สมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา ออกโรงคัดค้านการนําพืชกัญชงและกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด พร้อมเสนอ แนวคิดภาครัฐ จัดการปัญหาพืชกัญชงและกัญชา ด้วยการออกกฎหมายรองรับพร้อมบทลงโทษให้ชัดเจน ชี้ให้เห็นมูลค่าที่จะเกิดจากการผลักดันให้เป็นพืชเศรษฐกิจ จะเกิดประโยชน์กับประเทศมากกว่าการนํากลับไปเป็นยาเสพติด
นายทศพร นิลกําแหง นายกสมาคม สมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา เปิดเผยถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิด สภาวะสูญญากาศของการควบคุมและบังคับใช้กฎหมายสําหรับการนําพืชกัญ ชงและกัญชาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ภาครัฐ จึงมีแนวคิดที่จะกําหนดนโยบายการนําพืชกัญชงและกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมที่มี การลงทุนไปแล้วมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ทางสมาคมฯ จึงอยากให้ภาครัฐมีการทบทวนนโยบาย และหาทางออกร่วมกัน เพื่อให้พืชกัญชงและกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง โดยออกกฎหมายควบคุมและบังคับใช้ให้มั่นใจว่าจะมีการ นําไปใช้ได้อย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์ด้าน
การแพทย์ สุขภาพ และเศรษฐกิจ โดยจะส่งผลกระทบดังนี้
- การนําพืชกัญชงและกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จะทําให้ผู้ลงทุนในภาคอุตสาหกรรมขาดความเชื่อมั่นต่อ นโยบายเชิญชวนการลงทุนต่างๆของภาครัฐในอนาคต
- หลังจากที่ภาครัฐได้ประกาศนโยบายส่งเสริมให้พืชกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจเมื่อปี 2563 ได้เกิดการลงทุนด้วย ความเชื่อมั่นว่า พืชกัญชงจะสามารถนําไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ อีกทั้งยังสามารถสร้าง มูลค่าทางเศรษฐกิจได้ หากมีการเปลี่ยนนโยบายจะส่งผลเสียต่อผู้ที่ยื่นขออนุญาตกว่า 1 ล้านราย และส่งผล ให้เกิดการชะงักต่อเม็ดเงินที่จะหมุนเวียนในอุตสาหกรรมนี้
- สารสกัด CBD จากพืชกัญชงมีประโยชน์และยังมีมูลค่าสูงทางเศรษฐกิจ เมื่อนําไปใช้ทางการแพทย์และ สุขภาพ หากผู้ประกอบการไม่สามารถทําผลิตภัณฑ์เพื่อออกจําหน่ายสู่ตลาดได้ อันเนื่องมาจากนโยบาย ภาครัฐ จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ประกอบการที่ได้ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ไว้แล้วกว่า 700 รายการ
นายยิ่งยศ จารุบุษปายน อุปนายก สมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา กล่าวว่า ทางสมาคมฯ เสนอ 3 แนวคิดในการบริหารจัดการกรณีดงั กล่าว ดังนี้
- สนับสนุนให้มีการออก พรบ. หรือกฎหมายเพื่อบังคับใช้ และมีบทลงโทษที่เข้มงวดชัดเจนสําหรับผู้ที่นําพืชกัญชง และกัญชา รวมถึงสารสกัดที่มีสาร THC สูงกว่า 0.2 เปอร์เซ็นต์ ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ซึ่งมีส่วนทําให้ภาพลักษณ ของพืชกัญชงและกัญชาถูกมองในเชิงลบ
- ภาครัฐควรต้องให้ความรู้ที่ชัดเจนต่อประชาชนถึงความแตกต่างของพืชกัญชงและกัญชา รวมถึงให้ความรู้ เกี่ยวกับสารสกัด CBD ที่มี THC ตํ่ากว่า 2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่ใช้สารเสพติด และเป็นสารที่มีความปลอดภัยสูง
- ภาครัฐควรให้การสนับสนุนต่อการนําสารสกัด CBD จากพืชกัญชงไปใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ด้านการแพทย์และสุขภาพ
- กําหนดให้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารสกัด CBD สามารถโฆษณาและจําหน่ายได้เหมือนผลิตภัณฑ์เพื่อ สุขภาพทั่วไป
สมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นกับทางกรมการปกครองเมื่อ 31 สิงหาคม 2565 ปัจจุบัน มีสมาชิก 26 บริษัท เป็นผู้ประกอบการธุรกิจกัญชงและกัญชา ทั้งต้นนํ้า กลางนํ้า และปลายนํ้า ที่นําสารสกัด CBD จาก พืชกัญชง ที่มีสาร THC ตํ่ากว่า 0.2 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงชิ้นส่วนต่างๆ ของพืชกัญชงไปใช้เพื่อทางการแพทย์ สุขภาพ และ เศรษฐกิจ
More Stories
PTG ส่งสัญญาณโค้งสุดท้ายธุรกิจ Oil – Non Oil สดใส รับแรงหนุนจากระบบสมาชิก Max Card -ภาคเกษตร-ท่องเที่ยว-เศรษฐกิจฟื้น
จี้รัฐเร่งแก้รถเมล์เถื่อน! ไร้ใบอนุญาต ลักลอบวิ่งให้บริการทับเอกชน
ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ผนึก ธนาคารไทยพาณิชย์ เสริมแกร่งเอกสิทธิ์บริการทางการเงินเหนือระดับ