DDD กวาดกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2567 ทะยาน 1,480% YoY

พร้อมเสริมทัพแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ใหม่ หนุนรายได้ครึ่งปีหลัง 

บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก อุปกรณ์ตกแต่งทรงผม อุปกรณ์เสริมความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เครื่องครัว รวมไปถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ แบรนด์ดัง อาทิ SNAILWHITE, OXE’CURE, SPARKLE, LESASHA, JASON, MAKAVELIC, @HOME และแบรนด์น้องใหม่ล่าสุด VALERA รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 23 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 1,480 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนครึ่งปีแรกกวาดกำไรสุทธิ 33 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 755 เสริมทัพแบรนด์ VALERA ไตรมาส 3 ดันกลุ่มไลฟ์สไตล์เติบโตครึ่งปีหลังตามเป้าอย่างต่อเนื่อง

นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2567 มีรายได้จากการขาย 373 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 0.48 จากปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจหลายประการและภาวะการชะลอตัวของเศรษกิฐภายในและต่างประเทศ โดยรายได้จากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเติบโตอัตราร้อยละ 15 จากการเติบโตของยอดขายในประเทศ การพัฒนาสูตรการผลิตและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการขยายตลาดกลุ่มตัวแทนจำหน่าย ออนไลน์ และร้านค้าปลีกดั้งเดิม (Traditional Trade) เพื่อเพิ่มความครอบคลุมของการกระจายสินค้า

ในขณะที่ต้นทุนสินค้าและบริการสำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2567 มีมูลค่า 151 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของรายได้จากการขาย สัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 point เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 ที่มีต้นทุนสินค้าและบริการ 136 ล้านบาท หรือร้อยละ 36 สาเหตุหลักมาจากต้นทุนขายสินค้าในต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาวะการแข่งขันในตลาด และราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน ประกอบกับการขายสินค้ารายการพิเศษ (Big lot) ให้กับคู่ค้าหลักในต่างประเทศ

ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับไตรมาส 2 ปี 2567 มีมูลค่า 214 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 57 ของรายได้จากการขาย ลดลงร้อยละ 1 point เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 ที่มีค่าใช้จ่ายและบริหาร 219 ล้านบาท หรือร้อยละ 58 ของรายได้จากการขาย โดยลดลงจากควมคุมค่าใช้จ่ายตามแผน Synergy Roadmap ภายในกลุ่มบริษัทโดยเฉพาะด้านคลังสินค้าและค่าใช้จ่ายด้านการขายเพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานภายในกลุ่มบริษัทอย่างต่อเนื่อง

จากปัจจัยข้างต้น บริษัทมีผลให้กำไรสุทธิ (Net Profit) ในไตรมาส 2 ปี 2567 มูลค่า 23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1,480 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 ที่มีผลกำไรสุทธิ 2 ล้านบาท ทั้งนี้กำไรสุทธิครึ่งปีแรกของปี 2567 มีมูลค่า 33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 755 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิครึ่งปีแรกของปี 2566 ที่มีมูลค่า 4 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงมุ่งเน้นสร้างการเติบโตของยอดขายและกำไรอย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงแผนการจับมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว พร้อมเสริมทัพผลิตภัณฑ์และแบรนด์สินค้าใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมความงามและไลฟ์สไตล์อย่างต่อเนื่อง