พร้อมจัดสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษหนุนการเติบโต
ธ.ก.ส. ครบรอบปีที่ 59 เดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรลูกค้าผ่านมาตรการพักชำระหนี้ลูกหนี้รายย่อย ระยะที่ 2 ควบคู่การฟื้นฟูศักยภาพในการประกอบอาชีพและรายได้ พร้อมมุ่งสู่แกนกลางการเกษตรด้วยการยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรมูลค่าสูง สร้างงาน สร้างรายได้ การสนับสนุนเงินทุนทั้งในและนอกภาคการเกษตร ผ่านสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษรองรับการเติบโตในทุกมิติ อาทิ สินเชื่อเงินด่วนคนดี สินเชื่อเงินด่วนกึ่งแสน สำหรับสมาชิกอสม. และอสส. พร้อมเตรียมเปิดตัวสินเชื่อเคหะเพื่อที่อยู่อาศัย BAAC Housing Loans เร็ว ๆ นี้
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสครบรอบวันสถาปนาธนาคาร ปีที่ 59 ธ.ก.ส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกรไทยกว่า 4.7 ล้านครัวเรือน ให้มีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเฉพาะปัญหาภาระหนี้สินครัวเรือนที่เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้ดำเนินมาตรการพักชำระหนี้ลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาลในระยะที่ 1 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 – 30 กันยายน 2567 โดยมีเป้าหมายช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้กับ ธ.ก.ส.
ทุกสัญญารวมกันไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งมีผู้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการฯ จำนวน 1.86 ล้านราย จัดทำเอกสารเพื่อเข้ามาตรการสำเร็จ จำนวนกว่า 1.41 ล้านราย ต้นเงินคงเป็นหนี้ 209,392 ล้านบาท นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ได้มีการจัดอบรมและส่งเสริมฟื้นฟูการประกอบอาชีพ ภายใต้หลักการ 3ลด 3เพิ่ม 3สร้าง ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ พร้อมเตรียมตลาดรองรับในการจำหน่ายผลผลิตผ่านภาคีเครือข่ายของธนาคารให้กับลูกหนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรในการประกอบอาชีพ มีรายได้เพียงพอและสามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด โดย ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2567 มีผู้ผ่านการอบรม จำนวน 315,254 ราย นอกจากนี้ ธนาคารยังได้สนับสนุนเงินทุนผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู การประกอบอาชีพ ภายใต้มาตรการพักชำระหนี้ให้กับผู้ผ่านการอบรมฯ วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท ต่อราย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุนและเสริมสภาพคล่องในระหว่างการพักหนี้ โดยมีผู้ใช้บริการสินเชื่อ จำนวน 15,137 ราย ยอดจ่ายสินเชื่อสะสมรวมกว่า 1,232 ล้านบาท โดยหลังเสร็จสิ้นมาตรการในช่วงระยะที่ 1 ธ.ก.ส. ได้ติดตามและประเมินผล การฟื้นฟูพัฒนาอาชีพ พบว่า ผู้เข้าร่วมมาตรการฯ สามารถสร้างผลผลิต สร้างรายได้เพิ่มหรือลดต้นทุนการผลิตได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 จำนวน 60,629 ราย
สำหรับมาตรการพักชำระหนี้ลูกหนี้รายย่อย ระยะที่ 2 เป็นการแก้ไขปัญหาหนี้ต่อเนื่องให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมมาตรการฯ ระยะที่ 1 กว่า 1.41 ล้านราย โดยเปิดให้ลูกค้าแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการ ระยะที่ 2 ผ่านสาขา ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 – 31 มกราคม 2568 ซึ่งธนาคารจะตรวจสอบข้อมูล ประเมินศักยภาพและความสามารถในการชำระหนี้ (Loan Review) โดยลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข จะได้รับการพักชำระหนี้ในระยะ ที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 – 30 กันยายน 2568 และ ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2567 มีผู้ผ่านการสอบทานศักยภาพหนี้ (LR) เพื่อเข้ามาตรการต่อ จำนวน 49,787 ราย ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ตั้งเป้าหมายในการอบรมและส่งเสริมการฟื้นฟูประกอบอาชีพ ให้กับลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการฯ เพิ่มอีก 300,000 รายทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถนำความรู้จากการอบรมมาเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบอาชีพ ด้วยการปรับวิธีคิด วิธีทำ พัฒนาอาชีพเดิมและเติมอาชีพใหม่ ซึ่งผู้ที่ผ่านการอบรม จะสามารถขอการสนับสนุนสินเชื่อภายใต้โครงการสินเชื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพภายใต้มาตรการฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในการฟื้นฟูศักยภาพ ค่าลงทุนปรับเปลี่ยนการผลิตด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสร้างรายได้เพิ่มขึ้น จนสามารถชำระหนี้ได้หลังสิ้นสุดมาตรการ
โครงการพักชำระหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาล เป็นมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย โดยรัฐบาลจะชำระดอกเบี้ยแทน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้าในช่วงพักหนี้ ซึ่งธนาคารได้กระตุ้นให้เกษตรกรเห็นประโยชน์ของการชำระหนี้ในช่วงนี้ เนื่องจากเงินที่ชำระในช่วงพักชำระหนี้ จะนำไปตัดเงินต้น ทำให้ภาระหนี้ระยะยาวลดลง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าเอง ขณะเดียวกัน ธ.ก.ส. ยังจัดกิจกรรมชำระดีมีโชค โดยมอบโชคให้กับลูกค้าที่ชำระหนี้ก่อนหรือตรงตามกำหนดเวลา เป็นรางวัลมูลค่ากว่า 483 ล้านบาท ซึ่งนอกจากเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับลูกค้าที่ชำระหนี้แล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างวินัยในการชำระหนี้ ช่วยสร้างเครดิตที่ดีให้กับตนเอง และนำไปสู่การแก้ปัญหาหนี้ได้อย่างยั่งยืน
นายฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากภารกิจมุ่งสู่แกนกลางการเกษตร (Essence of Agriculture) ในการยกระดับและเสริมสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการสนับสนุนเงินทุนที่เพียงพอ (Funding) การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี (Technology) การพัฒนาตลาดและองค์ความรู้ (Knowledge and Marketing) และการยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ (Added Value) เพื่อพัฒนาการประกอบอาชีพของเกษตรกรไปสู่การสร้างผลิตภัณฑ์เกษตรมูลค่าสูงที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในตลาดที่มีกำลังซื้อสูง และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ธ.ก.ส. ยังสนับสนุนเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำให้แก่บุคลากรของรัฐและเอกชนที่ทำหน้าที่ในการดูแลภาคชนบทและชุมชน ในการนำไปต่อยอดและ เป็นเงินทุนหมุนเวียนในทุกมิติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชน และป้องกันการก่อหนี้นอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม อาทิ สินเชื่อเงินด่วนคนดีสำหรับสมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) ที่เป็นกลไกสำคัญในการดูแลสุขภาพเกษตรกร ประชาชนและสังคมส่วนรวม กรอบวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท วงเงินกู้รายละไม่เกิน 20,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.67 ต่อเดือน หรือ ร้อยละ 8 ต่อปี ซึ่งมีการจ่ายสินเชื่อไปแล้ว 8,477 ล้านบาท จำนวนผู้กู้ 423,848 ราย และมีการต่อยอดโครงการด้วยการจัดทำสินเชื่อเงินด่วนกึ่งแสน เพื่อสมาชิก อสม. และ อสส. ที่กู้โครงการสินเชื่อเงินด่วนคนดีที่มีการชำระเงินตรงงวด ครบ 4 เดือน สามารถเพิ่มวงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 50,000 บาท กรอบวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท และสามารถ ขยายเวลาการชำระหนี้ออกไปจากเดิมไม่เกิน 48 งวด เป็นผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 125 งวด โดยจ่ายสินเชื่อไปแล้ว 2,836 ล้านบาท จำนวนผู้กู้ 56,726 ราย
และในโอกาสฉลองครบรอบวันสถาปนาปีที่ 59 ธ.ก.ส. เตรียมเปิดตัวสินเชื่อเคหะเพื่อที่อยู่อาศัย BAAC Housing Loans กรอบวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อหลักประกัน ผ่อนชำระสูงสุด 40 ปี เพื่อสนับสนุนเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับเกษตรกรและบุคคลในครอบครัวที่มีรายได้ประจำ เป็นรายเดือน บุคลากรภาครัฐหรือพนักงานองค์กรในสังกัดหน่วยงานที่ได้ทำข้อตกลงร่วมกันกับธนาคาร (MOU) ที่มีบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนาชุมชนในการนำไปซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ปรับปรุงหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัย รวมถึงการ ไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจากสถาบันการเงินอื่น สำหรับผู้ที่สนใจเตรียมติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้ ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ เว็บไซต์ ww.baac.or.th และ Facebook: ธกส BAAC Thailand
More Stories
SAWAD ปลื้มรับข่าวดี คปภ. ไฟเขียวขายประกันออนไลน์
FPI ปักหมุดรายได้ปี 67 พุ่งแตะ 2.6 พันลบ. ออลไทม์ไฮ ยอดขาย 2 บ.ย่อยในอินเดียหนุน-ตุน Backlog แน่น 1,000 ลบ. โชว์ 9 เดือนโกยรายได้ 1.9 พันลบ.-กำไรสุทธิ 167.1 ลบ.
CIMB THAI AUTO เปิดตัว ‘สินเชื่อรถปลดล็อก’ พร้อมช่วยคนมีรถสบายใจไปกับทุกปัญหาเรื่องเงิน