“Ultra Black Solar” หลังคาบ้านสะท้อนงานศิลป์!

 แผงดำสนิทเรียบหรู-ไร้เส้นตาราง ผสานเทคโนโลยี BC เซลล์ประสิทธิภาพสูงกว่า 25%

เมื่อแผงโซลาร์มาพร้อมดีไซน์สวยงามเรียบหรู สีดำสนิทไร้เส้นตาราง และเทคโนโลยี BC ที่ให้เซลล์ประสิทธิภาพสูงกว่า 25% สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ดีกว่าแผงทั่วไปแม้ในสภาวะแสงน้อย “HI-MO X6 Ultra Black” นวัตกรรมใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย ที่จะเข้ามาตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคนี้ได้อย่างลงตัว 

ด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคนหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการ WFH, สังคมผู้สูงอายุที่ใช้ชีวิตอยู่บ้าน, การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และกลุ่มคนที่หันมาเลี้ยงสัตว์ (Pet Humanization) ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ค่าไฟแพงขึ้น ดังนั้นการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป นับเป็นการใช้พลังงานทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟและดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนแล้ว ในปัจจุบันที่การพัฒนาเทคโนโลยีโซลาร์ก้าวล้ำมากขึ้น ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพ ครอบคลุมไปถึงงานดีไซน์ที่ถูกคิดค้นและออกแบบมาอย่างมีคุณค่า นับเป็นการสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย และส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับตัวบ้านได้อย่างลงตัวสวยงาม 

“HI-MO X6 Ultra Black” แผงโซลาร์บนหลังคาบ้านสะท้อนงานศิลป์ 

โดดเด่นแม้มองเพียงภายนอกด้วยตัวแผงสีดำสนิท ไร้เส้นตาราง ดูหรูหรา และทันสมัย เมื่อนำไปติดบนหลังคาบ้านจะยิ่งเพิ่มดีไซน์ที่สวยงาม สะท้อนคุณค่าต่างๆ ทั้งในเรื่อง สุนทรียศาสตร์ขั้นสูง เทคโนโลยีชั้นนำ ความน่าเชื่อถือ และ Low-carbon lifestyle มาพร้อมการออกแบบพิเศษทำให้ป้องกันการสะท้อนแสง ไม่รบกวนสายตา โดยจุดเริ่มต้นมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นตลาดแผงโซลาร์เซลล์สีดำที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป อีกทั้งยังเป็นบ้านเกิดของศิลปินชื่อดัง Vincent van Gogh การให้ความสำคัญในเรื่องความสวยงามจึงถูกถ่ายทอดผ่านยีนของชาวดัตช์ ทำให้พวกเขามองหาแผงโซลาร์เซลล์ที่ออกแบบอย่างสวยงาม เพื่อให้เข้ากับตัวบ้านและสภาพแวดล้อม สำหรับโครงการแรกในยุโรป ที่ใช้แผง

โซลาร์เซลล์รุ่น “Hi-MO X6 Ultra Black” ตั้งอยู่ในย่านไฮเอนด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า แผงโซลาร์เซลล์รุ่นนี้ตอบโจทย์ความต้องการด้านความสวยงามได้อย่างสมบูรณ์แบบ และสามารถผลิตพลังงานที่เสถียรช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี 

เหนือระดับด้วยเทคโนโลยี BC เซลล์ประสิทธิภาพสูงกว่า 25% มากกว่าแผงโซลาร์ทั่วไป

“HI-MO X6 Ultra Black” เป็นแผงโซลาร์รุ่นกระจกคู่ ขนาด 1722 x 1134 x 30 mm ความหนาด้านหน้า 2 mm และด้านหลัง 1.6 mm ขนาด 54 เซลล์ มาพร้อมเทคโนโลยี BC (Back Contact) มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการออกแบบรายละเอียดด้านหน้าเซลล์ที่จะไม่เห็นบัสบาร์ เพราะเชื่อมวงจรทั้งหมดไว้ที่ด้านหลังของเซลล์ ทำให้หน้าแผงสามารถรับแสงได้ 100% ดังนั้นก็สามารถผลิตไฟฟ้าได้ดีในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูงและในสภาวะที่มีการแผ่รังสีต่ำ จากการทดสอบ Light absorption (การดูดกลืนแสง) ดีขึ้นประมาณ 2.27% อีกทั้งยังใช้ฟิล์ม POE ชนิดพิเศษห่อหุ้มแผงเซลล์ มีคุณสมบัติทนทานสูง แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูง และด้วยพื้นผิวที่มีความหยาบทำให้แสงที่ตกกระทบลงมาไม่สะท้อนออก เพิ่มการดูดซับแสงได้ดีกว่าปกติ เหมาะสำหรับการติดตั้งบนหลังคาบ้านที่ได้ทั้งเรื่องการประหยัดไฟและความสวยงาม โดยมีระยะเวลาการรับประกันสินค้าและประสิทธิภาพตัวแผงและวัสดุอยู่ที่ 25 ปี และประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 30 ปี นับว่ายาวนานที่สุดในไทย ณ ปัจจุบัน อีกทั้ง “HI-MO X6 Ultra Black” ยังการันตีคุณภาพสินค้าว่าเป็นที่ยอมรับในสากลด้วยการคว้ารางวัลระดับนานาชาติถึง 2 รางวัล ได้แก่ รางวัล A’ Design Award & Competition และ รางวัล French Design Awards

NEPS ผู้นำเข้าและจำหน่าย “HI-MO X6 Ultra Black” รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย 

บริษัท นิว เอ็นเนอร์จี พลัส โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ NEPS ได้รับความไว้วางใจจาก LONGi (ลอนจี) ซึ่งเป็นผู้นำและครองตำแหน่งผู้ผลิตแผงโซลาร์อันดับ 1 ของโลก ให้นำเข้าและจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์รุ่น “HI-MO X6 Ultra Black” รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย โดย NEPS นับเป็นผู้นำด้านการให้บริการพลังงานแสงอาทิตย์แบบ One Stop Solution ครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบ การติดตั้ง การปรับปรุงโครงสร้างบ้าน/อาคาร การประสานไปยังหน่วยงานภาครัฐ การบำรุงรักษา บริการหลังการขาย รวมถึงการนำสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาจำหน่าย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าในการแก้ Pain Point ต่างๆ ได้ อาทิ ตัวแผงโซลาร์เซลล์ All Black ที่เราเห็นทั่วไปจะมีเส้นสีดำอยู่ด้านหน้า ทำให้พื้นที่รับแสงถูกบดบังไม่สามารถรับแสงได้เต็มที่ ในขณะที่แผงโซลาร์เซลล์รุ่น  “HI-MO X6 Ultra Black” จาก LONGi ได้เข้ามาทำลายข้อจำกัดนี้ จึงเกิดเป็นแผงโซลาร์ที่มีดีไซน์ที่สวยงาม สีดำสนิทไร้เส้นตาราง ประกอบกับการใช้เทคโนโลยี BC (Back Contact) ที่เมื่อนำมาประยุกต์เข้ากับแผงโซลาร์ ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ แม้ในพื้นที่เล็กน้อย

เรียกได้ว่าเป็นความก้าวล้ำอีกขั้นของเทคโนโลยีโซลาร์รูฟ ที่ถูกคิดค้น พัฒนา และออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคใหม่ ที่ได้ทั้งประสิทธิภาพ ดีไซน์ และการดูแลสิ่งแวดล้อม สู่ความยั่งยืนแห่งอนาคตได้อย่างแท้จริง