SAK โชว์ผลดำเนินงานไตรมาส 1/67 พอร์ตสินเชื่อโต 12,361 ล้านบาท หนุนกำไรสุทธิ 195 ล้านบาท เติบโต 11.5%

ปักธงขยายฐานกลุ่มเกษตรกร รับดีมานด์ฐานทุนเพื่อการเพาะปลูกพุ่ง

บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง’ หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย โชว์ผลการดำเนินงาน 1/2567 พอร์ตสินเชื่อรวม 12,361 ล้านบาท เติบโต 14.1% ส่งผลมีรายได้รวม 723 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4% และ 11.5% ตอกย้ำผู้นำให้บริการสินเชื่อเพื่อมอบโซลูชันทางการเงินครบวงจรแก่เกษตรกรและประชาชน ปักธงมุ่งขยายฐานลูกค้ากลุ่มเกษตรกร ขานรับไตรมาส 2 เข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก หนุนดีมานด์การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อทำเกษตรกรรมพุ่ง  ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อรวมแตะ  14,300 ล้านบาทตามเป้าหมาย

          นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยภายใต้แบรนด์ ‘ศักดิ์สยามลิสซิ่ง’ เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานปี 1/2567 (มกราคม-มีนาคม 2567) ว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ จากการมุ่งเน้นการเติบโตจากการขยายพอร์ตสินเชื่อที่มีคุณภาพ ภายใต้นโยบายการมอบสินเชื่อที่มีความรัดกุม เป็นธรรมและเข้าถึงเกษตรกรและประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อโดยรวมอยู่ที่ 12,361 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ
ปีก่อน ตอกย้ำการเป็นผู้นำให้บริการสินเชื่อเพื่อมอบโซลูชันทางการเงินครบวงจรแก่เกษตรกรและประชาชนอย่างกว้างขวาง

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีรายได้รวม 723 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4% และมีกำไรสุทธิ 195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน โดยปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ มาจากกลยุทธ์การขยายพอร์ตสินเชื่อที่มีคุณภาพและครบวงจรให้กับกลุ่มเกษตรกรซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัทฯ  ทำให้รายได้ดอกเบี้ย รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ รวมถึงรายได้จากการขายและการให้บริการจากบริษัทย่อยที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้การให้สินเชื่อที่มีความรัดกุม สามารถควบคุมหนี้ NPLs ให้อยู่ในระดับ 2.5% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม สะท้อนถึงคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ที่ดีจากการบริหารติดตามเก็บหนี้อย่างใกล้ชิด  อีกทั้งบริษัทฯ วางระดับการตั้งสำรองอย่างรอบคอบ เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจและยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

ส่วนแผนธุรกิจบริษัทฯ มุ่งมั่นมอบโซลูชั่นทางการเงินเพื่อการเกษตรและเป็นแหล่งทุนสำหรับประชาชนทั่วไปแบบครบวงจร เพื่อเป็นฐานทุนสำหรับการประกอบอาชีพต่างๆ และโดยเฉพาะเพิ่มผลผลิตทางเกษตรกรรมด้วยต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง รับกับจังหวะธุรกิจสินเชี่อในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งเป็นฤดูกาลเพาะปลูก กลุ่มเกษตรกรจะมีดีมานด์ขอสินเชื่อเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม นี้   โดยคาดการณ์ว่าสินเชื่อโซลาร์ปั๊มน้ำ
(ปั๊มน้ำพลังงานแสงอาทิตย์) เพื่อการเกษตรแบบครบวงจรจะมีความต้องการสูงขึ้น รวมทั้งการติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ของบริษัท ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่เข้าสู่ฤดูร้อน  ด้วยแผนธุรกิจปี 2567 มุ่งเน้นขยายพอร์ตสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ มั่นใจว่าพอร์ตสินเชื่อเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่ที่ 14,300 ล้านบาท เติบโต 15%