26 พฤศจิกายน 2024

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

ยูโอบี จับมือ Alibaba.com เสริมศักยภาพเอสเอ็มอีไทย ลุยขยายธุรกิจ B2B บนอีคอมเมิร์ซ

นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Head of Business Banking, ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย (ขวา) นายวาเรน หวัง

Head of Thailand Business, Alibaba.com (ซ้าย) ในงานสัมมนา “Global E-Commerce Trends 2024” กรุงเทพฯ 20 มีนาคม 2567 ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยจับมือกับ Alibaba.com แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ B2B ของอาลีบาบาสำหรับการค้าระดับโลก หนุนผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (เอสเอ็มอี) ขยายธุรกิจบนอีคอมเมิรซ์ ร่วมเผยแนวทางการดำเนินธุรกิจ และนำเสนอโซลูชันทางการเงินที่จะช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจเอสเอ็มอีขยายโอกาสสู่ตลาดต่างประเทศบนช่องทางออนไลน์ ความร่วมมือระหว่างธนาคารยูโอบี ประเทศไทย และ Alibaba.com ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสององค์กรที่พร้อมจะรวมองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญ เพื่อมอบคำแนะนำและเครื่องมือทางการเงินอันเป็นประโยชน์ให้ธุรกิจเอสเอ็มอีไทยสามารถดำเนินธุรกิจบนช่องทางออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Head of Business Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “มีรายงานคาดการณ์ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซ B2B ทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2570 ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมาที่ธนาคารได้นำเสนอบริการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เราเล็งเห็นว่าอีคอมเมิร์ซได้กลายมาเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ผู้ประกอบการในการทำตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้ ธนาคารยังตระหนักดีว่าการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและบริการทางธุรกิจ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจไปบนดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นการผนึกความเชี่ยวชาญทางการเงินของธนาคารเข้ากับข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมของ Alibaba.com เพื่อสนับสนุนลูกค้าเอสเอ็มอีเชื่อมต่อกับโอกาสใหม่และขยายธุรกิจไปต่างประเทศบนดิจิทัลแพลตฟอร์มระดับโลก”

นายวาเรน หวัง Head of Thailand Business, Alibaba.com กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ในการให้บริการธุรกิจในการซื้อขายสินค้าทั่วโลก Alibaba.com คือแพลตฟอร์ม B2B (Business-to-Business) ชั้นนำเพื่อการค้าระดับโลก รายงานการศึกษาของเราพบว่าร้อยละ 42 ของผู้ขายสินค้าใช้แพลตฟอร์มของเราเป็นช่องทางหลักในการคัดสรรสินค้า ในขณะที่ร้อยละ 60 ใช้แพลตฟอร์มเพื่อเป็นช่องทางสำหรับขยายธุรกิจไปตลาดต่างประเทศ ดังนั้นเราในฐานะแพลตฟอร์มที่ให้บริการซื้อขายแบบครบวงจรพร้อมจะอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในการขยายธุรกิจไปต่างแดน และเราหวังที่จะได้ร่วมงานกับยูโอบีอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อจัดงานสัมมนาที่เป็นประโยชน์ให้แก่ธุรกิจเอสเอ็มอีในอนาคต” โดยเมื่อเร็วนี้ๆ ธนาคารยูโอบีได้ร่วมกับ Alibaba.com จัดงานสัมมนาให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่ง นำเข้าและส่งออก เพื่อนำเสนอ ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจแบบ B2B บนตลาดอีคอมเมิร์ซ ทิศทางและแนวโน้มของการนำเข้าและส่งออกสินค้า รวมไปถึงสถานการณ์ของตลาดในปัจจุบันเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถจัดหาสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมและมีโอกาสในการขายได้มากขึ้น โดยผลสำรวจของ Alibaba.com พบว่าประเทศผู้ซื้อที่สนใจซื้อผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยมากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา ปากีสถาน และ ประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง สำหรับกลุ่มสินค้าที่มียอดการซื้อขายสูงสุงจากผู้ขายไทยได้แก่ กลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มสินค้าด้านการเกษตร กลุ่มสินค้าด้านความงาม กลุ่มสินค้าเสื้อผ้าและเครื่องประดับ และกลุ่มสินค้าบ้านและสวน นอกจากนี้ธนาคารได้นำเสนอโซลูชันทางการเงินและบริการธนาคารที่จะช่วยบริหารเงินสด และลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกรรมต่างประเทศเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจเอสเอ็มอีที่สนใจจะขยายธุรกิจบนแพลต์ฟอร์มออนไลน์ระหว่างประเทศ อาทิเช่น UOB Biztrade+, UOB Trade Finance, UOB FX (Foreign Exchange), และ Trade Credit Insurance ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อลดอุปสรรคในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ธุรกิจและทำให้การขายสินค้าออนไลน์ไปสู่ตลาดต่างประเทศเป็นไปอย่างสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ธุรกิจเอสเอ็มอียังสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม UOB BizSmart ที่รวบรวมโซลูชันจัดการธุรกิจบนระบบดิจิทัลแบบครบวงจรเพื่อช่วยให้การบริหารธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และโปรโมชันพิเศษจากธนาคารยูโอบี ประเทศไทย และ Alibaba.com ได้ที่

Line official: UOBSME Facebook: Sell on Alibaba.com

เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี

ธนาคาร ยูโอบี เป็นธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์และมีการดำเนินธุรกิจในจีน อินโดนิเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม อีกทั้งยังมีเครือข่ายระดับโลกที่ประกอบด้วยสำนักงานประมาณ 500 แห่ง ใน 19 ประเทศและเขตการปกครอง ทั้งในเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ 2478 ธนาคารยูโอบีได้พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านการควบรวมกิจการที่สำคัญ ปัจจุบันธนาคารยูโอบีได้รับการจัดลำดับให้เป็นธนาคารที่มีความแข็งแกร่งในระดับสากลจากบริษัทจัดลำดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้แก่ Aa1 โดย มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และ AA- โดย ฟิทช์ เรทติงส์ และเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์

ตลอดระยะเวลาเกือบ 9 ทศววรษ ธนาคารยูโอบีดำเนินธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ธุรกิจในระยะยาวโดยการปรับกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคผ่านพลังงานแห่งความสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้องแก่ลูกค้า ยูโอบีพร้อมที่จะพัฒนาอนาคตของภูมิภาคอาเซียนในเติบโต ทั้งประชากรและธุรกิจให้มีความเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงในภูมิภาค เรายังมีส่วนในการเชื่อมต่อโอกาสทางธุรกิจภายในภูมิภาคนี้ ผ่านเครือข่ายทางการเงินที่แข็งแกร่ง เรามีการจัดทำฐานข้อมูลและรวบรวมข้อมูลเชิงลึกสำหรับพัฒนาและนำเสนอประสบการณ์ทางการเงินส่วนบุคคล และบริการทางการเงินที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลง ยูโอบีมีความมุ่งมันที่จะสร้างความยั่งยื่นในการดำเนินธุรกิจให้แก่ลูกค้า ผ่านกิจกรรมการมีส่วนร่วมทางสังคม สร้างผลกระทบที่ดีต่อสื่งแวดล้อม พร้อมไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ธนาคารเชื่อมั่นในการเป็นผู้บริการทางการเงินที่มีความรับผิดชอบ พร้อมทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมด้านศิลปะ เยาวชน และ การศึกษา เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

  1. ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีเครือข่ายทั่วประเทศ 147 สาขา และเครื่องเบิกเงินสดอัตโนมัติ 343 เครื่อง (ข้อมูลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566) โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ได้แก่ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (อันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวที่ A3) และฟิทช์ เรทติ้งส์ (อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวที่ A- และความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาวที่AAA(tha)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Skip to content