มอบรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยมปี 2567 Design Excellence Award 2024 (DEma กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ จัดพิธีมอบรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยมปี 2567 (Design Excellence Award 2024) หรือ รางวัล DEmark )เพื่อเชิดชูและยกย่องเป็นเกียรติแก่ผู้ประกอบการและนักออกแบบไทยที่มีผลงานโดดเด่นในด้านการออกแบบในสาขาต่างๆ ในปีนี้มีผลงานออกแบบได้รับรางวัลรวม 66 รายการ สะท้อนถึงความสำเร็จในการยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ผ่านเครื่องหมายรับรอง DEmark ใบเบิกทางสำคัญสำหรับการค้าระหว่างประเทศ
โดยผลการดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2551 – 2567 รวมระยะเวลา 17 ปี โครงการ DEmark ได้มอบรางวัล แก่สินค้าทั้งหมด 1,225 รายการ โดยในปี 2567 นี้มีผลงานที่สมัครเข้ามาทั้งหมด 500 รายการ ผ่านเข้ารอบการพิจารณาตัดสินผลงาน ณ กระทรวงพาณิชย์ 423 รายการ และได้รับรางวัล DEmark Award จำนวน 66 รายการ จากผู้ประกอบการ 54 บริษัท
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทางกระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ดำเนินการส่งเสริมการจัดรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม DEmark มาตลอดระยะเวลา 17 ปี ที่ผ่านมานับว่าประสบความสำเร็จในการผลักดันธุรกิจและอุตสาหกรรมการออกแบบให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายและได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ได้รับความสนใจจากนักออกแบบและผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการมีจำนวนมากขึ้นในแต่ละปี
“การมอบรางวัล DEmark ไม่เพียงแต่เป็นการยกย่องความสามารถด้านการออกแบบของคนไทย แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบรุ่นใหม่ๆ ในการพัฒนาผลงานที่มีคุณภาพและเสริมสร้างชื่อเสียงของสินค้าและบริการไทยในตลาดโลก ที่สำคัญคือผลงานของนักออกแบบไทยได้ส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มและความเชื่อมั่นต่อสินค้าและผลิตภัณฑ์ของไทย มีพัฒนาการในการสร้างสรรค์สินค้าจนเป็นที่ยอมรับในตลาดสากล”
นายภูสิตกล่าว
ในปีนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยนำนโยบาย Soft Power มาผสาน เพื่อช่วยต่อยอดพลังแห่งผลงานสร้างสรรค์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม Soft Power และสร้างแบรนด์ประเทศให้ปรากฏเด่นชัดในระดับนานาชาติ ผลักดันการค้าระหว่างประเทศเชิงรุก และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของผู้ประกอบการไทยในเวทีโลกผ่านการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการไทยด้วยการออกแบบ
ม.ล.ภาสกร อาภากร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กล่าวเสริมว่า “รางวัล DEmark ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด The Power of Sustainable Design จุดพลัง สร้างสรรค์งานดีไซน์อย่างยั่งยืน” ผสาน Soft Power ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยสู่เวทีโลก และรางวัล DEmark จะช่วยต่อยอดพลังแห่งผลงานสร้างสรรค์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล อีกทั้งมีการปรับหลักเกณฑ์การพิจารณาตัดสินรางวัลขอบเขตผลงานให้มีความชัดเจน และให้น้ำหนัก แนวความคิดในการนำเอาต้นทุนทางวัฒนธรรมมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ และปรับประเภทสาขารวมทั้งหมด 8 สาขาเพื่อให้ครอบคลุมผลงานการออกแบบที่มีความหลากหลายมากขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs / Micro Enterprise นักออกแบบรุ่นใหม่ สามารถมีส่วนร่วมในการสมัครเข้าร่วมโครงการมากขึ้น ส่งเสริมให้เกิดศักยภาพทางการแข่งขันเชิงรุกธุรกิจการส่งออกในวงกว้าง รวมถึงยังปรับแนวทางการพิจารณาตัดสินผลงานในระบบปิด ณ กระทรวงพาณิชย์ เมื่อการพิจารณาเสร็จสิ้นลงแล้วจึงนำไปจัดแสดง DEMARK SHOW2024 ในรูปแบบ EXHIBITION ณ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 และ โซน LIVING HALL ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
รางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม หรือ รางวัล DEmark ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2551 โดยในปีนี้เข้าสู่ปีที่ 17 และได้รับความร่วมมือจากสถาบันส่งเสริมการออกแบบแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ Japan Institute of Design Promotion (JDP) ในการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจากรางวัล G-mark ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นรางวัลด้านการออกแบบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล มาร่วมพิจารณาตัดสิน และสนับสนุนผลงานที่ได้รับรางวัล DEmark เข้าร่วมการประกวดรางวัล G-mark ประเทศญี่ปุ่น มาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากผู้สนับสนุน อาทิ กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ ที่ให้การสนับสนุน พื้นที่ในการจัดแสดง ที่ส่งเข้าประกวดเพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาและให้ผู้ชมสนใจทั่วไปเข้าชม รวมทั้งส่งเสริมโอกาสทางการค้าให้สินค้ารางวัล Demark เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยมีเป้าหมายสำคัญในการยกระดับสินค้าไทยไปสู่ระดับสากล สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าออกแบบไทย พร้อมกระตุ้นนักออกแบบและผู้ประกอบการไทยให้พัฒนาด้านการออกแบบสินค้าและบริการปัจจุบันรางวัล DEmark ให้ความสำคัญกับคุณภาพการผลิต การใช้งาน และแนวความคิดของการออกแบบผลิตภัณฑ์มากขึ้น นอกจากจะเป็นเวทีประชันฝีมือของบรรดานักออกแบบไทยฝีมือดีแล้ว ยังถือเป็นประตูสู่การแข่งขันในระดับสากลอีกด้วย โดยสินค้าที่ได้รับรางวัลจะได้รับตราสัญลักษณ์ Demark ที่ได้การยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศว่าเป็นตราที่แสดงถึงสินค้าที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้า โดยสินค้าที่ได้รับรางวัลจะได้รับการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อและงานต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักทั่วกันเป้าหมายสำคัญของรางวัล Demark คือการยกระดับสินค้าไทยไปสู่ระดับสากล สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าออกแบบไทย พร้อมกระตุ้นนักออกแบบและผู้ประกอบการไทยให้พัฒนาด้านการออกแบบสินค้าและบริการ
ผลงาน ที่ได้รับรางวัล Design Excellence Award 2024 ในสาขาต่างๆ จำนวน 66 รายการ ใน 8 สาขารางวัล มีดังนี้
(1) กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ (Furniture: Industrial Process / Industrial Craft) จำนวน 9 ผลงาน
(2) กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Industrial Process / Hand Craft: Gift & Decorative Items / Household Items) จำนวน 13 ผลงาน
(3) กลุ่มสินค้าเครื่องแต่งกาย / เครื่องประดับ และนวัตกรรมสิ่งทอ (Accessories & Wearable: Apparel / Jewelry / Textile / Lifestyle Fashion Ex. hat, bag, footwear) จำนวน 8 ผลงาน
(4) กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี (Industrial & IoT: Home Appliances / Equipment and Facilities / Digital Appliances / Transportation / Smart Device / IoT / etc.) จำนวน 11 ผลงาน
(5) กลุ่มผลงานออกแบบบรรจุภัณฑ์ (Packaging Design Product Base / Packaging Design Branding Base) จำนวน 5 ผลงาน
(6) กลุ่มผลงานการออกแบบกราฟิกและการสื่อสาร (Graphic & Communication Design: Typography / Graphic on Surface / Digital Media / Identity Design / Illustration / Character Design / Digital Art / Exhibition Design) จำนวน 13 ผลงาน
(7) กลุ่มผลงานออกแบบตกแต่งภายในที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้าพื้นที่ทํางานร่วมกัน อาคารชุด (Interior Design: Hotel / Restaurant / Cafe / Retail Shop / Co-Working Space / Condominium and Residential Project) จำนวน 4 ผลงาน
(8) กลุ่มผลงานออกแบบระบบบริการและแพลตฟอร์มดิจิทัล (System Service & Digital Platform: Online Interface Design, Apps for Smartphones and Tablets, Website) จำนวน 3 ผลงาน
รางวัล Design Excellence Award หรือ DEmark จะร่วมส่งสินค้าที่มีการออกแบบดีที่โดดเด่น ส่งต่อไปสู่รางวัล Good Design Award หรือ G-mark รางวัลการออกแบบแห่งประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในระดับสากล จัดโดย Japan Institute of Design Promotion (JDP) พันธมิตรที่ให้ความร่วมมืออย่างดีมาโดยตลอด โดยมีบริษัทที่ได้รับรางวัล Good Design Award (G-mark) จากประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว 531 รายการ ทั้งนี้ ผู้ได้รับรางวัล DEmark Award จะได้ส่งสินค้าเพื่อเข้าร่วมการประกวด Good Design (G-mark) ณ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยการตัดสินการประกวด G-mark จะมีขึ้นในวันที่ 7-9 สิงหาคม 2567 นี้
สำหรับผู้ได้รับรางวัล DEmark จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น สามารถใช้โลโก้ DEmark เป็นเครื่องมือทางการตลาดในการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ หรือบริการ สร้างการยอมรับแก่ผู้บริโภคในด้านคุณภาพและมาตรฐานการออกแบบสินค้าในระดับสากลได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้รับการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขาย สินค้าทั้งในและต่างประเทศ ผ่านการโฆษณาในสื่อชั้นนำระดับโลกต่างๆ รวมทั้งนำสินค้าไปจัดแสดงนิทรรศการ ทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังได้รับการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมภาพลักษณ์และโอกาสทางการค้าในเวทีสำคัญด้านการออกแบบระดับโลก เช่น งาน Milan Design Week อิตาลี เป็นต้น ซึ่งความสำเร็จ ของโครงการรางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม (DEmark) แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ไทยในระดับสากล และเป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดีว่า (DEmark) ได้กลายเป็นเครื่องหมายที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสามารถรับรู้ได้ตรงกัน ยืนยันถึงคุณภาพและการออกแบบอันยอดเยี่ยมของสินค้าไทยสู่สากล
ทั้งนี้ เชิญชวนผู้สนใจร่วมชมนิทรรศการ DEmark Show ที่จะจัดแสดงผลงานที่ได้รับรางวัล ณ ชั้น 3
Living Hall และชั้น 4 SCB Next Tech ตลอด 13 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-13 สิงหาคม 2567 นี้ ณ สยามพารากอน
โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารรางวัล DEmark ผ่านทาง Facebook page: DEmark Thailand และทางเว็บไซต์ www.demarkaward.net และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์สายด่วน 1169
More Stories
ระเฑียร ศรีมงคล คว้าศิษย์เก่าดีเด่น TBS 2024 ตอกย้ำวิสัยทัศน์การเงินยุคใหม่
โค้งสุดท้าย! รพ.รามคำแหง ชวนสมัครงานวิ่งแห่งปี ‘RAM HERO RUN 2024’
PRAPAT โชว์ “นวัตกรรม MBR-all-in-one” ร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม