“สมพล ธนาดำรงศักดิ์” บิ๊กบอส บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) มั่นใจรายได้ปี 67 ทะยานแตะ 2.6 พันล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตามนัด! อานิสงส์ยอดขาย 2 บริษัทย่อยในแดนภารตะพุ่ง ตุน Backlog แน่นกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากประเทศอินเดีย เผย 9 เดือนกวาดรายได้ 1,903.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% กำไรสุทธิ 167.1 ล้านบาท มั่นใจไตรมาส 4 /67 สดใส เดินหน้ากลยุทธ์เพิ่มกำลังการผลิต-ขยายฐานลูกค้าใหม่ ทั้งในและต่างประเทศ อัพยอดขาย
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในงวด 9 เดือนปี 2567 มีรายได้รวม 1,903.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.1 ล้านบาท หรือ 4.6% และมีกำไรสุทธิ 167.1 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดดำเนินการของบริษัทย่อยในประเทศไทย ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังการผลิตและขยายฐานลูกค้า
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิ 7.3 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 112.9 ล้านบาท เนื่องจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน หากไม่นับขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง 171.1 ล้านบาท และกำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมืออนุพันธ์จำนวน 66 ล้านบาท บริษัทฯจะมีกำไรประมาณ 112.4 ล้านบาท อีกทั้งยังคงมั่นใจในศักยภาพการเติบโตในระยะยาว และกำลังดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และขยายสู่ตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
สำหรับการดำเนินงานของ 2 บริษัทย่อยในประเทศอินเดีย ในไตรมาส 3/2567 บริษัท เอฟพีไอ ออโต้ พาร์ท อินเดีย มียอดขายสูงถึง 116 ล้านรูปี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายฐานลูกค้าใหม่ และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คาดการณ์รายได้ตลอดทั้งปีจะแตะระดับ 600 ล้านรูปี ส่วนบริษัท อาร์บีเอส พลาสติก อินโนเวชั่น จำกัด ได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงระบบการจัดการภายในทั้งหมด รวมถึงระบบ ERP ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 ส่งผลให้ยอดขายในเดือนกรกฎาคมแทบเป็นศูนย์ อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถฟื้นตัวและทำยอดขายได้รวม 24.9 ล้านบาทในไตรมาสนี้ แม้ว่าจะยังขาดทุนสุทธิ 2.96 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบที่สูง สำหรับแผนการในอนาคต บริษัทตั้งเป้ายอดขายครึ่งปีหลังของปี 2567 ที่ 60 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 2568 ที่ 200 ล้านบาท โดยเชื่อมั่นว่าการปรับปรุงระบบครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการ ส่งผลให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
“แนวโน้มผลงานในไตรมาส 4 คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เพราะธุรกิจอินเดียมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น และบริษัทฯจะมียอดขายจากย่อยที่เปิดใหม่เข้ามาสนับสนุน ทำให้มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ปี 2567 จะแตะที่ระดับ 2,600 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปัจจุบันมีออเดอร์สินค้าในมือ (Backlog) ประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นออเดอร์อินเดีย ส่วนที่เหลือเป็นออเดอร์ในไทย” นายสมพล กล่าวในที่สุด
More Stories
CIMB THAI AUTO เปิดตัว ‘สินเชื่อรถปลดล็อก’ พร้อมช่วยคนมีรถสบายใจไปกับทุกปัญหาเรื่องเงิน
ทีทีบี ให้บริการจัดส่งหนังสือค้ำประกัน (LG Delivery) แก่ลูกค้าธุรกิจ ฟรี ทั่วประเทศ
ออมสิน มอบ 40 ล้านบาท รางวัลพิเศษสลากออมสิน 1 ปี