• จากความร่วมมือในครั้งนี้ ส่งผลให้การชำระเงินบนมือถือผ่านเครือข่าย Alipay+ ในญี่ปุ่นครอบคลุมมากขึ้นถึง 3 ล้านร้านค้าที่รองรับการใช้จ่าย
• ความร่วมมือดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อ รองรับรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงลึก เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบท้องถิ่นที่แท้จริง
• ความร่วมมือระหว่าง PayPay และ Alipay+ ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจขนาดเล็กในญี่ปุ่นได้มีโอกาสในการเติบโต และก้าวเข้าสู่อีโคซิสเต็มส์เพื่อการเงินยุคใหม่ระดับสากล ที่งาน Singapore FinTech Festival 2024 บริษัทผู้นำระบบบริการชำระเงินผ่าน QR ของญี่ปุ่น PayPay (เพย์เพย์) ประกาศความร่วมมือกับ Alipay+ (อาลีเพย์พลัส) แพลตฟอร์มการชำระเงิน และบริการดิจิทัลระดับสากลที่เชื่อมโยงผู้บริโภคเข้ากับธุรกิจ ภายใต้ แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล (Ant International) โดยการทำงานร่วมกันระหว่างพันธมิตรรวมถึง PayPay เพื่อรองรับการชำระเงินที่หน้าร้านค้าให้ครอบคลุมขึ้นถึงกว่าสามล้านร้านค้าในญี่ปุ่นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการชำระเงินผ่านอีวอลเล็ทจากประเทศของตนเอง อีกทั้งมอบความปลอดภัย และเปิดโอกาสให้ธุรกิจร้านค้าในญี่ปุ่นได้เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายชำระเงินระดับโลก
ด้วยเครือข่ายการชำระเงินของ Alipay+ ผ่านอีวอลเล็ท นักท่องเที่ยวสามารถสแกนโค้ดชำระเงินของ PayPay เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการในญี่ปุ่นได้อย่างครอบคลุม ความร่วมมือในครั้งนี้ส่งผลให้นักท่องเที่ยวสามารถชำระเงินเพื่อซื้อสินค้า หรือบริการผ่านเครื่อข่ายของ Alipay+ เพียงสแกนคิวอาร์โค้ดของ PayPay ที่ร้านค้าที่รับชำระทั่วญี่ปุ่น รวมถึงร้านที่อาจไม่ได้มีสัญลักษณ์ของ Alipay+ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้รับสิทธิประโยชน์ อาทิ โปรโมชั่นพิเศษในช่วงเทศกาลแห่งการเดินทางท่องเที่ยว อาทิ คริสต์มาส และปีใหม่ ที่กำลังจะมาถึง โดย Alipay+ ร่วมกับ PayPay มีแผนจัดโปรโมชั่นระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม 2024 – 10 มกราคม 2025
โดยนักท่องเที่ยวที่ใช้งานแอปชำระเงิน Alipay, AlipayHK, GCash, Kakao Pay, Toss Pay, Touch ‘n Go, และ TrueMoney จะได้รับส่วนลด 10% (สูงสุด 1,000 เยนญี่ปุ่น หรือ 50 หยวนจีน) แอป Tinaba จะได้รับส่วนลดเงินคืน 10% (สูงสุด 20 ยูโร) โดยผู้ใช้งานสามารถรับสิทธิได้ 1 สิทธิระหว่างช่วงเวลาที่จัดกิจกรรม
เครือข่ายพันธมิตรของ Alipay+ ที่รองรับการชำระเงินในญี่ปุ่นผ่านช่องทางอีวอลเล็ทหรือแอปจากธนาคาร ปัจจุบันมีอยู่ 16 รายได้แก่ Alipay (จีน), AlipayHK (ฮ่องกง), MPay (มาเก๊า), Kakao Pay, Naver Pay และ Toss จากเกาหลีใต้, OCBC Digital, Changi Pay และ EZ-Link จากสิงคโปร์, Touch ‘n Go eWallet และ MyPB by Public Bank Berhad จากมาเลเซีย, GCash และ HelloMoney จากฟิลิปปินส์, TrueMoney จากไทย, Hipay จากมองโกเลีย, และ Tinaba จากอิตาลี ตอบโจทย์ความต้องการการท่องเที่ยวเชิงลึกเพื่อเข้าถึงประสบการณ์ท้องถิ่นอย่างไร้ข้อจำกัด
ข้อมูลจาก World Economic Forum จัดอันดับให้ญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับหนึ่งของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคที่นักเดินทางทั่วโลกต้องการมาเยือน ซึ่งการที่นักท่องเที่ยวมีเพิ่มขึ้นก็จะส่งผลให้ร้านค้าที่รู้จักปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการจากการท่องเที่ยวดังกล่าวได้รับผลประโยชน์
นอกเหนือจาก โตเกียว โอซาก้า และเกียวโต นักท่องเที่ยวในปัจจุบันเริ่มหันมาให้ความสนใจท่องเที่ยวในเมืองที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เพื่อเข้าถึงประสบการณ์แบบท้องถิ่นอย่างแท้จริง โดยนักท่องเที่ยวเหล่านี้ต้องการช่องทางในการชำระเงินที่สะดวกไม่ต่างไปจากการชำระเงินที่ประเทศของตนเอง Alipay+ จึงได้ขยายเครือข่ายร้านค้าที่รองรับการชำระเงินเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว
วิธีการชำระเงินที่มีความครบครันหรือ All-in-one payment มีผลต่อพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค เห็นได้จากการที่นักท่องเที่ยวเริ่มนิยมใช้แอปชำระเงินเพื่อซื้อประสบการณ์ มากขึ้นกว่าการช้อปปิ้งตามห้าง โดยมีจำนวนผู้ใช้จ่ายผ่านแอปชำระเงินจากประเทศของตนเองเมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นเกือบเท่าตัว ในช่วงเดือน 1 มกราคม – 31 ตุลาคม 2024 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา อีกทั้งจำนวนครั้งการใช้จ่ายผ่านแอปพันธมิตรของ Alipay+ ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมามีเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว โดยอาหาร เครื่องดื่ม และการใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง คือประเภทของการใช้จ่ายที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงสิบเดือนที่ผ่านมา นอกเหนือจากการช็อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า ปลดล็อคโอกาสให้ร้านค้าท้องถิ่นก้าวสู่ความเป็นสากล
Alipay+ เชื่อมต่อกว่า 3 ล้านร้านค้าในญี่ปุ่นรวมถึงธุรกิจ SME จำนวนมากผ่านความร่วมมือกับ PayPay โดยธุรกิจและร้านค้าเหล่านี้มีครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศ ตั้งแต่ ร้านขนมที่เป็นที่นิยม ร้านขายของอนิเมะ ไปจนถึงเกสท์เฮ้าใกล้ภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ทำให้การชำระเงินของนักท่องเที่ยวในร้านค้าท้องถิ่นทำได้ง่ายขึ้น จึงอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันร้านค้าท้องถิ่นต่างก็ได้รับอานิสงค์จากการเติบโตของการท่องเที่ยวที่เข้ามาผลักดันเศรษฐกิจระดับภูมิภาค โดยจำนวนการชำระเงินผ่านแอปพันธมิตรของ Alipay+ ที่ร้านค้าภายใต้เครือข่ายของ PayPay เพิ่มขึ้นถึง 50% ในเดือนตุลาคม 2024 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยการเติบโตดังกล่าวไม่รวมการใช้จ่ายในโตเกียว
พันธมิตรอีวอลเล็ท และร้านค้าจำนวนมากต่างร่วมกับ Alipay+ ทำการตลาดเพื่อดึดดูงนักท่องเที่ยว โดยกว่า 20 แบรนด์ได้มีการจัดทำแคมเปญส่วนลดสำหรับพันธมิตรอีวอลเล็ทของ Alipay+ ที่ร้านค้ามากกว่า 300,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น รวมถึงร้านค้าที่สนามบิน ห้างสรรพสินค้า ร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ร้านขายสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ร้านสะดวกซื้อ รวมถึงห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมี่ยม เพื่อสนับสนุนโอกาสในการเติบโตให้แก่ธุรกิจท้องถิ่น Alipay+ เดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการขยายเครือข่ายพันธมิตรชำระเงินซึ่งปัจจุบันรองรับแล้วกว่า 90 ล้านร้านค้า ใน 66 ประเทศทั่วโลก เพื่อเข้าถึงผู้ใช้งานกว่า 1.6 พันล้านคน ผ่าน 35 พันธมิตรผู้ให้บริการชำระเงินผ่านมือถือ รวมถึงผู้ให้บริการชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด ได้แก่ SGQR จากสิงคโปร์, PayNet จากมาเลเซีย, ZeroPay จากเกาหลีใต้, LankaPay จากศรีลังกา และ KHQR จากกัมพูชาเพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม SME
คุณมาซาโยชิ ยานะเสะ, Division Head, Finance Business Strategy Division, PayPay Corporation กล่าวว่า “PayPay มุ่งมั่นในการสร้างอีโคซิสเต็มส์ระบบชำระเงินที่เชื่อมต่อเพื่อสนับสนุนธุรกิจร้านค้าระดับท้องถิ่นให้ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวของนักเดินทางทั่วโลกที่มาเที่ยวญี่ปุ่น ด้วยระบบชำระเงินที่สะดวกและปลอดภัยเพื่อเสริมประสบการณ์การท่องเที่ยว เป้าหมายในการทำงานร่วมกับ Alipay+ ในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นเติบโตขึ้นผ่านการรองรับการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลของธุรกิจในทุกขนาดทั้งในเมืองใหญ่ที่เป็นที่รู้จักในหมูนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ไปจนถึงเมืองที่กำลังเริ่มได้รับความนิยม”
คุณดักลาส ฟีกิน, ประธาน, แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า ความสะดวกในการชำระเงินผ่าน คิวอาร์โค้ด นั้นเข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งต่อการชำระเงินระหว่างการท่องเที่ยว อีกทั้งการทำงานร่วมกับ PayPay ยังเป็นการช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในภาครวมให้เติบโดจากการสร้างช่องทางที่อำนวยความสะดวกให้การรับชำระเงินของผู้ค้าทั่วญี่ปุ่นให้สามารถรับการชำระเงินจากนักเดินทางจากทั่วโลกเพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ลึกซึ้งบนเครือข่ายของ Alipay+ เพื่อนักเดินทางจะสามารถชำระเงินผ่านอีวอลเล็ทจากประเทศของตนเองด้วยการสแกน คิวอาร์โค้ดของ PayPay ที่ร้านค้าที่รับชำระ”
More Stories
ระเฑียร ศรีมงคล คว้าศิษย์เก่าดีเด่น TBS 2024 ตอกย้ำวิสัยทัศน์การเงินยุคใหม่
โค้งสุดท้าย! รพ.รามคำแหง ชวนสมัครงานวิ่งแห่งปี ‘RAM HERO RUN 2024’
PRAPAT โชว์ “นวัตกรรม MBR-all-in-one” ร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม