เปิดตัวแคมเปญ “เชื่อมต่อพลังใจ สู้ภัยน้ำท่วม” กางแผน 4 เฟส ช่วยเหลือระหว่าง-หลังภัยพิบัติ
“บางกอกเคเบิ้ล” ต่อยอดแนวคิดเซฟคน-เซฟเมือง-เซฟสิ่งแวดล้อม ผนึกกำลัง 3 พันธมิตรพลังงานไฟฟ้ายุคใหม่ Hatari-SHARGE-ION Energy เปิดตัวแคมเปญ “เชื่อมต่อพลังใจ สู้ภัยน้ำท่วม” รวมพลังความเชี่ยวชาญ จุดประกายไฟฟ้าแห่งความหวัง ช่วยเหลือสังคม ฟื้นฟูจากทุกสถานการณ์ภัยพิบัติ วางแผนดูแลทั้งระหว่างและหลังสถานการณ์น้ำท่วม ผ่านการช่วยเหลือ 4 เฟส ทั้งการลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ-มอบสายไฟซ่อมบำรุงสถานที่ส่วนกลาง-ตรวจสอบความปลอดภัยไฟฟ้าในชุมชน-ติดตั้ง Solar ช่วยให้มีไฟฟ้าใช้แม้ไฟดับ นำร่องลงพื้นที่ประสบอุทกภัยเชียงใหม่-เชียงราย มอบถุงยังชีพให้แก่ 6 ตำบล 44 ชุมชน เตรียมมอบสายไฟ ฟื้นฟูชุมชน อาทิ วัด-โรงเรียน หลังน้ำลด
นายพงศภัค นครศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานขายและการตลาด บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด หรือ Bangkok Cable (BCC) ผู้นำด้านการผลิตและพัฒนาสายไฟฟ้าและสายเคเบิลชั้นนำของประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทได้สร้างความร่วมมือกับ 3 พันธมิตรบริษัทที่เกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้ายุคใหม่ ได้แก่ บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด (Hatari) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำของไทย บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ผู้ให้บริการสถานีชาร์จภายใต้แบรนด์ “RÊVERSHARGER” และผู้นำ EV Ecosystem Operator ครบวงจร และบริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ION Energy) ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานโซลาร์ครบวงจร เปิดตัวแคมเปญ “เชื่อมต่อพลังใจ สู้ภัยน้ำท่วม” รวมพลังความเชี่ยวชาญของบริษัทระดับท็อปที่เกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้า เพื่อช่วยเหลือสังคม ฟื้นฟูสังคม ชุมชน จากสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และอาจเกิดขึ้นในอนาคต
“เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นครั้งหนึ่ง ความเสียหายหนึ่งที่มักซ่อนตัวอยู่เสมอ คือความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า ตั้งแต่ระดับโครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงระดับครัวเรือน ความเสียหายเหล่านี้ สร้างผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต และสร้างความเสี่ยงต่อความปลอดภัยต่อชีวิตของผู้คน ซ้ำเติมสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในระดับที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ เราในฐานะบริษัทชั้นนำด้านสายไฟฟ้าของไทย ที่มุ่งมั่นเซฟคน เซฟเมือง เซฟสิ่งแวดล้อม จึงได้รวบรวมพันธมิตรชั้นนำทั้งในวงการเครื่องใช้ไฟฟ้า EV Charger และพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์ มาร่วมกันจุดประกายไฟฟ้าแห่งความหวัง ผ่านความเชี่ยวชาญของแต่ละองค์กร เพื่อช่วยให้สังคมก้าวผ่านภัยพิบัติต่างๆ อย่างปลอดภัย” นายพงศภัค กล่าว
ทั้งนี้ การส่งต่อความช่วยเหลือที่ดี จำเป็นต้องดูแลทั้งระหว่างเหตุการณ์ และหลังเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ แคมเปญ เชื่อมต่อพลังใจ สู้ภัยน้ำท่วม จึงมุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือในภัยพิบัติต่างๆ เป็น 4 เฟส ได้แก่ เฟสที่ 1 การให้ความช่วยเหลือระหว่างเหตุการณ์ สนับสนุนข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว เฟสที่ 2 การฟื้นฟูสถานที่ส่วนกลางของชุมชน มอบสายไฟฟ้าของบางกอกเคเบิ้ล ซึ่งเป็นสายไฟฟ้าที่ได้คุณภาพและปลอดภัย ให้แก่สถานที่ส่วนกลางในแต่ละชุมชน อาทิ วัด โรงเรียน เพื่อเร่งฟื้นฟู ช่วยให้สถานที่เหล่านั้นกลับมาอำนวยความสะดวกผู้คนในชุมชนได้ตามปกติ เฟสที่ 3 การจัดทีมตรวจสอบความปลอดภัยของสายไฟฟ้าในพื้นที่ ส่งทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในสถานที่สำคัญในชุมชน และชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติโดยตรง รวมทั้งให้ความรู้เพิ่มเติมแก่คนในพื้นที่ ให้สามารถตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ไฟฟ้าเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ และเฟสที่ 4 การติดตั้งแผงโซลาร์แบบออฟกริด (Off-grid) พิจารณาร่วมกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อคัดเลือกชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อสถานการณ์ภัยพิบัติ เช่น อุทกภัย เป็นประจำ และดำเนินการเข้าไปติดตั้งแผงโซลาร์แบบออฟกริด พร้อมทั้งติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System) เพื่อให้ชุมชนนั้นยังมีไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใช้ แม้เกิดสถานการณ์ที่ใช้ไฟฟ้าแบบปกติไม่ได้
เบื้องต้น ทั้ง 4 บริษัท ได้ร่วมกันเดินหน้าแคมเปญนี้ครั้งแรกที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง โดยได้มอบถุงยังชีพ ให้แก่ 6 ตำบล 44 ชุมชน และอยู่ระหว่างการเตรียมมอบสายไฟที่จำเป็นต่อการใช้ซ่อมบำรุงวัด โรงเรียนในพื้นที่ และเมื่อสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย จะส่งทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็นร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้าน นางสาววรันธร วนวิทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด (Hatari) กล่าวว่า บริษัทฮาตาริ ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคและสังคมมาโดยตลอด และได้ให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องผ่านการบริจาคทั้งในนามองค์กรและในนามส่วนตัวของคณะผู้บริหารบริษัท การสร้างความร่วมมือกับบางกอกเคเบิ้ลในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสที่ทางฮาตาริ สามารถดูแลช่วยเหลือชุมชนและผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติได้อย่างครบวงจร ทั้งระหว่างภัยพิบัติ และการฟื้นฟูหลังจากภัยพิบัติ ในครั้งนี้นอกจากการบริจาคแล้ว ทางฮาตาริได้นำความรู้และความเชี่ยวชาญขององค์กรในการตรวจเช็คเครื่องใช้ไฟฟ้ามาถ่ายทอดเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานทุกคน
นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ในฐานะผู้ให้บริการติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) และผู้ให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) บริษัทตระหนักดีว่า ไฟฟ้า คือพลังงานสำคัญที่มีบทบาทขับเคลื่อนวิถีชีวิตของผู้คนตั้งแต่อดีต และจะยิ่งมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในอนาคตจากการเปลี่ยนผ่านมาสู่การใช้พลังงานสะอาดมากยิ่งขึ้น ความร่วมมือกับบางกอกเคเบิ้ลในครั้งนี้ ถือเป็นการเข้าไปร่วมดูแลสังคมตั้งแต่รากฐาน ให้สังคมและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่างๆ กลับมาใช้ไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย และช่วยให้ไฟฟ้ายังคงสามารถขับเคลื่อนวิถีชีวิตของผู้คนต่อไปได้อย่างราบรื่น
นายพีรกานต์ มานะกิจ ประธานอำนวยการ บริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ จำกัด กล่าวว่า พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานหมุนเวียนที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลิตไฟฟ้าในปัจจุบัน สามารถช่วยลดการก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ พร้อมทั้งยังสามารถช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าให้กับผู้บริโภค จึงนับเป็นพลังงานสีเขียวในการขับเคลื่อนสู่อนาคตอย่างยั่งยืน บริษัทไอออน ในฐานะผู้ให้บริการติดตั้งพลังงานโซลาร์อันดับหนึ่ง สำหรับบ้านที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร ที่รับความไว้วางใจจากผู้พัฒนาอสังหาชั้นนำในประเทศไทย ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในความร่วมมือครั้งนี้กับทางบางกอกเคเบิ้ล บริษัทมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ให้สามารถกลับมาใช้ไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน เพื่อเน้นย้ำถึงเจตนาที่จะส่งเสริมให้พลังงานสะอาดเป็นแหล่งพลังงานที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ (We make renewable energy possible for all) เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชน สะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างยิ่งในทุกการดำเนินงาน
สำหรับ บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด หรือ Bangkok Cable (BCC) เป็นผู้นำด้านการผลิตและพัฒนาสายไฟฟ้าและสายเคเบิลชั้นนำของประเทศไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ.2507 ให้บริการครอบคลุม 7 กลุ่มการใช้งาน ได้แก่ 1.ระบบผลิตและส่งพลังงานไฟฟ้า (Transmission) 2.ระบบจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า (Distribution) 3.ระบบไฟฟ้าภายในบ้านพักและอาคาร (Construction and Building) 4.ระบบขนส่งและคมนาคม (Transportation and Mobility) 5.ระบบไฟฟ้าในโรงงาน และภาคอุตสาหกรรม (Industrial) 6.พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และ 7.ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ (Automotive) เพื่อสร้างความปลอดภัยและขับเคลื่อนเมืองสู่อนาคต ปัจจุบัน มีลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ของทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวนมากที่ใช้สายไฟฟ้าของบางกอกเคเบิ้ล อาทิ โครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 โครงการสายไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าสายสีชมพู โครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออก และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ เขื่อนอุบลรัตน์
More Stories
TPLAS ร่วมต่อต้านคอร์รัปชัน
ระเฑียร ศรีมงคล คว้าศิษย์เก่าดีเด่น TBS 2024 ตอกย้ำวิสัยทัศน์การเงินยุคใหม่
โค้งสุดท้าย! รพ.รามคำแหง ชวนสมัครงานวิ่งแห่งปี ‘RAM HERO RUN 2024’