง ๆ ทั้งด้านสาธารณสุขในการฉีดวัคซีนป้องกันโรค และการเข้าถึงระบบการศึกษา เป็นต้น
“บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายผลโครงการด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมให้กว้างขึ้น โดยเชื่อมั่นว่าโครงการเหล่านี้จะสามารถยกระดับการอยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คน รวมถึงร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ถือได้ว่าเป็นการส่งมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ดีให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อันสอดรับกับเจตนารมณ์ของแบรนด์เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ในการสร้างสรรค์พื้นที่ เพื่อประสบการณ์ที่ดีคงอยู่อีกด้วย” นายสมบูรณ์ กล่าว
More Stories
ศุภาลัย คว้าอันดับในกลุ่ม “ดีเลิศ” ต่อเนื่องปีที่ 12 จากผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการที่ดีบริษัทจดทะเบียนปี 67
‘แกรนด์ ยูนิตี้’ เตรียมจัดกิจกรรมสุดพิเศษ “Holiday Cookies Workshop”
ส่องเทรนด์สีปี 2025 TOA Color Trends ค้นหาสีที่ใช่! ให้บ้านคุณ