กรุงเทพฯ, – เมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Power Purchase Agreement) กับ เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ บริษัทผู้พัฒนาและให้บริการธุรกิจโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำของประเทศไทย เพื่อติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ ให้แก่อาคารสำนักงาน และสาขา ธนาคารยูโอบีทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถนำพลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์มาใช้ และช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึงปีละ 200,000 ตัน หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 8,000 ต้น
ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของธนาคารยูโอบี ประเทศไทยปี 2566-2573 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดการประหยัดพลังงานภายในอาคารสำนักงานและสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ ภายใต้ข้อตกลงนี้เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จะดำเนินการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ที่อาคารยูโอบี สาทร อาคารยูโอบี เพชรเกษม และสาขาอีก 24 แห่งที่มีความพร้อมในการติดตั้ง ซึ่งการผลิตไฟฟ้าจากระบบพลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากจะช่วยให้ธนาคารลดค่าไฟฟ้าแล้วและยังช่วยรักษาและดูแลสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
นางสาวปิยพร รัตน์ประสาทพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือข่ายสาขาและบริการดิจิทัล กล่าวว่า “ธนาคารตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจที่มีผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้กำหนดเป้าหมายในการบรรเทาผลกระทบนี้ด้วยการยกระดับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในอสังหาริมทรัพย์ของธนาคาร ปัจจุบันสาขาของธนาคาร มีสัดส่วนในการใช้พลังงานประมาณร้อยละ 40 ของการใช้พลังงานทั้งหมดของธนาคารยูโอบี ในประเทศไทย[1] ซึ่งโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ริเริ่มร่วมกับ เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่คาดหวังที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรภายใต้ Scope 2[2] อย่างมีนัยสำคัญ แต่อาจบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเกือบร้อยละ 90 ในสาขาที่ร่วมโครงการอีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการรักษาความเป็นกลางทางคาร์บอนในการดำเนินธุรกิจของยูโอบี เป็นอย่างดี”
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW กล่าวว่า “ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือธนาคารยูโอบี เพื่อยกระดับการพัฒนาองค์กรไปสู่ความยั่งยืนและลดผลกระทบของการดำเนินธุรกิจต่อสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสององค์กรในการนำพลังงานสะอาด และพลังงานหมุนเวียนเข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเชาว์ ในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน บริษัทพร้อมทำหน้าที่พัฒนาโครงการระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ให้เหมาะสมกับความต้องการของอาคารสำนักงาน และสาขาของธนาคาร ยูโอบี เพื่อให้เกิดการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ธนาคารสามารถบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ”
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จะดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ อาคารยูโอบี เพชรเกษม และ สาขาธนาคารที่ได้รับการคัดเลือกใน 13 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น เชียงราย นครปฐม นครราชสีมา นนทบุรี ภูเก็ต ระยอง สุรินทร์ และอุบลราชธานี ภายในปีนี้ และจะดำเนินการติดตั้งเพิ่มเติมใน 11 สาขาอื่นๆ ที่เหลือรวมไปถึงที่อาคารยูโอบี สาทร ให้แล้วเสร็จภายในปี 2568
[1] ที่มา รายงานความยั่งยืน ประจำปี 2566 ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย
[2] Scope 2 emission คือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงาน (Indirect Emissions)
More Stories
รฟฟ.บีแอลซีพี ร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 1.6 ล้านตัว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 22 สานต่อ ESG หนุน SDGs
OR ตอกย้ำแนวคิดสังคมสะอาด มอบรางวัลโครงการ “แยก แลก ยิ้ม School Camp ประจำปี 2567”
เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ ร่วมบรรยายในงานประชุม The 58th