25 พฤศจิกายน 2024

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

วว. ขึ้นทะเบียนที่ปรึกษา  ศูนย์ข้อมูลทึ่ปรึกษา  สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ  กระทรวงการคลัง

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)  ได้ขึ้นทะเบียนที่ปรึกษา ประเภทนิติบุคคล หมายเลข  656 ระดับ 1 สาขาสิ่งแวดล้อม  สาขาอุตสาหกรรม  สาขามาตรฐานคุณภาพ ด้าน ISO 9001  ด้าน GMP   และด้าน มอก./ ISO / IEC 17025  สาขาการวิจัยและการประเมินผล  ณ วันที่ 3 เมษายน 2567  จากการรับรองการขึ้นทะเบียนฯ  โดย  ศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษา  สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ  กระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ วว. ได้ขึ้นทะเบียนฯ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2543  จวบปัจจุบัน  โดยเป็นหนึ่ง 1 ใน 26 หน่วยงานที่ปรึกษาองค์กรของรัฐที่ได้ขึ้นทะเบียนที่ปรึกษา ตามระเบียบพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ซึ่งระบุว่า “ที่ปรึกษาที่จะเข้าร่วมการเสนองานกับหน่วยงานของรัฐ  ต้องเป็นที่ปรึกษาที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษา กระทรวงการคลัง เว้นแต่จะมีหนังสือรับรองจากศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาฯ ว่า ไม่มีที่ปรึกษาเป็นผู้ให้บริการในงานที่จ้างนั้น หรือเป็นงานจ้างที่ปรึกษาของหน่วยงานของรัฐในต่างประเทศ…”

อนึ่งที่ปรึกษาคือ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ประกอบอาชีพ ประกอบกิจการ หรือให้บริการคำปรึกษาหรือแนะนำทางด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม ผังเมือง กฎหมาย เศรษฐศาสตร์ การเงิน การคลัง สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สาธารณสุข ศิลปวัฒนธรรม การศึกษาวิจัย เป็นต้น  สำหรับความจําเป็นในการว่าจ้างที่ปรึกษา  ประกอบด้วย  1) หน่วยงานไม่มีเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถในสาขาวิชาชีพที่ต้องการเพียงพอ หรือจําเป็นต้องใช้บุคคลที่มีความรู้หลายด้าน หรือเจ้าหน้าที่มีจํานวนไม่เพียงพอที่จะดําเนินงานได้เอง  2) หน่วยงานต้องการข้อคิดเห็นจากที่ปรึกษาซึ่งเป็นบุคคลภายนอก (Second Opinion) ซึ่งเสนอความเห็นได้อย่างอิสระและปราศจากอคติ เพื่อพิจารณาประกอบกับข้อคิดเห็นของบุคคลภายใน สําหรับเรื่องที่มีความสําคัญในระดับสูงหรือเพื่อให้การวิเคราะห์ปัญหามีแนวคิดที่ต่างจากแนวคิดในกรอบราชการ   และ 3) หน่วยงานไม่ต้องการเพิ่มกําลังคน ทั้งนี้เนื่องจากงานนั้นมีเป็นครั้งคราว หรือหน่วยงานไม่สามารถเพิ่มกําลังคนได้เนื่องจากข้อจํากัดในด้านอัตรากําลัง

อย่างไรก็ตาม การว่าจ้างที่ปรึกษาจะต้องคํานึงถึงการใช้บุคลากรของหน่วยงานที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ และจะต้องคํานึงถึงการพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรของหน่วยงานด้วย ทางหนึ่งที่อาจทําได้คือ การว่าจ้างที่ปรึกษาให้ทํางานร่วมกับบุคลากรของหน่วยงาน ในกรณีนี้หน่วยงานจะมีบุคลากรพร้อมในหลายด้าน แต่อาจขาดผู้ที่มีประสบการณ์มากพอที่จะเป็นหัวหน้าคณะทํางาน หรือขาดผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

Skip to content