เฮอร์บาไลฟ์ ประกาศแต่งตั้ง อธิปพงษ์ ผดุงเกียรติวงศ์ นั่ง กรรมการผู้อำนวยการ ประจำประเทศไทย

ตอกย้ำผู้นำตลาดสุขภาพ มุ่งสร้างโภชนาการที่ดี พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จ 

กรุงเทพฯ  – เฮอร์บาไลฟ์ บริษัทชั้นนำด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ประกาศแต่งตั้ง อธิปพงษ์ ผดุงเกียรติวงศ์ ขึ้นรับตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการ เฮอร์บาไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเฮอร์บาไลฟ์ในการลงทุนและพัฒนาธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

ในตำแหน่งใหม่นี้ นายอธิปพงษ์ จะทำหน้าที่ดูแลบริหารด้านการจัดการในทุกมิติ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจเฮอร์บาไลฟ์ พร้อมสนับสนุนและสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนให้กับผู้จำหน่ายอิสระและลูกค้าของเฮอร์บาไลฟ์ในประเทศไทย โดยนายอธิปพงษ์ จะประจำอยู่ที่กรุงเทพฯ และรายงานตรงต่อ คุณโชบี แอน คิง รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตลาดเกิดใหม่

นางโชบี แอน คิง กล่าวว่า “เฮอร์บาไลฟ์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้แต่งตั้งนายอธิปพงษ์ ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญนี้ ด้วยศักยภาพความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อันล้ำค่าในด้านการบริหารธุรกิจกับบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เรามั่นใจว่าการเข้ามาดำรงตำแหน่งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเฮอร์บาไลฟ์ในประเทศไทยและนำธุรกิจของเราก้าวไปอีกขั้น”

นายอธิปพงษ์ กล่าวเสริมว่า “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้ารับตำแหน่งนี้ เนื่องจากเป็นโอกาสอันดีในการช่วยเหลือผู้คนให้บรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ได้รับการรับรองจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ผมพร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้จำหน่าย ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ร่วมมือกันปรับปรุงโภชนาการในชุมชนของเราให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ขององค์กร เพื่อมอบโอกาสในการเข้าถึงโภชนาการที่เหมาะสมและมอบความรู้ด้านโภชนาการที่ดีขึ้นให้กับเด็กและชุมชนด้อยโอกาส”

ผู้บริหารรุ่นใหม่ คุณอธิปพงษ์ ผดุงเกียรติวงศ์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมนำประสบการณ์กว่า 14 ปี จากเฮอร์บาไลฟ์ ทั้งในประเทศไทย และประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะด้านการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้จำหน่าย ผู้บริโภค และผลิตภัณฑ์  ซึ่งช่วยให้บรรลุจุดมุ่งหมายในการทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้จำหน่าย และผู้บริโภคในแต่ละเจเนอเรชั่นได้มากขึ้น ถือได้ว่าเป็นรากฐานสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ รวมไปถึงยังมีประสบการณ์ในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลผลิตภัณฑ์ทั้งในตลาดไทยและตลาดอื่นๆทั่วโลกอีกด้วย