ชูเทคโนโลยีตอบโจทย์รักษาผู้มีบุตรยากเต็มรูปแบบ
บมจ.โรงพยาบาลนครธน มองเทรนด์การมีบุตรยากมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหนุนความต้องการใช้เทคโนโลยีการแพทย์ช่วยแก้ไข ผสานความร่วมมือพันธมิตรรุกเปิดบริการ “ศูนย์นครธน กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้” โฉมใหม่ มุ่งสู่การเป็นผู้นำให้บริการเพื่อการมีบุตร ชูเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยทั้งการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำเชื้อ ประมวลผลด้วยระบบ AI และการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนด้วยเครื่อง EmbryoScope Plus เพิ่มโอกาศความสำเร็จในการตั้งครรภ์ ก้าวสู่เป้าหมายโรงพยาบาลอันดับ 1 ในย่านฝั่งธน
รองศาสตราจารย์ ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการบริษัท บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยและชาวต่างชาติประสบปัญหามีบุตรยากและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยมีสาเหตุจากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม อาทิ อัตราการมีคู่ครองและการแต่งงานที่ลดลง ความเครียดจากการทำงาน, อาการเจ็บป่วย และปัญหาด้านสุขภาพ ฯลฯ ส่งผลให้มีความต้องการใช้บริการและพึ่งพาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีความทันสมัยและปลอดภัย เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF, ICSI) เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์, การตรวจคัดกรองและวินิจฉัยความผิดปกติของโครโมโซมด้วยวิธี NGS (Next Generation Sequencing) เพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างมีคุณภาพ และเติมเต็มความฝันการมีบุตร
ล่าสุด โรงพยาบาลนครธน ได้เปิดบริการ “ศูนย์นครธน กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้” โฉมใหม่ ภายใต้ความร่วมมือกันระหว่าง บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) และบริษัท กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้ จำกัด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ประสบปัญหามีบุตรยาก ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ และมุ่งสู่การเป็นผู้นำการให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยากอย่างเต็มรูปแบบ
แพทย์หญิงศิเรมอร ทองสิมา ผู้อำนวยการสายงานแพทย์ บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
ความร่วมมือระหว่างกันครั้งนี้ ช่วยเพิ่มศักยภาพการรักษาแก่ผู้มีบุตรยาก โดย ศูนย์นครธน กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้ มีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ และทีมนักวิทยาศาตร์ที่มีประสบการณ์ใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ทันสมัยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา และช่วยให้บุตรที่เกิดมามีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง เพื่อให้บริการวางแผนมีบุตรและวิเคราะห์ภาวะมีบุตรยากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ การตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อน (PGT) ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเลือกตัวอ่อนจากผลการตรวจวินิจฉัยในระดับโครโมโซมและยีน เพื่อคัดกรองตัวอ่อนที่มีพันธุกรรมผิดปกติออกไป โดยการใช้วิธีเด็กหลอดแก้ว (ICSI) ร่วมกับการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อน (PGT) จะมีโอกาสได้เลือกตัวอ่อนที่สมบูรณ์ หรือมีโครโมโซมปกติ หรือมีเพียงยีนแฝงเท่านั้น เพื่อย้ายกลับสู่โพรงมดลูกและช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์
ทั้งนี้ โรงพยาบาลนครธน มุ่งเน้นศักยภาพการให้บริการ โดยมีห้องปฎิบัติการตรวจวิเคราะห์น้ำเชื้อ ห้องปฎิบัติการปฎิสนธิ ห้องปฎิบัติการเลี้ยงตัวอ่อน เพื่อรองรับบริการการรักษา ได้แก่ การผสมเทียม (IUI: Intrauterine Insemination) การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF: In Vitro Fertilization) การทำอิ๊คซี่ (ICSI: Intracytoplasmic Sperm Injection) การทำ PESA/TESE วิธีเก็บอสุจิจากกรณีปัญหาของฝ่ายชาย การตรวจวินิจฉัยโรคทางพันธุกรรม PGT(Preimplantation genetic testing) เพื่อป้องกันถ่ายทอดความผิดปกติในครอบครัวที่มีประวัติโรคทางพันธุกรรม การตรวจวิเคราะห์โครโมโซมตัวอ่อน NGS (Next Generation Sequencing) และการแช่แข็งไข่ (Oocyte Freezing) พร้อมทั้ง เสริมประสิทธิภาพตั้งแต่การวิเคราะห์ด้วยเครื่องตรวจคุณภาพน้ำเชื้อ Semen Quality Analyzer ประมวลผลด้วยระบบ AI บันทึกภาพวีดีโอเพิ่มความแม่นยำในการคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงมาปฎิสนธิกับไข่ ดูแลตัวอ่อนด้วยระบบปิดผ่านเครื่องเพาะเลี้ยง EmbryoScope Plus ควบคุมอุณหภูมิ ลดการรบกวน สร้างสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อน มีการบันทึกภาพต่อเนื่อง 10-20 นาที (Time-Lapse Imaging) ผ่านซอฟต์แวร์การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกประเมินโอกาสที่ตัวอ่อนจะฝังตัว และพัฒนาไปเป็นการตั้งครรภ์ที่ประสบความสำเร็จ ภายใต้ระบบการดูแลที่ดูแลโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนและพันธุศาสตร์
นอกจากนี้ ศูนย์นครธน กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้ ได้ปรับปรุงพื้นที่การให้บริการใหม่ ที่บริเวณ ชั้น 4 ของโรงพยาบาล โดยมีการตกแต่งอย่างอบอุ่น เพิ่มความเป็นส่วนตัว รองรับผู้รับบริการทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยมีล่ามแปลภาษาอังกฤษ จีน และเมียนมา ทั้งนี้ หากผู้รับบริการประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ ทางโรงพยาบาลยังมีแพทย์เฉพาะทางสาขาต่างๆ ในการดูแลอย่างครอบคลุม ตั้งแต่ การฝากครรภ์ การคลอด โดยสูติ-นรีเวช, การดูแลทารกแรกเกิด โดยกุมารแพทย์ด้านทารกแรกเกิดและปริกำเนิด รวมไปถึงการดูแลสุขภาพเด็ก และการรับวัคซีน โดยกุมารแพทย์ เพื่อตอบสนองการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย โรงพยาบาลนครธน มุ่งมั่นพัฒนาความเชี่ยวชาญเฉพาะทางตามมาตราฐานสากล และให้การดูแลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ และมีเป้าหมายก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลอันดับ 1 ในย่านฝั่งธน ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2564 มีรายได้ 1,551.67 ล้านบาท, ปี 2565 รายได้ 1,963.05 ล้านบาท เติบโต 20% จากปี 2664 และในปี 2566 รายได้ 2,036.89 ล้านบาท เติบโต 3.7% จากปี 2565
More Stories
J&C เปิดตัวสินค้าใหม่ “HERBALANCE”
โรงพยาบาลวิมุต สถาบันประสาทวิทยา และ Agnos health ร่วมทดสอบการใช้งาน ‘AN AN Bot’ AI ช่วยตอบคำถามผู้ป่วย
ครั้งแรกของซุปตาร์ตัวพ่อ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” กับการก้าวสู่วงการนวัตกรรมความงาม!