สวส.เปิดเวทีระดมความคิดเห็นสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2567

.

มุ่งขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมสู่ความยั่งยืน

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) จัดเวทีประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2567 ในวันที่ 30-31 กรกฎาคม 2567 ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้มีส่วนได้เสีย วิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคม ร่วมระดมความคิดเห็น แนวทางการพัฒนา วิสาหกิจเพื่อสังคม และกลุ่มกิจการเพื่อสังคม  ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าพัฒนาสังคมและชุมชน เพื่อความยั่งยืน พร้อมกำหนดนโยบายและการส่งเสริมและพัฒนาการประกอบกิจการวิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคม ประจำปี 2568 เดินหน้าขยายเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมต่อเนื่อง

       นายธนาวุฒิ ศุภางคะรัตน์ หัวหน้าส่วนส่งเสริมและยกระดับวิสาหกิจเพื่อสังคม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) ในฐานะหน่วยงานหลักในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคม และกลุ่มกิจการเพื่อสังคม  เปิดเผยว่า การจัดประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2567 ในครั้งนี้  ได้เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม สถาบันการศึกษา สถาบันการเงิน รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้มีโอกาสนำเสนอและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ เพื่อนำไปสู่การสรุปเป็นข้อเสนอแนะ  ในแผนการส่งเสริมสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม และกลุ่มกิจการเพื่อสังคม  และเป็นแนวทางการขยายเครือข่ายสมาชิกเพื่อให้การดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมมีความเข้มแข็งมากขึ้น นับเป็นประโยชน์ต่อสังคมในทุกมิติ

การจัดประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2567 มีวิสาหกิจเพื่อสังคม กลุ่มกิจการเพื่อสังคม องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้มีส่วนได้เสีย รวมไปถึงผู้ที่สนใจด้านธุรกิจเพื่อสังคม เข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นไปตามพรบ.ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 มาตรา 75 ที่กำหนดให้มีการประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม เป็นประจำทุกปี เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคมให้สอดรับกับทิศทางการเปลี่ยนแปลง ทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อกำหนดนโยบายและแนวทาง ที่จะส่งผลต่อการพัฒนา ในการประกอบกิจการวิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคมให้มีความก้าวหน้าและทันสมัย รองรับต่อการเติบโตของประเทศ ก้าวสู่การเป็น Mainstream Social Enterprise For Sustainable Future

นายธนาวุฒิ ศุภางคะรัตน์ หัวหน้าส่วนส่งเสริมและยกระดับวิสาหกิจเพื่อสังคม กล่าวถึง เป้าหมายในการจัดประชุมในปีนี้ว่า ถือเป็นอีกปีที่สำคัญ ที่ทุกภาคส่วนเห็นประโยชน์และให้ความสำคัญ ในการเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อยกระดับ วิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคม เนื่องจากเป็นกลไกลสำคัญของการประกอบธุรกิจในการดูแลสังคมและชุมชนให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน รวมถึงเพื่อกำหนดกรอบวาระการจัดงานประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคมประจำปี 2568 ที่จะมีแผนการขยายความร่วมมือและเครือข่ายใหม่ๆเพิ่มขึ้น

ในการจัดประชุมในปีนี้ เป็นการเปิดกว้างเพื่อให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม จึงได้มีการจัดประชุมในรูปแบบไฮบริด ทั้งออนไซต์ และ ออนไลน์ มุ่งเน้นกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วม รวมถึงกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “มุมมองความก้าวหน้าต่อการพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคมสู่กระแสหลักที่ยั่งยืน” โดยคุณนภา เศรษฐกร นอกจากนี้ยังได้เปิดเวทีเสวนาในหัวข้อ “สานพลังเครือข่ายภาคเอกชนในการขับเคลื่อนวิสาหกิจเพื่อสังคม” โดย คุณภูรี สมิทธิเนตย์ หัวหน้าโครงการ Cafe Amazon for Chance จากบริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ผศ.ดร.ธนวรรณ สำลีรัตน์ คาร์ราเวย์ Senior Program Specialist, Yunus Center AIT, Asian Institute of Technology (AIT) และ Health Lead, Yunus Thailand Foundation จาก Yunus Thailand Foundation คุณปรเมษฐ์ พูลสุข Social Finance Lead จาก ChangeFusion รวมถึงการออกบูธนิทรรศการของวิสาหกิจเพื่อสังคม จำนวน 15 บูธ ณ สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน)

นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการสรุปมติการประชุมประเด็นสมัชชา เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ หรือแนวทางการพัฒนา ตามประเด็นการประชุม 5 หัวข้อ ดังนี้ 1. การสร้างการรับรู้สำหรับวิสาหกิจเพื่อสังคม 2. การสร้างความเข้มแข็งทางธุรกิจ 3. การสนับสนุนและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสำหรับวิสาหกิจเพื่อสังคม  4. การสร้างความน่าเชื่อถือของวิสาหกิจเพื่อสังคม  5. สิทธิประโยชน์ของวิสาหกิจเพื่อสังคม ทั้งนี้ สามารถติดตามมติการประชุมสมัชชาวิสาหกิจเพื่อสังคม ประจำปี 2567 ได้ทางเว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) www.osep.or.th มาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนวิสาหกิจเพื่อสังคม เข้าสู่ Mainstream Social Enterprise For Sustainable Future