25 พฤศจิกายน 2024

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

กนอ. จับมือ ส.อ.ท. จัดสัมมนาวิชาการ “Eco Innovation Forum 2024” ชู “Now Thailand” ดันเศรษฐกิจโตอย่างยั่งยืน ควบคู่รักษาสิ่งแวดล้อม

      การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จับมือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  (ส.อ.ท.) จัดสัมมนาวิชาการ “Eco Innovation Forum 2024” ภายใต้แนวคิด “Now Thailand : Sustainable Futures ลงทุนในประเทศไทยเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน” เน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเปิดงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2567 “Eco Innovation Forum 2024” พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษภายใต้แนวคิด “Now Thailand : Sustainable Futures ลงทุนในประเทศไทยเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน” โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม

            นายเอกนัฏ ระบุว่า แม้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ปี 2567 จะขยายตัวร้อยละ 2.3 แต่เพื่อรักษาการเติบโตในระยะยาว จำเป็นต้องกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ ยกระดับด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี และพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้อต่อการลงทุน ซึ่งทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยต้องมุ่งสู่ความยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และพร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ ทั้งจากสถานการณ์ ภูมิรัฐศาสตร์ และมาตรการกีดกันทางการค้า โดยรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและโครงสร้างการผลิต โดยจะร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาประเทศ ซึ่งประเทศไทย ต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ (Now Thailand) ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางการลงทุน แต่เป็น “ทางด่วน” ที่จะเร่งการลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

กระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบายขับเคลื่อน 3 ด้านหลัก ได้แก่ การจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นพิษ การส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย และการสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ โดยมียุทธศาสตร์ในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอุตสาหกรรม พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว และบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยมุ่งมั่นสนับสนุนผู้ประกอบการให้บรรลุเป้าหมายของอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเติบโตไปพร้อมกับชุมชน ตามแนวทาง MIND 4 มิติ ได้แก่ ความสำเร็จทางธุรกิจ ความอยู่ดีกับสังคมโดยรวม ความลงตัวกับกติกาสากล และการกระจายรายได้สู่ชุมชน

สำหรับภารกิจสำคัญในปีงบประมาณ 2568 กระทรวงฯ จะมุ่งเน้นการส่งเสริม Soft Power การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต การยกระดับเศรษฐกิจอุตสาหกรรม การส่งเสริมอุตสาหกรรมสีเขียว การขับเคลื่อนศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาล การลดมลพิษทางอากาศ การบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการยกระดับการบริการของกระทรวง

รมว.อุตสาหกรรม ยังกล่าวขอบคุณ กนอ. และ ส.อ.ท. ที่ร่วมมือกันจัดงาน พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับ
นิคมอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองต่างๆ โดยหวังว่างานสัมมนาครั้งนี้จะเป็นโอกาสดีที่ทุกท่านจะได้เตรียมตัวรับมือกับความท้าทายต่างๆ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก เพื่อให้ “Now Thailand: Sustainable Futures” เป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนและนำไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง

ด้านนายสุเมธ ตั้งประเสริฐ  กรรมการ กนอ. รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า กนอ.ร่วมกับ ส.อ.ท. จัดงานสัมมนาวิชาการ Eco Innovation Forum 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 โดยวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อเผยแพร่ผลงานเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เชิดชูเกียรติองค์กรที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และมุ่งสู่ Carbon Neutrality ภายในปี 2593 ผ่านแนวทาง 3R คือ 1.“ลด” การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นเหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) 2.“หมุนเวียน” พลังงานธรรมชาติหรือพลังงานที่สะอาด อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม หรือพลังงานน้ำ และ 3.“ชดเชย” คาร์บอนที่ถูกนำมาใช้ด้วยกิจกรรม อาทิ การปลูกป่า การลงทุนในพลังงานหมุนเวียน หรือการซื้อคาร์บอนเครดิต เพื่อการดำเนินการให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอนให้ได้ ภายในปี 2593 ทั้งหมดนี้ เพื่อให้สอดรับกับนโยบายการปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยึดหลัก สะอาด สะดวก โปร่งใส นำพาภาคอุตสาหกรรมไทยสู่มาตรฐานสากล และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

 

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล  ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี สงครามการค้า ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้ GDP ไทยเติบโตเฉลี่ยต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ภาคอุตสาหกรรมต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง แสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ การพัฒนาที่ยั่งยืนจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยไทยตั้งเป้าลดคาร์บอนและมุ่งสู่เศรษฐกิจที่เป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 ซึ่งเป็นความจำเป็นด้านสิ่งแวดล้อมและโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจใหม่

ส.อ.ท. ผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทยผ่านนโยบาย ONE FTI โดยยกระดับอุตสาหกรรมเดิม และสร้างอุตสาหกรรมใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เทคโนโลยีชีวภาพ และหุ่นยนต์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน นำไปสู่โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ อุตสาหกรรมสีเขียว และ Net Zero

นอกจากนี้ ส.อ.ท. ยังส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ให้เป็น Smart SMEs ด้วยแนวคิด 4GO คือ GO Digital & AI, GO Innovation, GO Global และ GO Green เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาประเทศไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน

NOW Thailand วันนี้ไม่ใช่แค่แผนหรือแนวคิด แต่เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน ประชาสังคม และสถาบันการเงิน ในการเร่งรัดการลงทุนและยกระดับอุตสาหกรรมสู่ Next-Gen Industry ที่เน้นความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยเป้าหมายร่วมกันภายใต้แนวคิด ONE FTI (One Vision, One Team, One Goal) ส.อ.ท. และ กนอ. พร้อมเป็นพันธมิตรกับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

สำหรับการสัมมนาวิชาการประจำปี 2567 “Eco Innovation Forum 2024” กนอ. ร่วมกับ ส.อ.ท. จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “NOW THAILAND : Sustainable Futures” มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยสู่ระดับสากลอย่างยั่งยืน นอกจาก มีการปาฐกถาพิเศษ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว ยังมีพิธีมอบโล่เกียรติยศและใบประกาศเกียรติคุณ ให้แก่นิคมอุตสาหกรรมและโรงงานอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยมีนิคมอุตสาหกรรมที่ยกระดับเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระดับ Eco-World Class 9 แห่ง ระดับ Eco-Excellence 25 แห่ง ระดับ Eco-Champion 40 แห่ง โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) 79 แห่ง และโรงงานเครือข่ายลดก๊าซเรือนกระจกดีเด่น 5 แห่ง

นอกจากนี้ การสัมมนายังแบ่งเป็น 4 ห้อง ประกอบด้วย 1.Eco Industry to Sustainable & ESG 2.Eco Journey to Carbon Neutrality 3.การบริหารจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม ตามหลัก Circular Economy และ 4.เทคโนโลยีและการประยุกต์ใช้ Big Data สําหรับอุตสาหกรรมในอนาคต โดยการจัดงานในปีนี้ได้รับความสนใจจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม นักวิชาการ ภาคประชาชน และสื่อมวลชน ลงทะเบียนเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 500 คน

 

Skip to content