พร้อมชู “นวัตกรรมเพื่อการดูแลโรคหืดรุนแรงแบบแม่นยำ และภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปลดความเสี่ยงไวรัส RSV”
กรุงเทพฯ – บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช (BNH) ลงนามกรอบความร่วมมือสู่เครือข่ายความเป็นเลิศเพื่อการดูแลรักษาโรคหืดครบวงจรโดยทีมสหวิชาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กไทยห่างไกลภัยร้ายจากไวรัส RSV หรือ “Collaborative excellence in multidisciplinary care network for RSV and Asthma” สร้างความรู้ความเข้าใจในไวรัส RSV และ โรคหืด พร้อมดูแลผู้ป่วยด้วยทีมแพทย์มืออาชีพอย่างครบวงจร อีกทั้งเดินหน้าพัฒนาองค์ความรู้ของบุคลากร แลกเปลี่ยนความรู้ในงานวิจัย โดยมีการพัฒนาความร่วมมือในการนำ “นวัตกรรมภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปสำหรับโรค RSV” ที่เข้ามาช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัส RSV และ “นวัตกรรมเพื่อการดูแลรักษาโรคหืดรุนแรงแบบแม่นยำเฉพาะบุคคล” ยกระดับการดูแลโรคระบบทางเดินหายใจให้ทันสมัยตามมาตรฐานสากล
นายโรมัน รามอส ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย และ Frontier Markets เปิดเผยว่า การติดเชื้อไวรัส RSV และโรคหืดเป็นโรคที่มีความรุนแรงหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช จึงได้ร่วมลงนาม กรอบความร่วมมือสู่เครือข่ายความเป็นเลิศเพื่อการดูแลรักษาโรคหืดครบวงจรและยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กไทยห่างไกลภัยร้ายจากไวรัส RSV หรือ “Collaborative excellence in multidisciplinary care network for RSV and Asthma” โดยทีมสหสาขาวิชาชีพ อีกทั้งยังพัฒนาความร่วมมือในการนำ “นวัตกรรมเพื่อการดูแลรักษาโรคหืดรุนแรงแบบแม่นยำเฉพาะบุคคล” และ “นวัตกรรมภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปสำหรับโรค RSV” ที่เข้ามาช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อไวรัส RSV ระดับรุนแรงในเด็กที่มีความเสี่ยงสูงในช่วง 2 ขวบปีแรกอีกด้วย
กรอบความร่วมมือฯ ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้ความเข้าใจ ตั้งแต่แนวทางการรักษา การปฏิบัติตัว การป้องกันโรค พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามารับการปรึกษา อันเป็นเป้าหมายของการรักษาอย่างแท้จริง และยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการดูแลรักษาแบบองค์รวมโดยสหสาขาวิชาชีพที่มีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง โดยให้การดูแลรักษาที่เฉพาะเจาะจงและมีความแม่นยำกับผู้ป่วยแต่ละรายให้มากที่สุด เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการสร้างเครือข่ายการส่งต่ออย่างเป็นระบบ มุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้ของบุคลากร แลกเปลี่ยนความรู้ในงานวิจัยและสื่อความรู้ประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคและการรักษาแก่ผู้ป่วยทุกช่วงวัยและผู้ปกครองของผู้ป่วยเด็กเล็กด้วย
นายแพทย์นพรัตน์ พานทองวิริยะกุล ผู้บริหารโรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวว่า กรอบความร่วมมือสู่เครือข่ายความเป็นเลิศเพื่อการดูแลรักษาโรคหืดครบวงจรและยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กไทยห่างไกลภัยร้ายจากไวรัส RSV หรือ “Collaborative excellence in multidisciplinary care network for RSV and Asthma” มุ่งเน้นพัฒนาความเป็นเลิศในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหืดครบวงจรโดยทีมสหสาขาวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเป็นอย่างมาก โดยการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนล่างจากไวรัส RSV เป็นสาเหตุหลักในการนอนโรงพยาบาลของเด็กเล็กในช่วงขวบปีแรก มีการระบาดหนักในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม หรือช่วงฤดูฝน สำหรับการติดเชื้อไวรัส RSV ในช่วงทารกนั้นมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหืดในวัยเด็กได้ โดยความเสี่ยงในการเกิดโรคหืดในช่วง 5 ขวบปีแรกมีความสัมพันธ์กับระดับความรุนแรงของการติดเชื้อไวรัส RSV ด้วยเช่นกัน ซึ่งเด็กที่ปลอดการติดเชื้อไวรัส RSV ในช่วงขวบปีแรกมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหืดในช่วง 5 ขวบปีแรกต่ำกว่าเด็กที่เคยติดเชื้อไวรัส RSV ในช่วงขวบปีแรก ดังนั้น เราจึงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาโรคเป็นอย่างมาก
สำหรับกรอบความร่วมมือฯ ทางโรงพยาบาลบีเอ็นเอช และ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด วางแผนในการให้การดูแลรักษาผู้ป่วยทุกช่วงอายุ ด้วยการบริการและการให้การดูแลแบบครบวงจรผสานกับความเชี่ยวชาญทางการแพทย์โดยเฉพาะประสบการณ์ด้านการดูแลสุขภาพแม่และเด็ก อีกทั้งการผสานนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการรักษา อาทิเช่น โรคหอบหืดรุนแรง โดยการประเมินเฉพาะบุคคลเพื่อการรักษาที่แม่นยำยิ่งขึ้นสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย และการทำงานเป็นทีมให้การดูแลแบบสหสาขาวิชาชีพ (multidisciplinary teamwork) พร้อมให้การดูแลอย่างครอบคลุม และรักษาอย่างตรงจุด
More Stories
วีเอชดี ส่ง เมอริช คอฟฟี่ ชิงตลาดกาแฟสุขภาพ 3.4 หมื่นลบ.
BDMS Wellness Clinic คว้ารางวัล CEO of the Year 2024 จาก Bangkok Post
SOLUX Clinic เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำความสวยที่มีระดับ (พรีเมียม)