ทำความรู้จัก “AXTRARM” ผู้อยู่เบื้องหลังการบริหารกองทรัสต์ “AXTRART”

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า แอ็กซ์ตร้า ฟิวเจอร์ ซิตี้ (Axtra Future City Freehold and Leasehold Real Estate Investment Trust) อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. ในการอนุญาตให้เสนอขายหน่วยทรัสต์ เพื่อการดำเนินการจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ “AXTRART” สานต่อความสำเร็จจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าโลตัสส์ รีเทล โกรท หรือ “LPF” เพื่อเปิดประตูสู่โอกาสการลงทุนที่เติบโตอย่างยั่งยืน

AXTRART เตรียมพร้อมก้าวขึ้นเป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ต่อยอดความแข็งแกร่งจากกองทุนรวม LPF ที่มีมูลค่าตลาดสูงติดอันดับ 1 ใน 4 ในดัชนี PF&REIT ของประเทศไทย ด้วยรูปแบบการบริหารจัดการที่ยืดหยุ่น พร้อมมอบสิทธิประโยชน์และผลตอบแทนที่เหนือกว่าแก่นักลงทุน

Real Estate Investment Trust (REIT) การลงทุนที่น่าจับตามอง

REIT เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการลงทุนที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ต่ำ และสามารถสร้างกระแสเงินสดให้กับนักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดย REIT จะระดมทุนเพื่อเข้าลงทุนและบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ สร้างรายได้จากค่าเช่า และนำผลกำไรที่ได้มาจ่ายเป็นเงินปันผลให้แก่นักลงทุนในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของรอบปีบัญชี สำหรับ REIT ในประเทศไทยยังคงมีโอกาสเติบโตจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการขยายตัวด้านความต้องการพื้นที่ค้าขายที่มีคุณภาพ AXTRART จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนใน REIT ที่มีศักยภาพสูง ที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำในธุรกิจค้าส่งค้าปลีกอย่าง บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (CPAXT) ผสานกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ “ผู้จัดการกองทรัสต์ (REIT Manager หรือ RM)” ในการบริหาร AXTRART ให้มีประสิทธิภาพและสร้างผลตอบแทนสูงสุด

บริษัท แอ็กซ์ตร้า ฟิวเจอร์ ซิตี้ พร็อพเพอร์ตี้ รีท จำกัด หรือ “AXTRARM” ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของกองทรัสต์ AXTRART จะเข้ามาดูแลการบริหารจัดการ พร้อมกำหนดกลยุทธ์การลงทุน วางแผนรับมือกับอุปสรรคและความท้าทายต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับ ผู้ถือหน่วยทรัสต์

นายสานต่อ มุทธสกุล กรรมการผู้จัดการ AXTRARM เผยถึงจุดแข็งของ AXTRARM ว่า “เรามีข้อได้เปรียบจากการมีผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่ง คือ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (CPAXT) และ บริษัท ซีพี ฟิวเจอร์ ซิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (CPFC) ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ เราจึงมีความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ประเภทธุรกิจค้าปลีก ทำให้สามารถวิเคราะห์ศักยภาพของสินทรัพย์ และปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อสถานการณ์ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การบริหารความเสี่ยงผ่านการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีทำเลหลากหลาย และการพัฒนาศักยภาพอสังหาริมทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

AXTRARM มีผู้บริหารและคณะทำงานที่มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ด้านการลงทุน การบริหารจัดการ และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนาน มีผลงานทั้งในด้านการพิจารณาคัดเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพสูง การยกระดับและพัฒนาทรัพย์สินเพื่อเพิ่มผลตอบแทน การบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้นโยบายในการบริหารจัดการเชิงรุก จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถบริหารจัดการกองทรัสต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านนายยศวีร์ สุทธิกุลพานิช Head of Primary Markets Distribution Division ธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของกองทรัสต์ AXTRART กล่าวว่า “กองทรัสต์ AXTRART นับเป็นอีกหนึ่งการยกระดับครั้งสำคัญในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยศักยภาพอันโดดเด่นที่ผสานจุดแข็งหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นรากฐานมั่นคงจาก LPF ที่มีสินทรัพย์คุณภาพสูงอย่างศูนย์การค้าโลตัส 23 สาขา ครอบคลุมทำเลศักยภาพทั่วประเทศ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย เป็นต้น โดยปีที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้ค่าเช่าและบริการ กว่า 2,800 ล้านบาทต่อปี มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงถึง 97% ในปี 2566 พร้อมด้วยแรงหนุนจากผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีกอย่าง CP AXTRA ที่รับบทบาทผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของกองทรัสต์ที่จะเข้ามาสนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตของ AXTRART อย่างเต็มที่ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในการบริหารศูนย์การค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ต นอกจากนั้น AXTRART ยังได้รับประโยชน์จากเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งของ CP AXTRA ครอบคลุมทั้งธุรกิจค้าส่งค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอื่น ๆ เปิดโอกาสในการดึงดูดผู้เช่ารายใหม่ สร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมการขาย และต่อยอดธุรกิจในอนาคต

ขณะเดียวกัน ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในประเทศไทยก็มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในระยะกลางและระยะยาว จากปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน เช่น การเติบโตของประชากร การขยายตัวของชนชั้นกลาง การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เช่น รถไฟฟ้า และมอเตอร์เวย์ จะช่วยเชื่อมโยงเมือง และกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกในจังหวัดและภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ จากปัจจัยทั้งหมดคาดว่าจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนค่าเช่าในอสังหาริมทรัพย์ประเภทค้าปลีกในประเทศไทย ยิ่งไปกว่านั้น SCB EIC คาดการณ์ว่า GDP จะเติบโตขึ้น 2.6% ในปี 2568 เมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งน่าจะส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นและช่วยกระตุ้นความต้องการในพื้นที่ในอสังหาริมทรัพย์ประเภทค้าปลีก

AXTRARM พร้อมด้วยทีมบริหาร และพันธมิตรทางธุรกิจทุกหน่วยงาน มุ่งมั่นที่จะนำพา AXTRART ก้าวสู่การเป็นกองทรัสต์ชั้นนำ ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารอสังหาริมทรัพย์ ความโปร่งใสในการทำธุรกรรม และเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง และยั่งยืนแก่นักลงทุน