เชิดชูร้านอาหารอิตาเลียนทั่วไทยที่สะท้อนวัฒนธรรมอิตาเลียนอันโดดเด่นและเป็นเลิศ
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – เมื่อเร็ว ๆ นี้ หอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) ร่วมกับสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวอิตาลี ISNART (Istituto Nazionale Ricerche Turistiche) จัดพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติ Ospitalità Italiana 2024 ครั้งที่ 11 เพื่อการยกย่องร้านอาหารอิตาเลียนทั่วประเทศไทยเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความโดดเด่นด้านรสชาติที่ดั้งเดิมและความเป็นเลิศด้านอาหาร โดยค่ำคืนสุดพิเศษครั้งนี้จัดขึ้น ณ The Crystal Box, Gaysorn Urban Resort ชั้น 19 Gaysorn Tower โดยตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 รางวัลอันทรงเกียรติ Ospitalità Italiana ได้กลายเป็นสัญลักษณ์และการการันตีแห่งคุณภาพที่ยกย่องร้านอาหารอิตาเลียน ร้านพิซซ่า ร้านไอศกรีมเจลาโต้ ที่สะท้อนความมุ่งมั่นตั้งใจและมีแนวทางปฏิบัติที่ส่งเสริมวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนที่เป็นเลิศในประเทศไทย
ในปีนี้ พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติมีเเขกผู้มีเกียรติตบเท้าเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งกว่า 700 ท่าน ประกอบด้วย ผู้สนับสนุนในอุตสาหกรรมกว่า 60 ราย ไม่ว่าจะสปอนเซอร์ต่าง ๆ แบรนด์ร้านและอาหารและเครื่องดื่ม ผู้เชี่ยวชาญของวงการด้านการบริการและการท่องเที่ยว แขกผู้มีเกียรติจากหลากหลายวงการ อีกทั้งแขกผู้ที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลียน ซึ่งทุกท่านร่วมมาเป็นสักขีพยานในการเฉลิมฉลองร้านอาหารอิตาเลียนที่โดดเด่นชั้นนำ วัฒนธรรมอิตาเลียนที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงกิจกรรมเน็ตเวิร์คกิ้งกับแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงานชั้นนำในวงการอาหาร
ซึ่งค่ำคืนอันทรงเกียรตินี้ได้เริ่มขึ้นด้วยการกล่าวเปิดงาน โดย คุณ มัลลิกา มาการิต้า รองประธานหอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) ที่ได้ขอบคุณถึงความมุ่งมั่นตั้งใจและแนวทางปฎิบัติที่ส่งเสริมวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนที่เป็นเลิศของผู้ประกอบการ ตามด้วย คุณ จาโคโม อิบิซซี่ เลขาธิการของ กล่าวถึงผลงานอันโดดเด่นของหอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) ที่ผ่านมา และปิดท้ายด้วยคุณ มิเคเล่ โทเมอา ผู้จัดการทั่วไปของหอการค้าไทย-อิตาเลียน ที่มาให้ของข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Ospitalità Italiana ทั้งในด้านการโปรโมทวัฒนธรรมอิตาเลียนและการส่งเสริมสินค้า รวมถึงแบรนด์คุณภาพจากประเทศอิตาลี
ทั้งนี้แขกผู้มีเกียรติที่ตบเท้าเข้าร่วมงานยังได้ดื่มด่ำไปกับค่ำคืนอันแสนประทับใจด้วยการจัดแสดงอาหารอิตาเลียนต้นตำรับที่ปรุงโดยเชฟชั้นนำที่ได้รับรางวัลต่าง ๆ ที่นำเสนอเมนูอาหารอิตาเลียนอันเป็นเอกลักษณ์และสะท้อนถึงวัฒนธรรมอันโดดเด่น อาทิ เจลาโต้ต้นตำรับและพิซซ่าแบบดั้งเดิมอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นระหว่างงานพิธีครั้งนี้ หอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) ยังได้มอบรางวัลแก่ร้านอาหารถึง 30 แห่ง ที่ได้ผ่านเกณฑ์การตัดสินและมาตรฐานระดับประเทศที่ได้มีการกำหนดไว้ในโครงการ Ospitalità Italiana รวมทั้งการกล่าวถึง รางวัลกิติมาศักย์จากทางหอการค้าในปีนี้ทั้ง 8 ท่าน และผู้ชนะ 2 ท่านจากการแข่งขันในโครงการ The Best Tiramisu ได้แก่ คุณ เชฟเจอริโก้ แวน เดอ วูฟ (Jeriko Van Der Wolf) จากร้าน Bianca Italian ผู้ชนะรางวัลในสาขา Creative Category และ เชฟยอดหญิง ภูมิเจริญ จากร้าน Hybrid Restaurant & Wine Bar ในสาขา Traditional Category โดยค่ำคืนของงานพิธีมมอบรางวัลในครั้งนี้จบลงด้วยกิจกรรมเน็ตเวิร์คกิ้ง และ “Aperitivo Italiano” (อาเปรีติโว อิตาเลียโน) การดื่มเครื่องดื่มก่อนมื้ออาหารในวัฒนธรรมอาหารของอิตาลี ซึ่งทำให้แขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงานได้พูดคุยกันและเฉลิมฉลองวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนที่น่าประทับใจปิดท้ายค่ำคืนได้อย่างประทับใจ
คุณ มัลลิกา มาการิต้า รองประธานหอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ตอนรับผู้มีชื่อเสียงในวงการอาหารของประเทศไทยสู่งานพิธีมอบรางวัล Ospitalita’ Italiana ครั้งที่ 11 นี้ ซึ่งงานในครั้งนี้สะท้อนถึงความทุ่มเทของเราในการรักษาความยิ่งใหญ่และความเป็นเลิศของวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียน อีกทั้งเฉลิมฉลองร้านอาหารที่แสดงความมุ่งมั่นตั้งใจและมีแนวทางปฏิบัติที่ส่งเสริมวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนที่เป็นเลิศในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม ค่ำคืนนี้ตอกย้ำถึงความสำคัญของการรักษามาตรฐานที่เข้มงวดและส่งเสริมคุณค่าต่อประสบการณ์ ‘Made in Italy’ ที่ช่วยให้นักชิมชาวไทยได้มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอย่างแท้จริง และสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับมรดกอันล้ำค่าทางวัฒนธรรมอิตาเลียน”
รางวัล Ospitalità Italiana นั้นคือหนึ่งในพันธกิจที่ยั่งยืนของหอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) โดยเป็นการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมอิตาเลียนที่ต่างแดน ยกย่องความมุ่งมั่นอันเป็นเลิศของเจ้าของร้านอาหารและบุคลากรในอุตสาหกรรมร้านอาหารที่ส่งมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจของอาหารอิตาเลียนในประเทศไทย
More Stories
ระเฑียร ศรีมงคล คว้าศิษย์เก่าดีเด่น TBS 2024 ตอกย้ำวิสัยทัศน์การเงินยุคใหม่
โค้งสุดท้าย! รพ.รามคำแหง ชวนสมัครงานวิ่งแห่งปี ‘RAM HERO RUN 2024’
PRAPAT โชว์ “นวัตกรรม MBR-all-in-one” ร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม