ฟูจิฟิล์ม เอาใจคนรักภาพฟิล์มกับคีย์ลัด Film Simulation ครั้งแรก! ของกล้อง FUJIFILM X-T50

เท่ คลาสสิก และ “FUJIFILM GFX100S II” กล้องมีเดียมฟอร์แมตรุ่นใหม่  ถ่ายภาพต่อเนื่องไม่มีสะดุดพร้อมโฟกัสอัตโนมัติสุดล้ำ

พร้อมเผยเลนส์ซูม XF และเลนส์ไพรม์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ซีรีส์ GFX รุ่นใหม่ในดีไซน์กะทัดรัดพร้อมตอบโจทย์งานทุกรูปแบบ

 กรุงเทพฯ  — ฟูจิฟิล์ม สร้างปรากฏการณ์ให้วงการกล้องอีกครั้งในงาน FUJIFILM X Summit Sydney 2024 กับการเปิดตัว 4 โปรดักต์จากซีรีส์กล้องและเลนส์ยอดนิยมสำหรับสายกล้องมือสมัครเล่นและมืออาชีพทั่วโลก ทั้งการเปิดตัวกล้อง 2 รุ่นที่ทุกคนรอคอยอย่าง FUJIFILM X-T50 กล้องดีไซน์สุดเท่พร้อมยังเป็นรุ่นแรกของแบรนด์ที่มาพร้อมคีย์ลัด “Film Simulation” ตอบโจทย์คนชอบภาพโทนสีฟิล์มที่เป็นซิกเนเจอร์ของฟูจิฟิล์ม พร้อมหลากหลายฟังก์ชันที่ยกระดับการใช้งานให้ง่ายและคล่องตัวกว่าเคย ต่อกันด้วยกล้องมีเดียมฟอร์แมตรุ่นใหม่ที่เก่งครบจบทุกงานมือโปร “FUJIFILM GFX100S II” และยังเผยโฉมสุดยอดเลนส์อีก 2 รุ่น FUJINON XF16-50mmF2.8-4.8 R LM WR และ FUJINON GF500mmF5.6 R LM OIS WR ที่ชูประสิทธิภาพขั้นสูง แต่ดีไซน์ใช้ง่ายจับถนัดมือตามแบบฉบับของฟูจิฟิล์ม พร้อมมีน้ำหนักที่เบาและความแข็งแรงของตัวกล้องและเลนส์ ที่พร้อมออกเดินทางไปทุกทริปและถ่ายงานคุณภาพสูงที่ครอบคลุมทุกแนวและเก็บทุกโมเมนต์ได้คมชัด สวยงามและมีสไตล์โดดเด่น

FUJIFILM X-T50: พบกับกล้องสุดเท่แห่งยุค! ชวนสนุกกับฟังก์ชันสุดล้ำและการครีเอตโทนสีภาพที่ไม่ซ้ำใครด้วย Film Simulation ที่เปลี่ยนโทนสีได้สวยทันใจ

กล้องดิจิทัลมิเรอร์เลส X-T50 กล้องรุ่นใหม่ ถ่ายภาพสวยคมชัดและการออกแบบที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบา ตัวกล้องหนักเพียง 438 กรัม ใช้เซนเซอร์ X-Trans™ CMOS 5 HR ความละเอียด 40.2 ล้านพิกเซล และระบบประมวลผลภาพความเร็วสูง “X-Processor 5″ เสริมด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัว 5 แกน 7 สต็อป โดดเด่นด้วยโหมด “Film Simulation” ที่ช่วยเปลี่ยนโทนสีให้กับภาพได้ถึง 20 แบบ และหมุนเปลี่ยนสไตล์ได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย “Film Simulation Dial”  จึงเหมาะในการถ่ายภาพทุกสถานการณ์ แถมเมื่อใช้กับเลนส์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง FUJINON XF16-50mmF2.8-4.8 R LM WR ก็จะทำให้การถ่ายรูปสนุกและสะดวกมากยิ่งขึ้น

ไฮไลต์คุณสมบัติ

1) เซนเซอร์และระบบประมวลผลไวขั้นสุด ถ่ายภาพได้เร็วและชัดต่อเนื่องไม่มีสะดุด

• ตัวกล้องมาพร้อมเซนเซอร์ X-Trans™ CMOS 5 HR ที่ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และอัลกอริธึมประมวลผลภาพล่าสุดที่ให้ความละเอียดสูงและลดสัญญาณรบกวนในภาพ
• เพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพิกเซลให้รับแสงได้มากขึ้น นำ ISO 125 มาใช้เป็นค่าไวแสงมาตรฐาน ยกระดับชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ได้เร็วที่สุดที่ 1/180000 วินาที ทำให้คุมการเปิดรับแสงได้แม่นยำ ใช้งานร่วมกับเลนส์รูรับแสงกว้างได้หลายสถานการณ์มากขึ้น
• ฟังก์ชัน AF ตรวจจับวัตถุที่ขับเคลื่อนด้วย ระบบ AI deep learning สามารถตรวจจับสัตว์ นก รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน เครื่องบิน รถไฟ แมลง และโดรน นอกจากนี้ยังมีอัลกอริธึม AF คาดเดาวัตถุ ทำให้ถ่ายภาพวัตถุได้หลากหลาย รวมถึงรถยนต์และสัตว์ที่เคลื่อนที่รวดเร็ว
• โหมด “Film Simulation” ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของฟูจิฟิล์ม มีโทนสีให้เลือกมากถึง 20 แบบในกล้อง X-T50 รวมถึงแบบใหม่ “REALA ACE” ซึ่งให้สีที่สมจริงคมชัด จึงสนุกกับโทนสีที่หลากหลายราวกับการใช้ฟิล์มถ่ายภาพจริง ๆ
• ฟังก์ชันเทเลคอนเวอร์เตอร์ดิจิทัลใช้จำนวนพิกเซลสูงประมาณ 2 ล้านพิกเซล จึงสามารถขยายภาพได้ถึง 1.4x และ 2x

(2) ซัพพอร์ตทุกสไตล์การถ่ายภาพแม้จะมีแสงน้อยหรือวัตถุเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

• กล้องมาพร้อมกับฟังก์ชันป้องกันภาพสั่นไหวในตัวแบบ 5 แกน สูงสุด 7 สต็อป สามารถถือกล้องถ่ายได้สะดวกและได้ภาพที่คมชัดแม้มีแสงน้อย เช่น ตอนกลางคืน ทำให้ได้มุมมองใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร
• งานวิดีโอคุณภาพสูงโดยบันทึกวิดีโอ 2K/30P พร้อมกับใช้งานฟังก์ชัน AF ติดตามระหว่างการบันทึกวิดีโอได้
• การถ่ายภาพในโหมด AUTO จะตรวจสอบฉากในเฟรมและปรับการตั้งค่าให้เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติ เปิดใช้งานได้ง่ายโดยกดโยกสลับโหมดบนตัวกล้อง ซึ่งจะช่วยโฟกัสวัตถุโดยอัตโนมัติ ทำให้ถ่ายภาพนิ่งและบันทึกวิดีโอได้ง่ายดาย

(3) สวย กระทัดรัด ใช้ง่าย

• ดีไซน์สุดคลาสสิก พร้อมขนาดที่กะทัดรัดและถือถนัดมือมากขึ้น
• ใหม่!!! แป้นหมุน “Film Simulation dial” ช่วยให้ผู้ใช้สลับแบบฟิล์มในโหมด “Film Simulation” ได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้ถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอหลายโทนสีได้ง่ายๆ มีเฉพาะในกล้อง X-T50 เท่านั้น
• แฟลชป๊อปอัปอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับช่องมองภาพที่ด้านบนของตัวกล้อง ซึ่งควบคุมปริมาณแสงที่ออกมาโดยอัตโนมัติ จึงใช้งานได้ดีเมื่อถ่ายในที่มืดหรือการถ่ายย้อนแสง
• X-T50 มาพร้อมกับจอภาพ LCD ด้านหลังแบบปรับเอียงได้ที่ความละเอียด 84 ล้านพิกเซล และมีการปรับการวางปุ่มที่ด้านหลังเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน

FUJIFILM GFX100S II: ที่สุดของกล้อง Medium Format อัดแน่นฟังก์ชันสุดล้ำในขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาอย่างเหลือเชื่อ

FUJIFILM GFX100S II มีเซนเซอร์ความละเอียดถึง 102 ล้านพิกเซล แต่มีน้ำหนักที่เบามาก เหมาะสำหรับช่างภาพที่ต้องการกล้องเซนเซอร์ขนาดใหญ่ที่ครบจบได้ในตัวเดียว กล้องมาพร้อมกับเซนเซอร์ความเร็วสูง “GFX 102MP CMOS II” และ “X-Processor 5” ซึ่งอยู่ในตัวกล้องขนาดกะทัดรัดที่เบาที่สุดในซีรีส์ GFX น้ำหนักเพียง 883 กรัม ยกระดับด้วยการตรวจจับวัตถุที่ขับเคลื่อน AI เพื่อการโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและแม่นยำ และสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 7.0 fps พร้อมด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้อง 5 แกน 8 สต็อป GFX100S II สามารถบันทึกวิดีโอ 4K/30P คุณภาพสูง เหมาะสำหรับทั้งช่างภาพมืออาชีพและมือสมัครเล่นที่สนใจโลกของการถ่ายภาพฟอร์แมตขนาดใหญ่ โดยให้คุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมและใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์

 ไฮไลต์คุณสมบัติ

 (1) เซนเซอร์ 102 ล้านพิกเซล มอบรูปถ่ายระดับไร้ที่ติ

• GFX100S II มาพร้อมกับเซนเซอร์ขนาดใหญ่ “GFX 102MP CMOS II” และระบบประมวลผลภาพความเร็วสูง
  “X-Processor 5” รุ่นล่าสุด นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีการสร้างสีขั้นสูงเพื่อถ่ายทอดทุกแง่มุมของทิวทัศน์ได้สวยงามเหมือนตาเห็น
• เซนเซอร์รุ่นใหม่รองรับ ISO 80 เป็นค่าความไวแสงมาตรฐาน ทำให้มีช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้นและมีสัญญาณรบกวนในภาพถ่ายน้อยลง
• เซนเซอร์โฉมใหม่ที่ปรับปรุงไมโครเลนส์ให้มีประสิทธิภาพการรับแสงที่ขอบเซนเซอร์ได้มากขึ้น และยังยกระดับคุณภาพของรูปถ่ายและการโฟกัสบริเวณขอบภาพได้แม่นยำยิ่งขึ้นอีกด้วย
• กล้อง GFX100S II มาพร้อมกับโหมด “Film Simulation” ถึง 20 แบบ รวมถึงแบบใหม่ “REALA ACE” ที่มอบสีที่แม่นยำและให้ช่วงสีที่กว้าง ทำให้เลือกใช้โทนสีต่าง ๆ ได้หลากหลายสถานการณ์ราวกับใช้ฟิล์มถ่ายภาพจริง ๆ
• ฟังก์ชัน “Pixel Shift Multi-Shot” ใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวเพื่อเลื่อนเซนเซอร์ 5 พิกเซลสำหรับการถ่ายภาพ RAW 16 ภาพ และนำมารวมกันในซอฟต์แวร์ “Pixel Shift Combiner” เพื่อสร้างภาพ 400 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ ในโหมด “Real Color” ยังสามารถถ่ายภาพ RAW 4 รูป ด้วยวิธีการเลื่อน 1 พิกเซลของแต่ละรูป ทำให้ได้ภาพ 102 ล้านพิกเซลพร้อมความแม่นยำของสีที่ดีขึ้นและใช้เวลาและข้อมูลน้อยลง

(2) ระบบ IBIS สุดล้ำ ช่วยถ่ายทอดภาพที่ห่างออกไปได้สวยงามเหมือนอยู่ตรงหน้า

• ใช้ระบบ IBIS พร้อมไจโร (เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว) และเซนเซอร์ตรวจจับความเร็ว ทำให้ได้ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกนสูงสุด 8 สต็อป
• ขนาดกะทัดรัด สูงประมาณ 104 มม. และหนา 87 มม. ด้วยน้ำหนักประมาณ 883 กรัม ทำให้เป็นกล้องที่เบาที่สุดใน
  ซีรีส์ GFX ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ 102 ล้านพิกเซล
• กล้อง GFX100S II ใช้พื้นผิว “BISHAMON-TEX” ที่ช่วยให้จับถนัดมือยิ่งขึ้นและถือกล้องถ่ายได้แบบไร้กังวล

(3) ไม่พลาดทุกโมเมนต์ด้วยการถ่ายภาพที่รวดเร็ว ฟังก์ชัน AF แม่นยำสูง และโหมดถ่ายภาพต่อเนื่องไร้สะดุด

• GFX100S II มี Face/Eye AF พร้อมด้วย AF การตรวจจับวัตถุที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งสามารถจดจำสัตว์ นก รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน เครื่องบิน รถไฟ แมลง และโดรน นอกจากนี้อัลกอริธึม AF คาดเดาวัตถุยังช่วยให้ติดตามและโฟกัสวัตถุที่เลือกได้อย่างแม่นยำแม้จะเคลื่อนไหวความเร็วสูง
• เซนเซอร์ความเร็วสูงโฉมใหม่ “GFX 102MP CMOS II” พร้อมความเร็วในการอ่านที่เพิ่มขึ้นและกลไกขับเคลื่อนชัตเตอร์ใหม่ ทำให้ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ที่ 7 fps แบบไม่มีสะดุด
• ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ความละเอียดสูงที่มีกำลังขยาย 84 เท่า และความละเอียด 5.76 ล้านพิกเซล ออกแบบมาเพื่อลดการบิดเบือนของภาพเพื่อให้ได้ภาพที่สมจริงเหมือนมองด้วยตาเปล่า

(4) ครีเอตงานวิดีโอคุณภาพเยี่ยมด้วยความละเอียดวิดีโอสูงสุด 4K/30P

• รองรับ ISO 100 เป็นค่าความไวแสงมาตรฐานในโหมดวิดีโอเพื่อคุณภาพวิดีโอระดับสูง
• มีฟีเจอร์ AF ติดตามวัตถุระหว่างบันทึกวิดีโอ ช่วยจับภาพวัตถุได้ง่ายเพียงแตะเป้าหมายที่ต้องการโฟกัสบนจอแสดงผล
• บันทึกวิดีโอ 4K/30P 4:2:2 10 บิต ได้โดยตรงบนการ์ด SD แถมยังรองรับการบันทึกภายนอกใน Apple ProRes ผ่าน USB Type-C
• มาพร้อมกับ “F-Log2” ที่ให้ไดนามิกที่กว้างกว่า 13 สต็อป เพื่อการถ่ายทำที่ลื่นไหล พร้อมเพิ่มความสะดวกด้วยการบันทึกและส่งออกเป็นไฟล์รูปแบบอื่นบนอุปกรณ์ต่าง ๆ หรือ HDMI

รองรับ Frame.io Camera to Cloud ที่สามารถอัปโหลดไฟล์วิดีโอและภาพโดยตรงไปยัง Frame.io

FUJINON XF16-50mmF2.8-4.8 R LM WR: เลนส์ซูมอเนกประสงค์ด้วยระยะการซูมที่ยืดหยุ่น (16 – 50 มม.) ชูน้ำหนักเบาและดีไซน์ที่พร้อมลุยไปทุกที่

เลนส์ FUJINON XF16-50mmF2.8-4.8 R LM WR เป็นเลนส์ซูมมาตรฐานอเนกประสงค์ที่ออกแบบมาสำหรับกล้องมิเรอร์เลส
X Series มีช่วงโฟกัสตั้งแต่มุมกว้าง 16 มม. ไปจนถึงเทเลโฟโต้ระยะกลาง 50 มม. จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่ภาพทิวทัศน์และภาพบุคคลไปจนถึงภาพระยะใกล้ที่คล้ายกับภาพมาโคร ใช้งานร่วมกับเซนเซอร์ X-Trans™ CMOS 5 HR ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลนส์มีน้ำหนักเบาเพียง 240 กรัม ซึ่งเบาที่สุดในบรรดาเลนส์ซูม XF นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ AF ความเร็วสูงและแม่นยำ พร้อมกับโครงสร้างที่ทนทานต่อสภาพอากาศและอุณหภูมิต่ำได้ถึง -10°C สามารถนำไปถ่ายภาพทุกที่ในทุกสภาพอากาศ

ไฮไลต์คุณสมบัติ

(1) เปิดที่สุดแห่งประสบการณ์การถ่ายภาพเหนือระดับ

• ใช้โครงสร้างเลนส์ 11 ชิ้น ใน 9 กลุ่ม รวมถึงเลนส์แอสเฟอริคัล 3 ชิ้นและเลนส์ ED 3 ชิ้น จึงช่วยลดความคลาดเคลื่อนของสีและรักษาประสิทธิภาพความละเอียดสูงได้ตลอดช่วงซูม
• ครอบคลุมระยะโฟกัสหลายช่วง ตั้งแต่ 16 มม. (เทียบเท่า 24 มม. ในฟอร์แมต 35 มม.) ไปจนถึงระยะเทเลโฟโต้กลางที่ 50 มม. (เทียบเท่า 76 มม. ที่ฟอร์แมต 35 มม.)
• ให้กำลังขยายสูงสุดในการถ่ายภาพ 3 เท่า ที่ระยะเทเลโฟโต้ (เทียบเท่ากับกำลังขยายสูงสุด 0.45 เท่า ในฟอร์แมต 35 มม.) ช่วยให้ถ่ายภาพที่ระยะ 24 ซม. ในระยะโฟกัสต่ำสุดตลอดช่วงซูม และ 15 ซม. จากด้านหน้าของเลนส์ถึงวัตถุ

(2) ดีไซน์กะทัดรัดถือถ่ายได้ต่อเนื่อง

• ปรับตำแหน่งของเลนส์จนได้น้ำหนักประมาณ 240 กรัม นับว่าเป็นเลนส์ซูมที่เบาที่สุดในซีรีส์ XF ที่ยังให้ความละเอียดสูง แถมยังมีน้ำหนักเบา พกพาสะดวกและใช้งานง่าย
• ออกแบบให้มีความยาวคงที่โดยที่ตัวเลนส์ไม่ยืดออกระหว่างการซูม ช่วยให้ซูมง่ายยิ่งขึ้น

(3) Auto Focus ที่รวดเร็วและแม่นยำ

• กล้องมีระบบ AF ความเร็วสูงและแม่นยำโดยใช้วิธีการโฟกัสภายในด้วย Linear motor ทำให้โฟกัสได้รวดเร็วเพียง 015 วินาที จับทุกโมเมนต์ได้ดั่งใจ

(4) พร้อมลุยทุกที่ด้วยดีไซน์ที่ทนทุกสภาพอากาศ

• เลนส์มีโครงสร้างทนต่อสภาพอากาศพร้อมซีล 13 จุด จึงเหมาะในการพกไปทุกที่ เพราะไม่ว่าจะเจอฝนตกปรอย ๆ ฝุ่น หิมะ ริมทะเล หรือในอุณหภูมิต่ำถึง -10°C ก็สามารถใช้งานได้ราบรื่น

 FUJINON GF500mmF5.6 R LM OIS WR: เลนส์คุณภาพสูงที่ก้าวข้ามขีดจำกัดระยะโฟกัส สร้างมาตรฐานใหม่ให้เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้

เลนส์ FUJINON GF500mmF5.6 R LM OIS WR เป็นเลนส์ไพรม์ซูเปอร์เทเลโฟโต้สำหรับซีรีส์ GFX โดดเด่นด้วยระยะโฟกัส 500 มม. และขยายได้ถึง 700 มม. ด้วยเทเลคอนเวอร์เตอร์ ตัวเลนส์มีน้ำหนักเพียง 1,375 กรัม มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุด 6.0 สต็อป พร้อมกับระบบ AF ความเร็วสูง ให้ความละเอียดของภาพที่ยอดเยี่ยมแม้ในระยะไกล เหมาะในการถ่ายภาพกีฬา สัตว์ป่า และนก

ไฮไลต์คุณสมบัติ

(1) เลนส์เทเลโฟโต้ที่ยาวที่สุดในไลน์อัป “GF lens”

• ความยาวโฟกัส 500 มม. (เทียบเท่า 396 มม. ที่ฟอร์แมต 35 มม.) นับเป็นเลนส์ที่ทางยาวโฟกัสสูงที่สุดในกลุ่ม GF lenses ที่เหมาะกับการถ่ายรูปกีฬา สัตว์ป่า และนก
• เมื่อใช้งานกับ Fujinon Teleconverter GF1.4X TC WR จะเพิ่มความยาวโฟกัสได้มากถึง 700 มม. (เทียบเท่า 554 มม. ที่ฟอร์แมต 35 มม.)
• ตัวเลนส์ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 21 ชิ้นใน 14 กลุ่ม พร้อมเลนส์ Super ED 2 ชิ้นและเลนส์ ED 5 ชิ้น ออกแบบมาเพื่อลดความคลาดเคลื่อนของสีและให้ความละเอียดสูงยิ่งกว่าการมองด้วยตาเปล่า

(2) ดีไซน์ที่เด่นทั้งความกะทัดรัดและความทนทาน ถือถ่ายนาน ๆ ได้โดยไม่เมื่อยมือ

• เลนส์มีน้ำหนักประมาณ 1,375 กรัม ด้วยการออกแบบโฉมใหม่ที่น้ำหนักเบา กะทัดรัด มอบความละเอียดสูงพร้อมความคลาดเคลื่อนของสีที่น้อยลง
• จัดตำแหน่งเลนส์ใหม่เพื่อให้จับถนัดมือและกระจายน้ำหนักในตอนถ่ายรูปได้สมดุล ช่วยเพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้
• โครงสร้างทนต่อสภาพอากาศและอุณหภูมิต่ำถึง -10°C พร้อมซีล 18 จุดบนกระบอกเลนส์ ชิ้นส่วนด้านหน้าเคลือบฟลูออรีนกันน้ำและรอยสกปรก พร้อมพกไปได้ทุกที่แม้ในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย

(3) ระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่สูงถึง 6 สต็อป

• ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 0 สต็อป พร้อมการพัฒนาการตรวจจับความสั่นไหวที่แม่นยำช่วยให้ถ่ายภาพโดยถือกล้องในมือได้อย่างสะดวกสบายในการถ่ายภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้

(4) ระบบโฟกัสที่รวดเร็วและแม่นยำ ใช้งานง่ายไม่เปลืองแรง

• เลนส์ใช้ระบบโฟกัสภายในด้วยเลนส์โฟกัสที่เล็กกว่าและเบาขึ้นด้วย Linear motor ทำให้ได้โฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็ว เงียบและตอบสนองการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับการถ่ายภาพด้วยเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ที่เน้นความแม่นยำ
• มีฟังก์ชันโฟกัสล่วงหน้าเพื่อเปลี่ยนโฟกัสไปยังตำแหน่งที่กำหนดไว้ล่วงหน้าอย่างรวดเร็ว
• สามารถตั้งค่าช่วง AF ที่ต้องการด้วยฟังก์ชัน Focus Preset โดยปรับความเร็วโฟกัสอัตโนมัติให้เหมาะสมสำหรับวัตถุที่อยู่ห่างออกไปห้าเมตรขึ้นไป
• มีปุ่มควบคุมโฟกัสบนกระบอกเลนส์ จึงกดใช้ฟังก์ชัน AF ที่กำหนดได้ทันที ช่วยยกระดับการใช้งานเลนส์ให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

ราคาและการวางจำหน่าย

ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย จะประกาศรายละเอียดสำหรับวันที่และเวลาในการวางจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 รุ่นให้ทราบในเร็วๆ นี้ทางหน้าเพจ Facebook: Fujifilm X Thailand